จากกรณีเมื่อวันที่ 15 มี.ค.66 เจ้าหน้าที่กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้รับข้อมูลจากทีมสืบสวนองค์การโอเปอร์เรชั่น อันเดอร์กราวน์ เรลโรด (Operation Underground Railroad) กรณีสถานประกอบการแอบแฝงค้าประเวณีเด็ก จึงได้เข้าทำการตรวจสอบและสามารถจับกุม น.ส.วัชราภรณ์ ทองมาก และ น.ส.ทักษกร ศุภอัครโภคิน โดยดำเนินคดีในความผิดฐาน ร่วมกันแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบจากเด็ก (บุคคลผู้มีอายุเกิน 15 ปี แต่ไม่เกิน ๑๘ ปี) โดยการแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณี การแสวงหาประโยชน์ทางเพศในรูปแบบอื่น การบังคับใช้แรงงานหรือบริการอันเป็นการขูดรีดบุคคล ไม่ว่าบุคคลนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามฯ และค้ามนุษย์ โดยจับกุมได้ที่ ร้าน Velvet ถนนบางลา ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต และยังสามารถช่วยเหลือเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี ได้อีกจำนวน 6 คน พื้นที่รับผิดชอบ สภ.ป่าตอง ภ.จว.ภูเก็ต รายละเอียดตามที่สื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียได้นำเสนอไปแล้วนั้นจากกรณีดังกล่าว พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองContinue reading “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ สั่งขยายผล ค้ามนุษย์ป่าตองเปิดปฏิบัติการเข้าค้น 36 จุด ใน 10 จังหวัดขยายผล ยึดอายัดทรัพย์กลุ่มผู้ต้องหาค้ามนุษย์”
Monthly Archives: March 2023
คดีคนต่างด้าวถือครองที่ดินโดยผิดกฎหมาย ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่
สืบเนื่องจากปรากฏข้อมูลบนสื่อออนไลน์ว่า มีบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในประเทศไทย ซื้ออสังหาริมทรัพย์และถือครองที่ดิน ใน จ.เชียงใหม่ เป็นจำนวนมาก พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. , พล.ต.อ. รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. สั่งการให้ บก.ตม.5 ร่วมกับ ภ.จว.เชียงใหม่ ตรวจสอบบริษัท ที่เข้าข่ายต้องสงสัยที่ใช้ช่องว่างของกฎหมายในการถือครองตรวจสอบการถือครองที่ดินอสังหาริมทรัพย์และประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พบว่า มีบริษัทแห่งหนึ่งเข้าข่ายลักษณะดังกล่าว จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พงส.สภ.สันกำแพง ภ.จว.เชียงใหม่ จึงเร่งรัดให้รวบรวมพยานหลักฐานและดำเนินการขอหมายจับต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ จนสามารถออกหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 8 หมาย ได้แก่ นิติบุคคล 1 หมาย คนจีน จำนวน 3 หมาย และคนไทย จำนวน 4 หมายต่อมาวันที่ 28 มี.ค.66 ภ.จว.เชียงใหม่ , บก.ตม.5 ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องContinue reading “คดีคนต่างด้าวถือครองที่ดินโดยผิดกฎหมาย ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่”
เปิดร้านกาแฟใบเงิน
อากาศตรีหญิงจุฑาทิพย์ บุญยฤทธิ์ พร้อม เรืออากาศตรีหญิงบุษยมาส บุญยฤทธิ์ (น้องใบเงิน) และ ดร. อ๊อด โพธิ์เงิน เปิดร้านกาแฟใบเงิน พร้อมให้บริการแล้ววันนี้ โดยมี โฆษกกองทัพอากาศ ประภาส สอนใจดี และกองทัพอากาศชมรมช่วยเหลือเกษตรกรและเพื่อนฝูงร่วมงานคับคั่ง
