พิธีเปิดโครงการพัฒนาบุคลากรด้านเป็นสถาบันต้นแบบ ด้านคุณธรรม จริยธรรม และ ศิลปวัฒนธรรม ประจำปีการศึกษา 2565-2566

วันอังคารที่ 25 ต.ค. 65 เวลา 19.00 น. พล.ต.ท.ดร.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผบช.รร.นรต. เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการพัฒนาบุคลากรด้านเป็นสถาบันต้นแบบ ด้านคุณธรรม จริยธรรม และ ศิลปวัฒนธรรม ประจำปีการศึกษา 2565-2566 โดยมี คุณมนสิการ สำราญสำรวจกิจ (ภริยา พล.ต.ท.ดร.เสนิต สำราญสำรวจกิจ), ดร.พีรวัฒน์-ดร.ธัชวิน สุรเศรษฐ ประธานกต.ตร.กทม. (ภาคประชาชน) – ประธานที่ปรึกษา ผบช.รร.นรต. – ประธานกต.ตร.บก.น.1, คุณบุญชยา เดชาเจริญสิริ, ดร.ไกรวิทย์ โกสีย์ศิริกุล ผู้เชี่ยวชาญประจำกรรมการการเลือกตั้ง, ร.ต.อ.เรืองยศ – คุณกมลพร ขันสุวรรณ และแขกผู้มีเกียรติ ร่วมพิธี พร้อมกันนี้

พล.ต.ท.เสนิต สำราญสำรวจกิจ มอบโล่เกียรติคุณ แด่ ดร.พีรวัฒน์ – ดร.ธัชวิน สุรเศรษฐ และผู้ที่สนับสนุนโครงการนี้อีกด้วย นอกจากนี้ พระราชปัญญาวชิโรดม เจ้าอาวาสวัดเทพเจติยาจารย์ ได้เทศนาธรรมให้กับผู้ที่มาร่วมงาน อีกด้วย ณ หอประชุมชุณหะวัณ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
Cr. ดร.พีรวัฒน์ สุรเศรษฐ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ สั่งดำเนินคดีชุดจับ หลังพบเรียกรับ 2 แสนแลกผู้ต้องหายาเสพติด

จากกรณีเมื่อวันที่ 17 ต.ค.65 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง 6 นายได้จับกุมตัว นายธนกร หรือโด่ง สุวรรณชนะ พร้อมยาบ้า จำนวน 10 มัด (รวม 20,000 เม็ด) ดำเนินคดีในความผิดฐาน “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยมีไว้เพื่อจำหน่าย จากนั้นได้นำตัวไปขยายผลล่อซื้อยาเสพติดเพิ่มเติม ก่อนถูกกลุ่มชายฉกรรจ์พร้อมอาวุธครบมือ ชิงยาบ้าของกลางพร้อมรถของเจ้าหน้าที่ หลบหนีไป เหตุเกิดที่ที่ทำการกองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดสงขลา ต.เกาะแต้ว อ.เมือง จ.สงขลา ต่อเนื่อง บนถนนนิคมสายโท (ศาลาเขียว) หมู่ที่ 11 ต.กำแพงเพชร อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ตามที่สื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียได้นำเสนอไปแล้วนั้น
จากกรณีดังกล่าว พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วย ผบ.ตร. ตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว และเร่งรัดติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุทั้งหมดมาดำเนินคดีโดยเร็ว เนื่องจากเป็นเหตุที่คนร้ายก่อเหตุด้วยความอุกอาจพร้อมอาวุธสงครามโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผบก.ภ.จว.สงขลา และ พ.ต.อ.ศิรโกศล ปราบกรี ผกก.สภ.รัตภูมิ เร่งทำการสืบสวนคดีดังกล่าว
จากการสืบสวนคดีดังกล่าวพบว่า หลังจากที่ชุดจับกุมได้นำตัวนายธนกรฯ มาควบคุมที่กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดสงขลาที่ 1 แล้ว ระหว่างการควบคุมตัวนายธนกรฯ ดังกล่าว มีเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ทำการเรียกรับเงินสด 1,000,000 บาท หรือยาบ้า 200,000 เม็ด เพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดีและปล่อยตัวนายธนกรฯ หลังจากนั้นนายธนกรฯ ได้ติดต่อญาติ เพื่อให้หาเงินหรือยามาแลกกับตน แต่ญาติไม่สามารถหาเงิน หรือยาบ้ามาแลกตัวนายธนกรฯได้ จากนั้นได้มีการต่อรองโดยขอแลกตัวนายธนกรฯ กับการนำยาไอซ์ จำนวน 8 กิโลกรัม และเงินสด จำนวน 200,000 บาท ทางชุดจับกุมตกลง และได้นัดหมายแลกเปลี่ยนตัวกันที่บริเวณศาลาเขียวริมถนนที่เกิดเหตุ ในวันที่ 18 ต.ค.65 ช่วงเวลาเกิดเหตุ เมื่อถึงเวลานัดหมาย โดยมีชุดจับกุม 5 คน นั่งรถยนต์ไปรอที่จุดนัดหมาย ส่วนนายธนกรฯ จะมีชุดจับกุม 1 นาย แยกไปคุมตัวอยู่ในรถกระบะอีกคันหนึ่ง จอดอยู่ห่างๆ จากนั้นจึงได้มีกลุ่มแก็งค้ายาเสพติดทั้งหมด 9 คน ขับรถจำนวน 3 คัน มาล้อมรถไว้ จากนั้นได้ลงมาก่อเหตุชิงยาบ้าพร้อมรถของชุดจับกุม พร้อมอาวุธปืนไป ก่อนจะทิ้งชุดจับกุมไว้ข้างทางแล้วหลบหนีไป
ในส่วนของชุดจับกุม เมื่อวันที่ 25 ต.ค.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขออนุมัติศาลจังหวัดสงขลา ออกหมายจับชุดจับกุมทั้ง 6 ราย ประกอบด้วย

