สน.มีนบุรี ดำเนินการพิธีส่งต่อความยั่งยืนและความสำเร็จโครงการดำเนินงานชุมชนการเคหะยั่งยืนเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจร ตามยุทธศาสตร์ชาติ ประจำปีงบประมาณ 2565



( โครงการชุมชนเคหะรามคำแหง )
วันที่ 6 ก.ค. 65 เวลา 13.30 น. พล.ต.ต.นพดล ศรสำราญ รองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ตัวแทนสำนักงานตำรวจแห่ง ประธานพิธี นายเทพฤทธิ์ ฤทธิณรงค์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ การเคหะแห่งชาติ พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล   พล.ต.ต.พลฑิต  ไชยรส ผู้บังคับการตำรวจนครบาล3 ได้เดินทางไปเป็นประธานในปิดโครงการชุมชนการยั่งยืนและมอบธงสีขาวปลอดยาเสพติดให้กับประธานชุมชนเคหะรามคำแหงและมอบป้ายคุ้มสีขาวปลอดยาเสพติดตึก 1- 11 ให้กับประธานแต่ละตึก ในพื้นที่ ชุมชนการเคหะรามคำแหง แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพ โดยมี พ.ต.อ.กฤษ  ก้อมน้อย ผกก.สน.มีนบุรี, นายไพโรจน์  จันทรอด ผอ.เขตมีนบุรี, คุณบัญชา รัชตวุฒิมงคล ประธาน กต.ตร.สน.มีนบุรี,นายแพทย์บุญธรรม  ทุมพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์สาธารณสุข 43 มีนบุรี,นางสาวจินตนา อยู่สินธุ์ ครูชำนาญการพิเศษ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการการศึกษานอกระบบและศึกษาตามอัธยาศัย เขตมีนบุรี,นายจักราวุธ  ศิริฟองนุกูล ผู้อำนวยการคุมประพฤติ กรุงเทพมหานคร4 นายอนุชา อัครพิศาล ผู้อำนวยการส่วนยุทธศาสตร์และอำนวยการ (หัวหน้ากลุ่มโซนกรุงเทพตะวันออก) สำนักงานปปส.,นายธนนนท์ ไชยจักร ตัวแทนบริษัท รอยัลเฟม เมเนจเม้นท์ จำกัด, ตัวแทนผู้นำชุมชนในพื้นที่สน.มีนบุรี และประชาชนในชุมชนเคหะรามคำแหงเข้าร่วมพิธีพิธีส่งต่อความยั่งยืนและความสำเร็จโครงการฯ จากการดำเนินการห้วง 3 เดือนที่ผ่านมาให้การต้อนรับ
“พล.ต.ต.นพดล ศรสำราญ รองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดประธานพิธี ปลื้มความสำเร็จปิดโครงการชุมชนการเคหะแก้ปัญหายาเสพติดชุมชนการเคหะรามคำแหง สำเร็จตามเป้าหมาย ช่วยสร้างอาชีพให้ผู้รับบำบัดสารเสพติด พร้อมได้ใจชุมชนร่วมมือดียิ่งขึ้นตามนโยบาย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มุ่งเน้นการแก่ไขปัญหายาเสพติด ในด้านการปาบัดรักษา “ผู้เสพ” คือ “ผู้ป่วย” ที่จะต้องเข้ารับการบำบัดรักษา โดยนำชุมชน เข้ามามีส่วนร่วม โดยให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือและเข้าไปสำรวจในทุกพื้นที่ ตำบล หมู่บ้าน ชุมชน คนที่ติดยาเสพติด ต้องได้รับการขึ้นทะเบียน เพื่อนำไปสู่การบำบัดรักษา รวมถึงการฝึกอาชีพ ให้ผู้ผ่าน การบำปัดรักษาที่มีความสนใจได้มีอาชีพ สมารถดูแลตนเองต่อไปได้ และมีการติดตามผู้ผ่านการบำบัดรักษาอย่างเป็นระบบ จึงได้มีคำสั่ง สำนักนายกรัฐมนตรีที่ 20/2565 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการประสานงาน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานการณ์โควิด – 19 โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานคณะกรรมการในการตำเนินการ โดยยึดถือหลักการทำงาน 3 ประการ คือ
1.ประชาชนต้องได้รับการช่วยเหลือเป็นอย่างดี
2.บุรณาการการทำงานร่วมกันทุกภาคส่วน
3.นำผู้เสพยาเสพติด ไปเข้ารับการบำบัดรักษา เพื่อเป็นการคืนคนดีสู่สังคม ให้เกียรติในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ โดยจะต้อง ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบหมายให้พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผู้ปัญชาการตำรวจแห่งชาติ / ผอ.ศอ.ปส.ตร. เป็นผู้แทน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ในการตำเนินโครงกรชุมชนการเคหะยั่งยืนแบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อแก้ปัญหายาเสพติดในชุมชน ร่วมกับ นายทวีพงษ์ วิชัยติษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เมื่อวันที่ 4 เม.ย.65 ที่ผ่านมา โดยมี ผู้ช่วยผู้ว่าการการคหะแห่งชาติ , ผู้แทนจากอธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข, ผู้แทนปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, ผู้แทนปลัดกระทรวงมหาดไทย, ผู้แทนผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, ผู้แทนผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กระทรวงสาธารณสุข, ผู้แทนผู้อำนวยการโรงพยาบาลธนบุรีบูรณ า, พล.