งานประกาศความสำเร็จ และพิธีมอบรางวัลสถานีชนะเลิศตามโครงการ Smart Safety Zone 4.0

ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 โดย สํานักงานตํารวจแห่งชาติ วันเสาร์ที่ 6 สิงหาคม 2565 เวลา 16.00 – 18.30 น. ณ สถานีตำรวจนครบาลลุมพินี

วันเสาร์ที่ 6 สิงหาคม 2565 เวลา 16.00 – 18.30 น. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข
ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ เป็นประธานในงานประกาศความสำเร็จ และพิธีมอบรางวัลสถานีชนะเลิศตามโครงการ Smart Safety Zone 4.0 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 พร้อมกับ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย, นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร , พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พลเอก ธิติชัย เทียนทอง รองเสนาธิการทหารสูงสุด , ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และเครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน
ณ สถานีตำรวจนครบาลลุมพินี
ตามวิสัยทัศน์ของรัฐบาลที่กล่าวว่า “ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศ
ที่พัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลักของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” จึงมีนโยบายในการใช้นวัตกรรมมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้สอดรับกับบริบททางสังคมที่เปลี่ยนแปลง อีกทั้ง เพื่อยกระดับการให้บริการตอบสนอง
ความต้องการ และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน
สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ปฏิรูประบบการทำงานให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล
ในเรื่องดังกล่าวที่คำนึงถึงพันธกิจหลักของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในด้านการรักษากฎหมายการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและการอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชน ด้วยการขับเคลื่อนโครงการสมาร์ทเซฟตี้โซน 4.0 (Smart Safety Zone) มุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติหน้าที่
ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกับบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างภาคประชาชน ภาคประชาสังคม และระบบราชการส่วนท้องถิ่น เพื่อยกระดับการป้องกันอาชญากรรมในพื้นที่สาธารณะ และสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้แก่ประชาชน
ในการนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ ได้มอบหมายให้
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขับเคลื่อนโครงการสมาร์ทเซฟตี้โซน 4.0
ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายน 2564 ในพื้นที่ 15 สถานีตำรวจนำร่องทั่วประเทศ มีการวัดผลที่
เป็นสากลผ่านตัวชี้วัดตำรวจโลก (WISPI : World Internal Security & Police Index) ซึ่งผลจากการดำเนินโครงการในระยะแรกมีแนวโน้มดีขึ้นเมื่อสิ้นสุดโครงการ อีกทั้งประชาชนได้สะท้อนความต้องการให้ดำเนินโครงการต่อ จึงได้ขยายพื้นที่สู่ 100 สถานีตำรวจทั่วประเทศในระยะที่ 2 เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2564 ถึงปัจจุบัน โดยผลการประเมินของสถานีตำรวจทั้ง 100 สถานี ออกมาเป็นที่น่าพอใจ กล่าวคือ
ความหวาดกลัวภัยอาชญากรรมของประชาชนในพื้นที่ลดลง ความเชื่อมั่นของประชาชนในพื้นที่ต่อประสิทธิภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจสูงขึ้น และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำนวัตกรรมต่างๆ มาใช้ในงานป้องกันอาชญากรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จึงทำให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับรางวัลระดับโลกประเภทการป้องกันอาชญากรรม ด้านการปฏิบัติการชุมชนสัมพันธ์ยอดเยี่ยม จากเวทีประชุมสุดยอดตำรวจโลก หรือ World Police Summit ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรต เมื่อเดือนมีนาคม 2565 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ข้อเสนอแนะจากประชาชนได้ถูกนำมาเป็นแนวทางในการพัฒนาการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ตรงกับสภาพปัญหา และความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง โดยมีองค์ประกอบที่สำคัญ ดังนี้

  1. สำรวจกล้อง CCTV ในพื้นที่ ปรับมุมกล้อง และบูรณาการการใช้งานกล้องร่วมกันพร้อมติดตั้งเพิ่มเติม
  2. นำนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้เพื่อประสิทธิภาพในการป้องกันอาชญากรรม เช่น มีการติดตั้งกล้อง AI ตรวจจับใบหน้า และกล้อง AI ตรวจจับป้ายทะเบียนรถยนต์ เป็นต้น
  3. ติดตั้งเสาสัญญาณ SOS เพื่อประชาชนสามารถแจ้งเหตุด่วนได้ทันที
  4. จัดทำห้องปฏิบัติการ CCOC โดยเชื่อมสัญญาณจากกล้องของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หน่วยงานราชการ และเอกชนมายังห้องปฏิบัติการและนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์เพื่อคอยควบคุมสั่งการได้ตลอด 24 ชั่วโมง
  5. ใช้แอพพลิเคชั่นต่าง ๆ เพื่อความรวดเร็วในการสื่อสาร เช่น POLICE 4.0 , POLICE I LERT U , Line OA , แจ้งความออนไลน์ รวมถึงการสร้าง Cyber Village เป็นต้น
  6. ร่วมกับหน่วยงานในท้องที่ปรับภูมิทัศน์ของพื้นที่เสี่ยงให้เป็นพื้นที่ปลอดภัย
  7. สร้างกลไกการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายประชาชนในการช่วยป้องกันอาชญากรรม
  8. ประชาสัมพันธ์โครงการ เพื่อสร้างการรับรู้ และการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายโครงการ สมาร์ทเซฟตี้โซน 4.0 ช่วงระยะที่สองใน 100 สถานีนำร่อง ได้ดำเนินการไปได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการสนับสนุนของทุกภาคส่วนที่ช่วยกันสร้างมิติใหม่แห่งความปลอดภัย “เปลี่ยนพื้นที่สายเปลี่ยวให้เกิดเป็นพื้นที่ปลอดภัย” เพื่อสร้างความเชื่อมั่น อุ่นใจ ปลอดภัย ในชุมชน ซึ่ง ในระยะที่สาม พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มีนโยบายให้ขยายโครงการเข้าสู่ 1,484 สถานีตำรวจครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย ในลำดับต่อไป

Leave a comment

Design a site like this with WordPress.com
Get started