  1. จ่าเอกไพรัช ผู้ช่วยปกครองจังหวัดสงขลา ปฏิบัติหน้าที่ประจำชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดสงขลา (พิฆาตไพรี)
  2. นายเฉลิมศักดิ์ สมาชิกอาสาสมัครรักษาดินแดน
  3. นายเลิศฤทธิ์ สมาชิกอาสาสมัครรักษาดินแดน
  4. นายอดิศักดิ์ สมาชิกอาสาสมัครรักษาดินแดน
  5. นายพิษณุ สมาชิกอาสาสมัครรักษาดินแดน
  6. นายสุทธิพงษ์ สมาชิกอาสาสมัครรักษาดินแดน
    โดยทั้ง 6 คน จะถูกดำเนินคดีในความผิดฐาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 6 รายตามหมายจับเรียบร้อยแล้ว
    ในส่วนของแก๊งค้ายาเสพติด ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด 9 ราย สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้แล้วจำนวน 6 ราย ยังต้องติดตามจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก 3 ราย
    พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า คดีดังกล่าวเป็นกรณีที่เจ้าพนักงานฝ่ายปกครองทำการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญ แต่ไม่นำตัวส่งดำเนินคดี กลับมีการเรียกรับผลประโยชน์เพื่อแลกกับการปล่อยตัวและของกลาง ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย มีหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติตามอำนาจที่กฎหมายกำหนด แต่กลับละเลยและนำมาหาผลประโยชน์โดยมิชอบ ดังนั้นจึงต้องมีการดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเด็ดขาด ในส่วนของแก๊งค้ายาที่ก่อเหตุชิงยาบ้าอย่างอุกอาจ ในวันนี้ติดตามจับกุมได้เกือบหมดแล้ว ยังเหลือบางส่วนที่อยู่ในระหว่างการติดตามจับกุม ซึ่งตอนนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสืบสวนติดตามเพื่อนำตัวผู้ก่อเหตุที่เหลือมาดำเนินคดีโดยเร็ว

ผบ.ตร. มอบรางวัล “นักเรียนนายร้อยตํารวจ” คว้าแชมป์ Thailand Cyber Top Talent 2022 การแข่งขันด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ระดับประเทศ ชูเป็นบุคลากรตำรวจรุ่นใหม่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี

เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2565 เวลา 11.00 น. ที่สํานักงานตํารวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. แสดงความยินดี และมอบรางวัลแก่  “นักเรียนนายร้อยตำรวจ” ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ Thailand Cyber Top Talent 2022 การแข่งขันด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ระดับประเทศ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า การแข่งขันด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ระดับประเทศ โดยสํานักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) จัดการแข่งขันด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ระดับประเทศ รายการ Thailand Cyber Top Talent 2022 ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลพลาซากรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยมีทีมนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไปจากทั่วประเทศ เข้าร่วมการแข่งขัน 393 ทีม ผลการแข่งขันในระดับอุดุมศึกษาหรือSeniorทีมReboosterตัวแทนจากโรงเรยีนนายรอ้ยตํารวจคว้าแชมป์ระเทศไทย ได้รับโล่ห์และเงินรางวัล 90,000 บาท โดยสมาชิกในทีมประกอบด้วย นรต.ทัศไนย มานิตย์ หรือ ต้น ชั้นปีที่ 3 , นรต.วรรณกร นุ่น ประดิษฐ์ หรือ เอิร์ธ ชั้นปีที่ 3 และ นรต.สุดฤทธิ์ วงษ์สุวรรณ หรือ สุดริด ชั้นปีที่ 2 โดยทีม Rebooster จาก รร.นรต. จะเป็นผู้แทนประเทศไทยไปแข่งขันใน รายการ Cyber SEA Game 2022 หรือ การแข่งขันด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ในระดับ อาเซียน ที่ประเทศญี่ปุ่น ต่อไป นอกจากนี้ยังมี ตัวแทนของตำรวจเข้าแข่งขันรอบสุดท้าย และได้รับรางวัล ดังนี้ ทีม Abs01uteR ลงแข่งขันในระดับประชาชนทั่วไป (Open) ในนามตัวแทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้อันดับที่ 5 ของประเทศ ได้เงินรางวัล 3,000 บาท โดยสมาชิกประกอบไปด้ว พ.ต.ต.วงศ์ยศ เกิดศรี รร.นรต. ร.ต.ท.ภัทรพงศ์ ระมั่งทอง ภ.5

และ ร.ต.ท.ศุภเกียรติ สบบง บช.ก.
ทีม YourW0rs7N1gh7m4r3 ลงแข่งขันในระดับอุดมศึกษา (Senior) ในนามตัวแทนจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ได้อันดับที่ 8 ของประเทศ ได้เงินรางวัล 3,000 บาท โดยสมาชิกประกอบไปด้วย นรต.ณัฐนนท์ กุลจรัส ชั้นปีที่ 4 นรต.กรวิชญ์ ในกระโทก ชั้นปีที่ 2 และ นรต.หัสวรรษ สุวรรณราช ชั้นปีที่ 2
ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า ขอชื่นชม และแสดงความยินดีที่ผู้แทนนักเรียนนายร้อยตำรวจ สร้างผลงานได้ยอดเยี่ยม ในการแข่งขันด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ระดับประเทศ หรือ Thailand Cyber Top Talent 2022 จนได้รับรางวัลชนะเลิศ สร้างชื่อเสียงให้แก่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และที่สำคัญยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่พี่น้องประชาชนด้วย
  หนึ่งในนโยบายเร่งด่วนเพื่อประชาชน ที่ประกาศขับเคลื่อนตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม เป็นต้นมา คือ “การปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี” ป้องกัน ปราบปรามภัยทางออนไลน์ ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนในปัจจุบัน
  การพัฒนาทีมตำรวจไซเบอร์ ของโรงเรียนนายร้อยตำรวจ โดยสร้างบุคลากรตำรวจรุ่นใหม่ “สร้างตำรวจมืออาชีพ” ที่มีทักษะ ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี สะท้อนให้เห็นว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความมุ่งมั่น ตั้งใจ พยายามในการสร้าง และพัฒนาบุคลากรตำรวจให้มีความรู้ ความชำนาญด้านนี้ และยังเป็นการเดินตามวิสัยทัศน์การขับเคลื่อนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ประกาศไว้ นั่นคือ “เป็นตำรวจมืออาชีพ ทำงานเชิงรุก เพื่อความสงบสุขของประชาชน” โดยในการนี้คือสร้างความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี สร้างตำรวจมืออาชีพ”

พล.ต.ต.จิรสันต์ รอง ผบช.น./โฆษก บช.น. และ พล.ต.ต.โชคชัย รอง ผบช.น. แถลงการจับกุมผู้กระทำความผิดพร้อมอาวุธปืนและยาเสพติด

วันนี้(จันทร์ที่ 24 ต.ค.65) เวลา 11.30 น. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น./โฆษก บช.น. , พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผบก.สปพ., พ.ต.อ.ชัยกฤต โพธิ์อ๊ะ รอง ผบก.สปพ., พ.ต.อ.เด่นหล้า รัตนกิจ ผกก.สายตรวจ บก.สปพ. และเจ้าหน้าที่ชุด ชปส.บก.สปพ. ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้กระทำความผิดพร้อมอาวุธปืนกับเครื่องกระสุนและของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท1 (ไอซ์,เฮโรอีน) พร้อมของกลาง ณ ลานอเนกประสงค์ บช.น./ทีมประชาสัมพันธ์ บช.น.

กลุ่มนายทุนใหญ่บุกรุกแผ่วถาง และตัดไม้ ล้มไม้ และทำถ่านเป็นจำนวนมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หัวหน้าพัชรพล ชาหว้า ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวที่ไม่ประสงค์ออกนาม ว่ามีการบุกรุกแผ่วถาง และตัดไม้ ล้มไม้ และทำถ่านเป็นจำนวนมาก ที่มีกลุ่มนายทุนทำมานาน ต้นไม้ พืชพันธุ์ ชึ่งเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าของประเทศ ที่ได้ถูกกลุ่มนายทุน ชาวบ้าน บุกรุก ตัดไม้ และถือครองที่ ชึ่งเป็นปัญหามาช้านาน และในวันที่ 21 ต.ค.2565 ทาง หัวหน้า พัชรพล ชาหว้า พร้อม จนท.หน่วยป้องกัน อด.2(หนองวัวชอ จ.อุดรธานี)ได้เข้าตรวจสอบ และดักรอจับกุมผู้ต้องหา ตามสายข่าวแจ้ง และได้ทำการดักชุ่มรอเป็นเวลา2วัน แต่ไม่พบผู้ต้องหาเข้ามาให้พื้นที่ และพบอุปกรณ์ กระทำความผิดบางส่วน และได้แจ้งให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทราบแล้ว ถึงภาระกิจนี้จะไม่ได้ผู้ต้องหา ทางหัวหน้า วัชรพล ชาหว้า ยังคงให้ความสนใจและติดตามเรื่องนี้เป็นการเร่งด่วน และจะเข้าตรวจสอบเลื่อยๆ รายรายข่าว จาก #surasak008 หัวหน้าข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

แจ้งดำเนินคดีบุคคลที่แอบอ้างชื่อศิริพร ผู้อำนวยการใหญ่ผลิตรายการคืนคุณให้แผ่นดิน

รายการคืนคุณให้แผ่นดิน สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก " พิทักษ์สันติราษฎร์"

” กรณี..การเป็นพยานและสอบปากคำ ณ สถานีตำรวจภูธรกะปาง 86 หมู่ 5 ถนนทุ่งสง-ห้วยยอด ตำบลกะปาง อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช แจ้งดำเนินคดีถึงที่สุดบุคคลที่แอบอ้างชื่อศิริพร จงศิริ ผู้อำนวยการใหญ่ผลิตรายการคืนคุณให้แผ่นดิน และรายการคืนคุณให้แผ่นดิน สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก “

ศิริพร จงศิริ ผู้อำนวยการใหญ่ผลิตรายการคืนคุณให้แผ่นดิน สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก เดินทางไปเป็นพยานและลงบันทึกประจำวัน กับ ร.ต.อ. สุนันท์ หนูหนอง รอง สว. (สอบสวน ) ณ สถานีตำรวจภูธรกะปาง 86 หมู่ 5 ถนนทุ่งสง-ห้วยยอด ตำบลกะปาง อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช เนื่องด้วยส.อ.ศิริวุฒิ แสงประสิทธิ์ พนักงานวิทยุโทรพิมพ์ กองพันทหารสื่อสารที่ 5 กองพลทหารราบที่ 5 เจ้าทุกข์ได้แจ้งความไว้ที่ สถานีตำรวจภูธรกะปาง 86 หมู่ 5 ถนนทุ่งสง-ห้วยยอด ตำบลกะปาง อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช โดนบุคคลชื่อ นายวรนัฐ สัจจาพันธ์ (ชื่อเล่น ต้น ) อายุ ๒๖ ปี บัญชีไลน์ " wa - ra - nut Ton " ไปหลอก ส.อ ศิริวุฒิ แสงประสิทธิ์ พนักงานวิทยุโทรพิมพ์ กองพันทหารสื่อสารที่ 5 กองพันทหารราบที่ 5 และให้โอนเงินเพื่อเรี่ยไรเงินทำบุญเข้าบัญชีนายวรนัญ สัจจาพันธ์ (ชื่อเล่น ต้น ) และไดัแอบอ้างชื่อ ศิริพร จงศิริ รายการคืนคุณให้แผ่นดิน สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก เพื่อเรี่ยไรเงินทำบุญครั้งนี้

ศิริพร จงศิริ ผู้อำนวยการใหญ่ผลิตรายการคืนคุณให้แผ่นดิน สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ลงไปเป็นพยานและลงบันทึกประจำวัน ณ สถานีตำรวจภูธรกะปาง 86 หมู่ 5 ถนนทุ่งสง-ห้วยยอด ตำบลกะปาง อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ว่า นาย
วรนัฐ สัจจาพันธ์ (ชื่อเล่น ต้น ) อายุ ๒๖ ปี บัญชีไลน์ ” wa – ra – nut Ton ” ไม่ได้
เป็นทีมงานรายการคืนคุณให้แผ่นดินและไม่ได้เกี่ยวข้องกับข้าพเจ้าและรายการคืนคุณให้แผ่นดิน สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก และศิริพร จงศิริ ผู้อำนวยการใหญ่ผลิตรายการคืนคุณให้แผ่นดินสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ขอดำเนินคดีตามกฎหมายถึงที่สุดที่มาแอบอ้างชื่อข้าพเจ้าและชื่อรายการคืนคุณให้แผ่นดิน สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก

การเดินทางมา ณ สถานี ตำรวจภูธรกะปาง 86 หมู่ 5 ถนนทุ่งสง-ห้วยยอด ตำบลกะปาง อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ครั้งนี้ ศิริพร จงศิริ ผู้อำนวยการใหญ่ผลิตรายการคืนคุณให้แผ่นดิน สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก กราบขอบพระคุณ ที่อำนวยความสะดวกและดำเนินการตามกฎหมายถึงที่สุด

พล.ต.ท. ​สุรพงษ์ ถนอมจิตร
ผู้บัญชาการภาค 8

พล.ต.ต. สมชาย ซื่อต่อตระกูล
ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช

พ.ต.ท.ปัญญา ไอยราคม รรท.ผกก.สภ.กะปาง

ร.ต.อ.สุนันท์ หนูหนอง รอง สว. (สอบสวน )

และ เจ้าหน้าตำรวจสถานีตำรวจภูธรกะปาง 86 หมู่ 5 ถนนทุ่งสง-ห้วยยอด ตำบลกะปาง อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ทุกนาย

CR: รายการคืนคุณให้แผ่นดิน สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก

ตำรวจทางหลวงโคราช มอบผ้าห่มไออุ่นสู้ภัยหนาว ให้ผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ

วันนี้ 21 ตุลาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ พ.ต.ท.จิระพันธ์ มณีรัตน์ สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวงนครราชสีมา ร่วมกับ ตำรวจทางหลวง จิตอาสา 904 ชมรมฮักเขาใหญ่ และผู้ใหญ่บ้าน ลงพื้นที่ชุมชน

โดยให้นำผ้าห่ม และถุงยังชีพ อาหารแห้ง ข้าวสาร ไปมอบให้ผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ และผู้ยากไร้ จำนวน 5 ราย เพื่อช่วยสร้างความอบอุ่นในช่วงหน้าหนาว โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอปากช่อง ช่วงกลางคืนจะมีอากาศหนาวเย็น อุณหภูมิลดเหลือ 19-20 องศา ส่งผลให้ผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ จะอยู่ด้วยความยากลำบาก

