“บช.น. มุ่งสร้างวินัยจราจร ไม่ชำระค่าปรับส่งหมายจับถึงบ้าน”

พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น./โฆษก บช.น. และ พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์
รอง ผบช.น./ รองโฆษก บช.น. เผยข่าวสารให้ประชาชนได้รับทราบกรณี กองบัญชาการ
ตำรวจนครบาล มีแนวทางในการบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำความผิดตามกฎหมายจราจร และไม่มาชำระ
ค่าปรับภายในระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งที่ผ่านมาพบว่ามีผู้ที่กระทำความผิดตามกฎหมายจราจรแล้วไม่ไปชำระ
ค่าปรับจำนวนมาก และยังคงมีพฤติการณ์ที่ฝ่าฝืนกฎหมายจราจซ้ำ ๆ เป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนและเกิดปัญหาการจราจร สร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินรวมถึงภาพลักษณ์ของประเทศ อย่างต่อเนื่อง

กองบัญชาการตำรวจนครบาล จึงได้กำหนดมาตรการในการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว
เพื่อส่งเสริมให้ผู้ขับขี่มีวินัยจราจร ซึ่งจะช่วยลดปัญหาอุบัติเหตุและปัญหาจราจรในกรุงเทพมหานครได้
ในระดับหนึ่ง โดยมีขั้นตอนการปฏิบัติ ดังนี้

  1. เจ้าพนักงานจราจรออกใบสั่งให้กับผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522
    ทั้งแบบความผิดซึ่งหน้าและความผิดที่ตรวจจับด้วยกล้องตรวจจับการกระทำความผิด ระยะเวลาเป็นไป
    ตามที่กฎหมายกำหนด
  2. กรณีผู้กระทำความผิดไม่มาชำระค่าปรับ เมื่อพ้นระยะเวลาที่กำหนดไว้ในใบสั่งแต่ละประเภท เจ้าพนักงานจราจรจะออกหนังสือแจ้งการไม่ปฏิบัติตามใบสั่ง (ใบเตือน) โดยจัดส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับภายใน 15 วัน นับแต่วันครบกำหนดชำระค่าปรับในใบสั่ง โดยให้ถือว่าเจ้าของผู้ครอบครอง ได้รับแจ้งเมื่อพ้นกำหนด 15 วัน นับแต่วันส่ง และต้องชำระค่าปรับภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งซึ่งในขั้นตอนที่ 1. และ 2. ผู้กระทำความผิดสามารถเลือกชำระค่าปรับ ได้ที่สถานีตำรวจ
    ทุกสถานีทั่วประเทศ, ช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ของธนาคารกรุงไทย, เคาน์เตอร์เซอร์วิสที่มีสัญลักษณ์ PTMและทางไปรษณีย์
  3. กรณีพ้นระยะเวลาที่กำหนดไว้ในใบเตือน และผู้กระทำความผิดยังไม่มาชำระค่าปรับ
    นอกจากการส่งข้อมูลไปยังกรมการขนส่งทางบกเพื่อดำเนินการตามมาตรการงดออกเครื่องหมายการเสีย
    ภาษีประจำปีแล้ว พนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกผู้ต้องหาเพื่อให้มาชำระค่าปรับ หากไม่มาพบตาม
    หมายเรียกทั้ง 2 ครั้ง พนักงานสอบสวนจะ ยื่นคำร้องขออนุมัติศาลในเขตพื้นที่เพื่อออกหมายจับ
  4. กรณีถูกออกหมายเรียก หรือหมายจับ ผู้ต้องหาจะถูกแจ้งข้อกล่าวหา ตามข้อหาที่ผู้ต้องหากระทำผิดตามใบสั่ง และความผิดข้อหาตามมาตรา 155 “ผู้ใดไม่ปฏิบัติตาม ม. 141 (ชำระค่าปรับในเวลาที่กำหนดในใบสั่ง) โดยไม่มีเหตุอันสมควร ต้องระวางโทษ ปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท ซึ่งในขั้นตอนนี้ผู้ต้องหาต้องเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนด้วยตนเอง ณ สถานีตำรวจที่ออกหมายเรียก หมายจับไม่สามารถชำระผ่านช่องทางต่างๆ ตามข้อ 2. ได้
  5. ผลของการถูกออกหมายจับในคดีอาญา เมื่อถูกออกหมายจับแล้ว จะถูกบันทึกในระบบฐานข้อมูลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
  • เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวบุคคลที่มีหมายจับได้ทั่วราชอาณาจักร โดยใช้เทคโนโลยี
    ในการเชื่อมฐานข้อมูล
  • หากบุคคลที่มีหมายจับเดินทางออกนอกประเทศจะถูกจับ และเกิดความยากลำบากในเรื่องการเดินทาง
  • ถูกบันทึกในทะเบียนประวัติซึ่งอาจส่งผลต่อการประกอบอาชีพการทำงาน กรณีที่หน่วยงานสอบถามประวัติคดีอาญาว่าเป็นบุคคลที่มีหมายจับ
  • เกิดความยากลำบากและความน่าเชื่อถือในการทำนิติกรรม
  1. กรณีผู้ต้องหามาพบพนักงานสอบสวนด้วยตนเองหรือถูกจับกุม และยินยอมเปรียบเทียบปรับให้คดีอาญาเลิกกัน

หากประชาชนมีข้อสงสัยว่ามีใบสั่งค้างชำระหรือไม่ สามารถตรวจสอบได้ผ่านช่องทางใบสั่ง
จราจรออนไลน์สำหรับประชาชน https://ptm.police.go th/eTicket/#/ จึงขอแจ้งประชาสัมพันธ์
ให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบ และขอความร่วมมือทุกท่านในการปฏิบัติตามกฎหมายจราจร เพื่อช่วยกัน
ลดปัญหาการเกิดอุบัติเหตุ และปัญหาการจราจรที่เกิดจากการไม่เคารพกฎหมายจราจรและไม่มีวินัย เพื่อให้
สังคมไทยเป็นสังคมที่ปลอดภัยและน่าอยู่ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่
ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร (บก.02) หมายเลขโทรศัพท์ 1197 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือทาง Facebook
และ Twitter 1197
นครบาลใส่ใจเพื่อความปลอดภัยของประชาชน ทีมโฆษก กองบัญชาการตำรวจนครบาล

Leave a comment

Design a site like this with WordPress.com
Get started