ต.ท.บุญจันทร์ นวลสาย ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ ห้องประชุมศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย มอบหมายให้ พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ รอง จตช. (ช่วยเหลืองาน ปป.) / รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. ขับเคลื่อนโครงการฯ ตั้งกล่าว เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจร ตามยุทธศาสตร์ชาติ มุ่งมั่นในการพัฒนาชุมชน ให้มีความเข้มแข็งสามารถพึ่งพาตนเองได้ ให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินตลอดจนป้องกันและปราบปรามปัญหายาเสพติดในชุมชนให้หมดไป ทั้งนี้ ได้ตัดเลือกชุมชนการเคหะแห่งชาติเข้าร่วมโครงการฯนำร่อง จำนวน 20 ชุมชน ใน 18 จังหวัด ทั่วประเทศ ซึ่งมีจำนวนชุชนเคหะจำนวน 826 แห่ง กำหนดระยะเวลาดำเนินการ 3 เตือน (เม.ย.- มิ.ย. 65) โดยมีขั้นนตอนในการปฏิบัติ
ขั้นตอนที่ 1
เตรียมการ ประชุมวางแผน สืบสภาพชุมชน โดยได้เลือกชุมขนเป้าหมายที่มีปัญหา ยาเสพติดแพร่ระบาดรุนแรงหรือพื้นที่สีแดง แต่งตั้งชุดปฏิบัติการ จัดประชุมร่วมกับผู้นำชุมชน กำหนดวันเริ่มต้นโครงการ พบผู้นำชุมชน/แกนนำชุมชนและแสวงหาความร่วมมือจากประชาชน
ขั้นตอนที่ 2
ประชุมวางแผนการทำงานและ ละการทำกิจกรรม ตลอดระยะเวลา 3 เดือน สร้างแนวร่วม โดยเน้นให้ชุมชนมีส่วนร่วมในทุกกระบ่วนการและหลังจากโครงการสิ้นสุด ชุมชนต้องสามารถดูแลชุมชนต่อไปได้อย่างยั่งยืน ค้นหาผู้เสพโดยการเอกซเรย์ 100% คือบุคคลทุกคนในชุมชนเป้าหมายนั้นจะต้องได้รับการตรวจสอบอย่างเข้มงวด ติดตามช่วยเหลือ เยี่ยมบ้าน สร้างกฎชุมชน ฟื้นฟูสังคม เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจคณะกรรมการหมู่บ้าน/ชุมชน/อาคารชุด ในบทบาทภารกิจในการแก่ไขปัญหายาเสพติด ด้วยการแต่งตั้งชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน เพื่อดูแลตรวจตรา ป้องกันแจ้งข่าว อย่างต่อเนื่องโดยมีการทำงานต่อจากชุดปฏิบัติการหลังเสร็จสิ้นภารกิจ
ขั้นตอนที่ 3
ขั้นส่งต่อความเข้มแข็งอย่างยั่งยืนและความสำเร็จโครงการชุมชนเคหะยั่งยืน ทำให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้และเป็นสถานที่ศึกษาดูงานให้กับชุมชนอื่นๆ รวมถึงการระวังป้องกันชุมชนกลับสู่สภาพเดิม โดยความร่วมมือของภาคีเครือข่ายจัดตั้งกลุ่ม รวมถึงมีช่องทางในการติดต่อสื่อสาร ประชุม และติดตามผลในการทำงานเป็นประจำ และท้ายสุดคือการติดตามประเมินผล นอกเหนือปัญหาสั่งเสพติดแล้วยังพบปัญหา ต่างๆ เช่น การแข่งรถในทางสาธารณะ ส่งเสียงดังรบกวนประชาชนในพื้นที่ มั่วสุม ทะเลาวิวาท และปัญหาพื้นที่จอดรถ ซึ่งปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเข้าตรวจตราให้ถี่ขึ้น เข้าระงับเหตุรวดเร็วทันต่อเหตุการณ์ ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรเข้าแก่ไขปัญหาการจอดรถ รวมทั้งประสานหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการแก่ไขปัญหาเช่น ติดตั้งกล้องวงจรปิด CCTV เพิ่มเติม และขอความร่วมมือผู้นำชมชนเพิ่มวงรอบในการพบปะลูกบ้านให้มากขึ้นกว่าเดิมผลที่ได้รับ คือ มีมวลชนเพิ่มเติมสำหรับ
สำหรับโครงการชุมชนเคหะยั่งยืน เคหะรามคำแหง ผลการปฏิบัติ หลังตำเนินการ 3 เตือน พบประชากรจำนวนทั้งสิ้น 2,354 คน มีกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด 98 คน สมัครใจตรวจปัสสาวะ 1,918 คน ไม่สมัครใจตรวจ 436 คน พบผู้เสพ 10 คน พบผู้ติดหรือผู้ที่มีอาการทางจิต – คน สมัครใจเข้ารับการบำบัด 10 คน และไม่สมัครใจ – คน ได้มีการส่งเสริมอาชีพแก่ผู้เข้ารับการบำบัดสารเสพติด อาทิ อบรมการทำ หมูกรอบ, หนังหมูกรอบ, ทำสบู่, เจลล้างมือ, ซึ่งทุกอาชีพ ผู้บำบัดสามารถนำไป ต่อยอดทางธุรกิจให้เกิดประสิทธิภาพได้ ภายหลังจากการตำเนินการตามโครงการฯ พบผู้เสพ หรีอผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ให้ความไว้วางใจเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ลงไปทำกิจกรรมในพื้นที่ ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และร่วมทำกิจกรรมของชุมชนโดยการอาสาช่วยเหลือมากขึ้น

Leave a comment

Design a site like this with WordPress.com
Get started