สำหรับกิจกรรมจิตอาสาช่วยเหลือชาวบ้านเดือดร้อน เป็นไปตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ที่ต้องการให้ตำรวจทุกระดับ ลงพื้นที่ทำงานเชิงรุก เพื่อความสงบสุขของประชาชน โดยมอบหมายให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. คุมงานจิตอาสา ประสานทุกหน่วยโดยเฉพาะ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.ให้นำจิตอาสาตำรวจสอบสวนกลาง และพื้นที่ลงช่วยเหลือชาวบ้านเดือดร้อนจากภัยพิบัติน้ำท่วม ภัยหนาว ในช่วงนี้ บรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ นายกสมาคมชาวปักษ์ใต้ นำประชาชนชาวสตูลร่วมปลูกจิตสำนึก “จิตอาสาพัฒนาแหล่งเรียนรู้อารยเกษตรเฉลิมพระเกียรติ ราชประชานุเคราะห์ 42 จังหวัดสตูล”

วันนี้ (21 ต.ค.65) เวลา 09.00 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในฐานะนายกสมาคมชาวปักษ์ใต้ ประธานในพิธี ร่วมกับจังหวัดสตูล และตำรวจภูธรจังหวัดสตูล นำประชาชนชาวจังหวัดสตูลเข้าร่วมในโครงการ "จิตอาสาพัฒนาแหล่งเรียนรู้อารยเกษตรเฉลิมพระเกียรติ ราชประชานุเคราะห์ 42 จังหวัดสตูล" เพื่อระลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยภายในงานมี ผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐ ภาคีเครือข่ายเอกชน ข้าราชการ นักเรียนนักศึกษา ตลอดจนประชาชนจิตอาสา รวมกันกว่า 1,000 คน เข้าร่วมโครงการอย่างพร้อมเพรียง ณ รร.ราชประชานุเคราะห์ 42 จังหวัดสตูล หมู่ 7 ต.เกตรี อ.เมือง จ.สตูล พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า กิจกรรมจิตอาสาในครั้งนี้นี้ ทางสมาคมชาวปักษ์ใต้ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ จังหวัดสตูล จัดโครงการดังกล่าวเพื่อระลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน ซึ่งทรงมีพระราชปณิธานในการสืบสาน รักษาและต่อยอดพระราชกรณียกิจของพระราชบิดา ผสานร่วมกับแนวคิดเรื่องจิตอาสา เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีและถวายเป็นพระราชกุศล ด้วยการบำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคมส่วนรวม ผสานกับหลักคิดที่ว่า เราทำความดีด้วยหัวใจ ถือเป็นโครงการที่มีหลายภาคส่วนพร้อมใจกันเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ ให้แก่นักเรียน และชุมชน ในการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาประยุกต์สู่การปฎิบัติในรูปแบบอารยเกษตร

อีกทั้งยังได้พัฒนาพื้นที่แหล่งการเรียนรู้ในโรงเรียนให้เป็น โรงเรียนต้นแบบอารยเกษตร ตามหลัก
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
รอง ผบ.ตร. ยังกล่าวอีกว่า การดำเนินการปลูกต้นไม้ในครั้งนี้ นับเป็นการดำเนินกิจกรรมจิตอาสาของสมาคมชาวปักษ์ใต้ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ครั้งที่ 8 ซึ่งสมาคมฯได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาได้ปลูกต้นไม้ไปแล้วกว่า 18,000 ต้น ปล่อยปลา 250,000 ตัว ปล่อยพันธุ์กุ้งและปู กว่า 100 ล้านตัว
ทั้งนี้ ภายในงานได้จัดให้มีกิจกรรมปลูกพืชพันธุ์ต่างๆ ภายในแหล่งเรียนรู้ ซึ่งมีพื้นที่กว่า 10 ไร่ โดยพันธุ์พืชที่นำมาปลูกในงานนี้ ได้แก่ ต้นมะขาม มะฮอกกานี กันเกรา หว้า มังคุด แลพันธุ์พืช ผัก สมุนไพรอื่นๆ รวมจำนวนกว่า 1,000 ต้น และภายในงานยังมีการแจกพันธุ์ไม้ต่างๆ อีกกว่า 1,000 ต้น แก่ประชาชนผู้เข้าร่วมงาน เนื่องในวันรักต้นไม้ประจำปีของชาติอีกด้วย

