ออกหมายจับแล้ว 5 คนจับได้แล้ว 3 คน และยังพิสูจน์ทราบตัวบุคคลอีก 3 คน สอบสวนอ้างว่าถูกผู้ตายใช้ปืนใช้มีดรีดเงินและพยายามฉกตัวหญิงชาวเมียนมาจึงเข้าไปช่วยและรุมทำร้ายฆ่าฝังดิน
ความคืบหน้าคดีสะเทือนขวัญกลุ่มชาวเมียนมาหลบหนีเข้าเมืองก่อเหตุฆ่าฝังดิน นายหมัดดล บินสัน อายุ 40 ปี ลูกจ้างบริษัทรับเหมางานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคนาหม่อม บริเวณป่าด้านหลังสนามกอร์ฟ หมู่ 1 บ้านคลองปอม ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ในสภาพถูกมัดมือไพล่หลัง มัดเท้าด้วยเถาวัลย์ มัดปิดปากด้วยผ้าสีแดง รัดคอด้วยกระเป๋าสะพาย และศีรษะถูกทุบด้วยของแข็ง และยังนำรถจักรยานยนต์ของผู้ตายไปทิ้งในสระน้ำบริเวณใกล้เคียง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ที่ผ่านมา
ล่าสุดในวันนี้(23 มิ.ย.65) พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่สภ.ทุ่งลุง แถลงสรุปความคืบหน้าคดีนี้
หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภาค 9 ชุดสืบสวน สภ.ทุ่งลุง และชุดสืบสวนตำรวจภูธรจ.สงขลา ลงพื้นที่รวบรวมพยานหลักฐานจนรู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งหมดและออกหมายจับและติดตามจับกุมคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุในคดีนี้ได้แล้ว
โดยพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า คดีนี้มีชาวเมียนมาหลบหนีเข้าเมืองร่วมกันก่อเหตุทั้งสิ้น 8 คน และขณะนี้มีพยานหลักฐานจนสามารถขออนุมัติศาลจังหวัดสงขลาออกหมายจับผู้ต้องหาจำนวน 5 คน ส่วนอีก3คน อยู่ในระหว่างการสืบสวนติดตามจับกุมและพิสูจน์ทราบตัวบุคคล
และในจำนวน5 คนที่ถูกออกหมายจับแล้วสามารถติดตามจับกุมได้แล้ว 3รายประกอบด้วย นายโก มอง อายุ 25 ปี นายซานเอ อายุ 32 ปี และ นายชิด โก โก้ อายุ 34 ปี ถูกแจ้งข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่น , ร่วมกันลอบฝัง ช่อนเร้น ย้าย หรือศพ หรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการเกิดตาย หรือเหตุแห่งการตาย”
ส่วนอีก 2 คนที่ยังหลบหนี คือ นายเมียน วิน อายุ 32 ปี กับนายเอา กู วิน อายุ 27 ปี และยังยึดรถกระบะอีก 4 คันและรถจักรยานยนต์อีก 2 คันที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้และใช้ขนชาวเมียนมามาหลบหนีเข้าเมืองสำหรับการสืบสวนคลี่คลายคดีนี้จนสามารถรู้ตัวผู้ต้องหาเริ่มจากเจ้าหน้าที่ ได้จับกุมกลุ่มชาวเมียนมาหลบหนีเข้าเมืองได้จำนวน 109 คน ในบ้านเช่าพื้นที่หมู่ 8 ต.บ้านพรุ และสอบสวนขยายผลจนทราบว่ามีผู้ร่วมกันก่อเหตุทั้งสิ้น 8 คน
และจากการสอบปากคำผู้ต้องหาที่ก่อเหตุให้การว่า เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ก่อเกิดเหตุ1 วัน กลุ่มผู้ก่อเหตุพร้อมบุคคลต่างด้าว 109 คน ซึ่งหลบหนีเข้าเมืองมาพักในป่าตรงจุดเกิดเหตุ
ต่อมาช่วงบ่ายของวันเดียวกัน ผู้ตายได้เข้ามาตรงจุดที่ซ่อนตัวอยู่ พร้อมกับได้นำอาวุธปืนและอาวุธมีด มาข่มขู่เพื่อเรียกเอาเงิน ซึ่งชาวเมียนมาก็ได้รวบรวมเงินให้จำนวนหนึ่ง แต่เมื่อได้เงินแล้ว ผู้ตายกลับพยายามนำตัวหญิงต่างด้าวชาวเมียนมาคนหนึ่งไปด้วย
กลุ่มผู้ก่อเหตุจึงพยายามไปช่วยและเข้าไปจับผู้ตายไว้ พร้อมกับได้รุมทำร้ายด้วยการใช้ไม้ทุบตีผู้ตายและมัดด้วยเถาวัลย์ พร้อมกับได้นำเอาโทรศัพท์ของผู้ตายไปโทรหานายหน้า ซึ่งต่อมานายหน้าได้จัดรถยนต์กระบะ ซึ่งขับโดยนายชิด โก โก้ เพื่อชาวเมียนมาทั้งหมดไปพักไว้ที่บ้านเช่าอีกแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ 8 ต.บ้านพรุ และเมื่อเวลา 22 นาฬิกาวันเดียวกันได้ย้อนกลับไปยังบริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อไปขุดหลุมและนำศพของผู้ตายไปฝังอำพรางคดี รวมทั้งนำเอารถจักรยานยนต์ของผู้ตายเข็นไปทิ้งที่สระน้ำ และกลับไปซ่อนตัวที่บ้านเช่า
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า คดีนี้ยังไม่จบเจ้าหน้าที่ยังคงติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่อีก 2 คนที่ถูกออกหมายจับและยังหลบหนีอยู่ รวมทั่งอีก 3 คน ที่อยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบตัวบุคคลเพื่อออกหมายจับต่อไป
นอกจากนี้ในส่วนของขบวนการลักลอบนำพาบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการกวดขันจับกุมขบวนการตังกล่าวได้อย่างต่อเนื่อง จะมีการขยายผลไปสู่การจับกุมขบวนการรวมทั้งเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าวเพื่อนำมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา