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ สั่งทลายสมาคมเถื่อน “แก๊ง14K” เพื่อหลอกลวงทรัพย์สินและหาผลประโยชน์จากคนไทยและจีน
จากกรณีสำนักข่าวและสื่อสังคมออนไลน์นำเสนอเกี่ยวกับกลุ่มแก๊งมาเฟียจีน ชื่อกลุ่ม 14K เข้ามาตั้งสมาคมที่ผิดกฎหมาย เพื่อมาประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย ทุนจีนสีเทา นั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนดำเนินการตรวจสอบกรณีดังกล่าว หากพบการกระทำความผิดจริงให้ดำเนินการตามกฎหมายจนถึงที่สุดจากการสืบสวนทราบว่าได้มีกลุ่มคนจีนจัดตั้งสมาคมเชื่อได้ว่าขัดต่อกฎหมายจริง โดยตรวจพบสมาคมที่ใช้ชื่อ “หงเหมิน” ประกอบในชื่อสมาคมจำนวน 2 แห่ง คือ “เป็นผู้ดำเนินกิจการของคณะบุคคลใดโดยกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด ให้บุคคลอื่นหลงเชื่อว่ากิจการนั้นเป็นสมาคมที่ได้จดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์และการกระทำดังกล่าวว่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้ใดหรือประชาชน”พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า หลังจากที่ได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับสมาคมจีนสีเทา ซึ่งลักลอบเปิดขึ้นมาโดยไม่มีการขออนุญาตจากกรมการปกครอง โดยมีพฤติการณ์ในการใช้ภาพถ่ายคู่กับบุคคลสำคัญที่เป็นที่รู้จักในสังคม นำมาสร้างความน่าเชื่อถือให้กับสมาคมของตนเอง เพื่อหวังจะหลอกลวงให้ผู้อื่นนำเงินมาบริจาค ซึ่งมีผู้เสียหายหลงเชื่อและบริจาคเงินจำนวนมาก จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบข้อมูลเพื่อยืนยันข้อเท็จจริง จากนั้นได้เข้าตรวจสอบที่ตั้งของสมาคมเหล่านี้ ซึ่งจะพบพยานหลักฐานเกี่ยวกับการจัดตั้งสมาคมผิดกฎหมาย และอาจพบสิ่งผิดกฎหมายอย่างอื่นเช่น สุราต่างประเทศหนีภาษี เป็นต้น จึงให้จับกุมผู้จัดตั้งสมาคมจีนสีเทาเหล่านี้ดำเนินคดีจนถึงที่สุด จากนี้จะมีการขยายผลเพิ่มเติมหากพบมีผู้เกี่ยวข้องหรือมีการนำเงินที่ได้นำไปใช้กระทำผิดเพิ่มเติมจะดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องต่อไป
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ สั่งดำเนินคดีบุคคลแอบอ้างเบื้องสูงและบุคคลสำคัญของไทยหลอกลวงผู้ประกอบการเกิดความเสียหาย
ตามที่ปรากฏในข่าวสื่อสังคมออนไลน์ว่ามีกลุ่มทุนจีนสีเทา ชื่อ นายหยู ซิน ฉี(Mr.Yu Xin Qi) สัญชาติจีน บุคคลดังกล่าวได้จัดตั้งสมาคมชื่อ “มณฑลส่านซีสมาคมแห่งประเทศไทย”และเป็นเจ้าของสมาคมสมาคมดังกล่าวมีลักษณะประกอบการดำเนินงานให้คำแนะนำการลงทุนช่วยเหลือผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรมและสถาบันต่างๆ ในการจัดตั้งสำนักงานเครือข่ายในประเทศไทยเชิญนักธุรกิจชาวจีนโพ้นทะเลที่มีชื่อเสียงของไทยไปประเทศจีนเพื่อเข้าร่วมประชุม จัดกิจกรรมขนาดใหญ่เช่นการประชุมส่งเสริมการลงทุนนิทรรศการตลอดจนให้บริการส่วนลดยานพาหนะในการเดินทางและบริการรับส่งสนามบินแบบวีไอพีแต่ นายหยู ซิน ฉี มีพฤติการณ์อันน่าสงสัยว่า ได้นำภาพถ่ายที่ตนเองถ่ายคู่กับบุคคลมีชื่อเสียงและบุคคลสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำรูปถ่ายคู่ร่วมกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.เพื่อไปสร้างความน่าเชื่อถือ รวมถึงมีการแอบอ้างสถาบันเบื้องสูงและบุคคลสำคัญระดับประเทศในการแสวงหาผลประโยชน์ หลอกลวงผู้อื่นเข้ามาเป็นสมาชิกและเรียกเก็บเงินบริจาคเข้าสู่สมาคม มีผู้เสียหายที่ถูกแอบอ้างและถูกหลอกลวงจำนวนหลายรายพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์หักพาล รองผบ.ตร.ดำเนินการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว จากการสืบสวนพบว่านายหยู ซิ นฉี มีพฤติการณ์การแอบอ้างสถาบันเบื้องสูงและบุคคลสำคัญระดับประเทศเพื่อแสวงหาผลประโยชน์จริง อีกทั้งมีการจัดตั้งสมาคมที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายและไม่มีรายชื่อในสาระบบของกรมการปกครอง ต่อมา วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจนำหมายค้นศาลอาญาที่ 198/2566 ลง 17 กุมภาพันธ์ 2566 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 77/525 หมู่บ้านภัสสร 19 ซอย 52 ถนนจตุโชติ แขวงออเงิน เขตสายไหมContinue reading “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ สั่งดำเนินคดีบุคคลแอบอ้างเบื้องสูงและบุคคลสำคัญของไทยหลอกลวงผู้ประกอบการเกิดความเสียหาย”
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เข้าตรวจเยี่ยมกระบวนการ NRM หลังริเริ่มใช้งานจริง ดูแลเหยื่อจากการค้ามนุษย์ทั้งครบกระบวนการวันนี้
(28 มี.ค.66) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้เดินทางเข้าตรวจเยี่ยมการดำเนินการตามกระบวนการกลไกส่งต่อระดับชาติ (National Referral Mechanism: NRM) ซึ่งวันนี้ได้มีการเข้าตรวจเยี่ยมจำนวน 2 จุด ได้แก่ ภ.จว.ชุมพร และ สภ.จุฬาภรณ์ ภ.จว.นครศรีธรรมราช โดยมีเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ อาทิ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ,สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด , แรงงานจังหวัด , ประมงจังหวัด สาธารณสุขจังหวัด ยุติธรรมจังหวัด และป้องกันจังหวัด ร่วมประชุมชี้แจงความคืบหน้าในคดี การเยียวยา ดูแลผู้ถูกคัดกรอง โดยในส่วนของ ภ.จว.ชุมพรนั้น ได้มีการรับดำเนินการตามกระบวนการ NRM จากกรณีเมื่อวันที่ 23 มี.ค.66 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล. ได้จับกุมผู้ต้องหาชาวไทยจำนวน 2 ราย ลักลอบขนบุคคลต่างด้าวจำนวน 77 คนเข้ามาในราชอาณาจักร คดีอยู่ในความรับผิดชอบของ สภ.หลังสวน ภ.จว.ชุมพร และอีกคดีหนึ่งเป็นกรณีเมื่อวันที่Continue reading “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เข้าตรวจเยี่ยมกระบวนการ NRM หลังริเริ่มใช้งานจริง ดูแลเหยื่อจากการค้ามนุษย์ทั้งครบกระบวนการวันนี้”
กัน จอมพลัง พาผู้เสียหายถูกพี่ชายข่มขืน ขอความช่วยเหลือจาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ให้ช่วยติดตามคดี หลังแจ้ง 1 เดือนไม่คืบหน้า
วันนี้ (28 มี.ค.66) เวลาประมาณ 10.00 น. ณ สโมสรตำรวจ วิภาวดีรังสิต น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ผู้เสียหาย พร้อมด้วย นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ได้เดินทางเข้าร้องเรียนต่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กรณีเมื่อวันที่ 17 ก.พ.66 น.ส.บี ได้เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.คูคต ภ.จว.ปทุมธานี ว่าตนเองได้ถูกพี่ชายต่างบิดาของตน อายุประมาณ 40 ปี กระทำชำเรามาตั้งแต่อายุ 14 ปี เหตุเกิดภายในบ้านของตนเอง โดยมีการข่มขู่ว่าหากไม่ยอมทำตามหรือ นำเรื่องนี้ไปบอกคนอื่นจะไม่ส่งเสียให้เรียนหนังสือ ผู้เสียหายจึงยินยอม ต่อมารู้สึกทนไม่ไหวจึงปรึกษาเพื่อน ทางบ้านเพื่อนจึงได้พาเข้าแจ้งความ แต่ผ่านมา 1 เดือนแล้วเรื่องไม่คืบหน้า โดยมีความกังวลใจว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงมาพบนายกัน จอมพลังเพื่อขอความช่วยเหลือ นายกัน จอมพลัง จึงได้พาContinue reading “กัน จอมพลัง พาผู้เสียหายถูกพี่ชายข่มขืน ขอความช่วยเหลือจาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ให้ช่วยติดตามคดี หลังแจ้ง 1 เดือนไม่คืบหน้า”
ภ.1 แถลงข่าวผลการปฏิบัติปิดล้อมตรวจค้น จับกุมอาวุธปืน อาวุธสงคราม เครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิด จำนวน 2 ครั้ง ในวันที่ 18 และ 25 มีนาคม 2566
ในวันจันทร์ที่ 27 มีนาคม 2566 เวลา 13.00 น.ณ ห้องประชุมอมรวิวัฒน์ อาคารอเนกประสงค์ ภ.1ตามนโยบายรัฐบาลให้ความสำคัญในการควบคุมและลดความรุนแรงของอาชญากรรมซึ่งเป็นภัยคุกคาม ต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. สั่งการให้มีการบูรณาการเพื่อแก้ปัญหาอาชญากรรม ประเภทต่างๆ ปัญหาการใช้อาวุธปืนโดยผิดกฎหมาย ความผิดที่เกี่ยวข้องกับอาวุธปืน อาวุธสงคราม เครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิด รวมถึงการจำหน่ายอาวุธต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การจำหน่ายผ่านระบบออนไลน์ หรือผ่านสื่อโซเชียลมีเดียโดยผิดกฎหมาย ซึ่งนำไปก่อเหตุอาชญากรรมสะเทือนขวัญ สร้างความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และสร้างความตื่นตระหนกในสังคมต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ประกอบกับในช่วงวันที่ 13 – 17 เมษายน 2566 เป็นวันหยุดยาวเทศกาลวันสงกรานต์ประจำปี 2566 และเตรียมความพร้อมในการรักษาความสงบเรียบร้อย ก่อนการจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้การป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและการรักษาความสงบเรียบร้อยให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพเกิดความสงบเรียบร้อยในทุกพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 โดย พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ก. 1, พล.ต.ต.ศิลปคมณ์Continue reading “ภ.1 แถลงข่าวผลการปฏิบัติปิดล้อมตรวจค้น จับกุมอาวุธปืน อาวุธสงคราม เครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิด จำนวน 2 ครั้ง ในวันที่ 18 และ 25 มีนาคม 2566”
เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมกรณีมีปลอมข้อมูลในภาพถ่ายบัตรประชาชนของผู้อื่น และนำไปประกอบการหลอกจำหน่ายสินค้าออนไลน์
จากกรณีในสื่อสังคมออนไลน์มีการแชร์ภาพและข้อความเกี่ยวกับชายหนุ่มรายหนึ่ง ซึ่งมีบัตรประชาชนถึง 7 ใบ โดยแต่ละใบจะมีชื่อและนามสกุลไม่ซ้ำกัน แต่ใบหน้าเจ้าของบัตรประชาชนเป็นคนเดียวกัน และมีที่อยู่อาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งจากกรณีดังกล่าวชาวบ้านได้มีการร้องเรียนไปยังกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้เร่งดำเนินการตรวจสอบเกี่ยวกับการออกบัตรประชาชนดังกล่าว ว่ามีที่มาอย่างไร ตามที่ได้มีการเสนอข่าวไปแล้วนั้นความคืบหน้าล่าสุดโดยการอำนวยการสั่งการของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.,พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4,พล.ต.ต.หัสชัย เรืองมาลัย รอง ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จว.อุดรธานี,พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม ผบก.สส.ภ.4,พ.ต.อ.พงศ์ฤทธิ์ คงสิริสมบัติ รอง ผบก.สส.ภ.4,พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย รอง ผบก.สส.ภ.4 มีรายละเอียดดังนี้ข้อ๑. บุคคลตัวจริง ที่ปรากฏภาพใบหน้า ในบัตรประชาชนทั้ง 7 ใบคือ นายภาคิน สุดประพันธ์ อายุ 32 ปี ที่อยู่บ้านเลขที่ 145 ม.1 ต.ลาดหญ้า อ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่า นายภาคินฯได้เคยส่งภาพบัตรประชาชนตนไปกู้เงินออนไลน์Continue reading “เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมกรณีมีปลอมข้อมูลในภาพถ่ายบัตรประชาชนของผู้อื่น และนำไปประกอบการหลอกจำหน่ายสินค้าออนไลน์”
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ สั่งขยายผล แก็งค์คนจีนปลอมพาสปอร์ตหลอกธนาคาร รอถอนเงินกว่า 176 ล้านบาท
จากกรณีเมื่อวันที่ 24 มี.ค.66 สน.ทองหล่อได้รับแจ้งจากธนาคารกสิกรไทย สาขาเอ็มควอเทียร์ ว่ามีบุคคลต่างด้าวใช้เอกสารเดินทางปลอมมาใช้ในการขอทำสมุดบัญชีใหม่ จึงได้ไปตรวจสอบและพบว่า มีการใช้เอกสารเดินทางปลอมเป็นเจ้าของบัญชี ซึ่งในบัญชีดังกล่าวมีเงินมากถึง 176 ล้านบาท กรณีดังกล่าว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ทองหล่อ ดำเนินการสืบสวนเกี่ยวกับกลุ่มบุคคลดังกล่าวเพื่อขยายผลจับกุมโดยเร่งด่วน รวมทั้งตรวจสอบที่มาของเงินในบัญชีดังกล่าวว่า เงินจำนวนมากซึ่งมีเจ้าของเป็นชาวต่างชาติ เช้ามาอยู่ในราชอาณาจักรได้อย่างไร พฤติกาณ์กล่าวคือ ตามวันเวลาเกิดเหตุ ได้มีกลุ่มคนไทยจำนวน 4 คน พร้อมด้วยชาวกัมพูชา 1 คนซึ่งอ้างตัวว่าเป็นเจ้าของบัญชีดังกล่าว ได้นำเอาเอกสารเดินทางสัญชาติกัมพูชา เข้ามาติดต่อกับธนาคารเพื่อที่จะขอทำสมุดบัญชีเล่มใหม่ เพื่อจะใช้ในการถอนเงินออกจากบัญชีดังกล่าวได้ในอนาคต แต่ปรากฎว่าใบหน้าของชาวกัมพูชาดังกล่าวไม่ตรงกับใบหน้าของบุคคลเจ้าของบัญชี ธนาคารจึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบเพื่อมาตรวจสอบ จากการสืบสวนทราบว่า กลุ่มบุคคลเหล่านี้ได้มีความพยายามหลายครั้งในการมาขอถอนเงินออกจากบัญชีดังกล่าว แต่ไม่สามารถหาเอกสารตามที่ธนาคารต้องการมายื่นได้ ในส่วนของบัญชีดังกล่าวตรวจสอบทราบว่า มียอดเงินในบัญชีสูงถึง 176 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากการทยอยโอนเงินสูงถึงหลักล้านบาทเข้าในบัญชีหลายครั้งตั้งแต่ปี 2561 คาดว่าจะเป็นเงินที่ได้จากกลุ่มแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ อยู่ในระหว่างสืบสวนขยายผลเพิ่มเติม ในเบื้องต้นได้มีการจับกุมดำเนินคดีชายชาวกัมพูชาดังกล่าว ในข้อหาเป็นบุคคลต่างด้างหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เงินในบัญชีดังกล่าว คาดว่าเป็นเงินของกลุ่มแก๊งค์ชาวจีนซึ่งกระทำผิดแล้วโอนเงินมารวมไว้ในบัญชีดังกล่าว ก่อนที่จะใช้ความพยายามในการถอนเงินออกจากบัญชีโดยการปลอมเอกสารเดินทางขึ้นมาContinue reading “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ สั่งขยายผล แก็งค์คนจีนปลอมพาสปอร์ตหลอกธนาคาร รอถอนเงินกว่า 176 ล้านบาท”