นายพันธ์ทอง รองอธิบดีกรมศุลกากร ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่ากรมศุลกากร มีนโยบายในการเร่งรัดปราบปรามการลักลอบและหลีกเลี่ยงการนำเข้าและส่งออกสินค้า

นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ รองอธิบดีกรมศุลกากร ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า
กรมศุลกากร มีนโยบายในการเร่งรัดปราบปรามการลักลอบและหลีกเลี่ยงการนำเข้าและส่งออกสินค้า
จากราชอาณาจักร เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษี ปกป้องสังคมและสิ่งแวดล้อม จึงให้หน่วยงาน
ในสังกัดพร้อมหน่วยปฏิบัติการวางแผนตรวจค้นจับกุมอย่างเข้มงวดเป็นพิเศษ เพื่อสกัดกั้นป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น สินค้าเกษตร น้ำมัน ยาเสพติด IPRs และสินค้าละเมิดอนุสัญญา CITES โดยสืบสวนหาข่าวและออกลาดตระเวนด้วยรถยนต์ ตรวจค้นรถบรรทุก โกดัง แหล่งจำหน่าย สถานที่เก็บรักษาที่เชื่อได้ว่ามีของผิดกฎหมายเก็บซุกซ่อนอยู่ อีกทั้งยังมีแผนการป้องกันและปราบปรามสินค้าดังกล่าวในช่วงเวลาที่มีความเสี่ยงในการลักลอบนำเข้า-ส่งออกสินค้า นอกจากนี้ มีการบูรณาการกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอื่นทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง อาทิ ทหาร กอ.รมน.
ป.ป.ส. บช.ปส. กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สถานทูตต่าง ๆ องค์การตำรวจสากล (Interpol) สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (Drug Enforcement Administration: DEA) เป็นต้น เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลการข่าวระหว่างกัน

  สำหรับในปีงบประมาณ 2565 (เดือนตุลาคม พ.ศ. 2564 – กันยายน พ.ศ. 2565) กรมฯ ได้ตรวจพบการกระทำความผิดตามกฎหมายศุลกากรทั้งหมด 27,465 คดี คิดเป็นมูลค่า 3,742.1 ล้านบาท

  โดยในเดือนกันยายน 2565 มีจำนวน 3,558 คดี คิดเป็นมูลค่ารวม 245.5 ล้านบาท
มีผลงานที่น่าสนใจ ดังนี้

 1. ผลการจับกุมยาเสพติด

1.1 เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2565 เจ้าหน้าที่กรมศุลกากร ตรวจค้นสัมภาระผู้โดยสาร
ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ พบเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 2 โคคาอีน น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้ม 4.780 กรัม มูลค่า 14.34 ล้านบาท ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

1.2 เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2565 เจ้าหน้าที่กรมศุลกากร ตรวจพบผู้โดยสารที่เดินทางมาจากต่างประเทศ พบยาเสพติดให้โทษประเภท 2 โคคาอีน ซุกซ่อนมาในร่างกาย น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้ม 1.075 กรัม มูลค่า 3.22 ล้านบาท ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

1.3 เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2565 เจ้าหน้าที่กรมศุลกากร ตรวจพบผู้โดยสารที่เดินทางมาจากต่างประเทศ พบยาเสพติดให้โทษประเภท 2 โคคาอีน ซุกซ่อนมาในร่างกาย น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้ม 1.500 กรัม มูลค่า 3.22 ล้านบาท ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

ทั้งนี้ สถิติการตรวจยึดยาเสพติดและวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทในเดือนกันยายน 2565 มีจำนวน 24 คดี มูลค่า 46.67 ล้านบาท
โดยในปีงบประมาณ 2565 (เดือนตุลาคม พ.ศ. 2564 – กันยายน พ.ศ. 2565) กรมฯ ได้จับกุมยาเสพติด จำนวน 125 คดี คิดเป็นมูลค่า 2,030.45 ล้านบาท

  1. ผลการจับกุมบุหรี่
    เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2565 เจ้าหน้าที่ศุลกากร โดยด่านศุลกากรสะเดา ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร ได้ทำการตรวจยึดบุหรี่มีถิ่นกำเนิดต่างประเทศ มาพร้อมกับผู้เดินทางเข้ามาทางด่านสะเดาฯ โดยไม่พบเอกสารหรือหลักฐานการผ่านพิธีการศุลกากรโดยถูกต้อง พร้อมด้วยบุหรี่ต่างประเทศยี่ห้อต่างๆ จำนวน 20 รายการ รวม 56,376 มวน มูลค่า 331,711 บาท

 ทั้งนี้สถิติการจับกุมบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าในเดือนกันยายน 2565 ได้แก่ 1. บุหรี่ จำนวน 126 คดี มูลค่า 5.41 ล้านบาท 2. บารากู่ บารากู่ไฟฟ้า บุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์ จำนวน 201 คดี มูลค่า 5.16 ล้านบาท

 โดยในปีงบประมาณ 2565 (เดือนตุลาคม พ.ศ. 2564 – กันยายน พ.ศ. 2565) กรมฯ
ได้จับกุมบุหรี่ จำนวน 1,169 คดี คิดเป็นมูลค่า 307.2 ล้านบาท และจับกุม บารากู่ไฟฟ้า บุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์ จำนวน 804 คดี มูลค่า 15.71 ล้านบาท

  1. ผลการจับกุมสินค้าเกษตร
    เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2565 เจ้าหน้าที่กรมศุลกากร โดยด่านศุลกากรสงขลา ได้ทำการตรวจค้นโกดังแห่งหนึ่งในตำบลหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พบหอมหัวใหญ่ มีเมืองกำเนิดต่างประเทศ เข้ามา
    ในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร จำนวน 15000 กิโลกรัม มูลค่า 600,000 บาท

 ทั้งนี้ สถิติการจับกุมสินค้าเกษตรในเดือนกันยายน 2565 มีจำนวน 51 คดี มูลค่า 6.26 ล้านบาท

 โดยในปีงบประมาณ 2565 (เดือนตุลาคม พ.ศ. 2564 – กันยายน พ.ศ. 2565) กรมฯ
ได้จับกุมสินค้าเกษตร จำนวน 745 คดี คิดเป็นมูลค่า 49.33 ล้านบาท

โฆษกกรมศุลกากร กล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้ กรมศุลกากรยังให้ความสำคัญกับการจับกุมการลักลอบนำเนื้อสุกรและชิ้นส่วนสุกรที่มีถิ่นกำเนิดจากต่างประเทศเข้ามาในราชอาณาจักรไทย เพื่อให้ประชาชน
มีความเชื่อมั่นว่าเนื้อหมูที่วางขายในท้องตลาดมีความปลอดภัยจากสารปนเปื้อนและเชื้อ ASF อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นให้เกษตรกรสามารถผลิตสุกรไทยออกจำหน่ายและผลักดันให้กลไกทางการตลาดกลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยสถิติการจับกุมการลักลอบนำเนื้อสุกรและชิ้นส่วนสุกรที่มีถิ่นกำเนิดจากต่างประเทศเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคม 2565 ถึงปัจจุบัน มีจำนวนทั้งหมด 9 คดี รวม 153,800 กิโลกรัม มูลค่า 31.44 ล้านบาท

ประกาศสงครามกับยาเสพติด “หนองบัวลำภูสีขาว”


วันนี้ 20 ตค 2565 เวลา 13.00 น.
อำนวยการโดย
1. นายสุวิทย์ จันทร์หวร รอง ผวจ.นภ
2. นายอนุชา พัสถาน ปจ.นภ
3. นายชาติชาย ฤาคำหาร ป้องกัน จ.
ชุดปฎิบัติการ
ชปพ.ปค.จ.นภ นำโดย นายประสิทธิ์ มหาวงค์ ผบ.ร้อย อส.จ.นภ ที่ 1 พร้อม สมาชิก อส. ได้จับกุม นายหนุ่ม ข้อหาเสพสารเสพติด
หลังจากนั้นดำเนินการขยายผลจับกุมผู้ค้ายาบ้า ได้ 2 คน คือ นายโย และนายเอิร์ท พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 34 เม็ด
ดำเนินการบันทึกจับกุม ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป

Design a site like this with WordPress.com
Get started