ผบ.ตร. มอบเงินน้ำใจตำรวจ และครอบครัว 11.6 ล้านบาท ช่วยเหลือเยียวยาให้ครอบครัวผู้สูญเสียเหตุ จ.หนองบัวลำภู

วันนี้ 11 ต.ค.65 เวลา 16.00 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมคณะเดินทางไปร่วมพิธีพระราชทานเพลิงผู้ที่เสียชีวิต จากเหตุการณ์ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลอุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู

จากนั้นได้เป็นตัวแทนข้าราชการตำรวจทั้งประเทศ มอบเงินช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และให้กำลังใจกับครอบครัวผู้สูญเสีย และบาดเจ็บจากเหตุการณ์ความรุนแรง หลังเปิดรับบริจาคเงินจากข้าราชการตำรวจ และครอบครัว รวมถึงภาคเอกชนที่ร่วมบริจาค โดยมียอดผู้บริจาคในบัญชีเป็นจำนวนเงิน 11,594,267.63 บาท​

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า “จากที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เปิดรับบริจาคเงินช่วยเหลือครอบครัวผู้สูญเสียเหตุกราดยิง จ.หนองบัวลำภู โดยใช้ชื่อบัญชี “น้ำใจตำรวจไทยเพื่อพี่น้องผู้สูญเสียจากเหตุการณ์ อบต.อุทัยสวรรค์ จว.หนองบัวลำภู” ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เลขที่บัญชี 052-0-64449-2 ในช่วงแรกเปิดรับบริจาคเฉพาะข้าราชการตำรวจ และครอบครัว แต่ต่อมาภาคเอกชนแสดงความจำนงค์ ที่ร่วมบริจาคช่วยเหลือเยียวยา จึงได้บริจาคเพิ่มเติม รวมยอดเงินทั้งหมดประมาณ 11.6 ล้านบาท

วันนี้ได้แจ้งยอดเงินให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บทราบในเบื้องต้น โดยครอบครัวผู้เสียชีวิตจะได้รับ รายละ 290,000 บาท ผู้บาดเจ็บสาหัส รายละ 230,000 ส่วนผู้บาดเจ็บเจ็บไม่สาหัส รายละ 115,000 โดยจะทำการมอบจริงในวันที่ 18 ต.ค.65 ซึ่งจะมีผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองบัวลำภู และ รองผู้บังคับการฯ เป็นตัวแทนมอบ คาดว่าจะมีเงินบริจาคมากถึงกว่า 12 ล้าบาท ทั้งนี้เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ และอยากให้รู้ว่ายังมีคนอีกมากที่คอยให้กำลังใจอยู่ ต้องขอขอบคุณในน้ำใจของทุกท่านที่ร่วมกันบริจาค “

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ลงพื้นที่หนองบัวลำภู เดินสายซับน้ำตา มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์สูญเสียที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กฯ จ.หนองบัวลำภู


.
วันนี้ (วันอังคารที่ 11 ตุลาคม 2565) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ พร้อมด้วย นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ และนายชาญกิจ วิทยาวรากรณ์  กรรมการ นำทีมแผนกสาธารณภัย ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ ลงพื้นที่วัดเทพมงคลพิชัย ตำบลด่านช้าง วัดศรีอุทัย และ วัดราษฎร์สามัคคี ตำบลอุทัยสวรรค์ อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู เพื่อเข้าพบพร้อมให้กำลังใจและมอบเงินช่วยเหลือแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สูญเสียที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลอุทัยสวรรค์ จังหวัดหนองบัวลำภู  รวม 36 รายๆ ละ 20,000 บาท    พร้อมกันนี้ มูลนิธิฯ ได้เดินทางเข้าพบและเยี่ยมเยียนผู้บาดเจ็บในเหตุการณ์ดังกล่าว รวมทั้งให้กำลังใจ พร้อมมอบเงินช่วยเหลือรายละ 5,000 บาท รวม 8 ราย รวมงบประมาณทั้งสิ้น 760,000 บาท (เจ็ดแสนหกหมื่นบาทถ้วน) โดยมี  มูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี และมูลนิธิรวมน้ำใจหนองบัวลำภู เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี
.
มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอแสดงความเสียใจ และขอส่งกำลังใจไปยังครอบครัวผู้เสียชีวิต ผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวทุกท่านมา ณ ที่นี้
.
ตลอดระยะเวลากว่า 112 ปีที่ผ่านมา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง  ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ  ศาสนา  เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลาย ๆ ทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ดังปณิธานมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง “ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
.
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือติดตามข่าวสารและกิจกรรมของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ที่ Facebook Fanpage: http://www.facebook.com/atpohtecktung.
.
#ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ##

#แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418
#ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน.

สพป.สงขลา เขต 2 ร่วมขับเคลื่อน เมืองเก่งการศึกษา วาไรตี้ เที่ยวนับร้อย หรอยนับพัน สมาร์ทซิตี้ ตอบสนองความต้องการเด็กทัดเทียมนานาประเทศ

นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

วันนี้ 11 ต.ค.65 ที่ห้องประชุม โรงแรมลากูน่า แกรนด์ ปอนด์สปา สงขลา อ.เมืองสงขลา จ.สงขลา นายอุทัย กาญจนะ ผอ.สพป.สงขลา เขต 2 มอบให้ นางสาวชฎาพร เสนเผือก รอง ผอ.สพป.สงขลา เขต 2 ร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการ วิเคราะห์สถานการณ์และขับเคลื่อนการเป็นพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดสงขลา เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์และความต้องการสำหรับพัฒนาพื้นที่นวัตกรรมทางการศึกษาเพื่อให้สอดคล้องกับการบริหารการจัดการศึกษาเชิงพื้นที่ของสถานศึกษาเพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา ,กำหนดเป้าหมายและแนวทางในการขับเคลื่อนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา,ร่วมวางแผนงาน และโครงการสำหรับพัฒนาพื้นที่นวัตกรรมทางการศึกษาและนำเสนอต่อคณะกรรมการศึกษาจังหวัด เพื่อกำหนดเป็นนโยบายในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาของจังหวัดสงขลา
โดยนายอำพล พงศ์สุวรรณ รอง ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาเป็นประธานและบรรยายพิเศษ แก่ผู้ร่วมประชุม
โดยมี ม.สงขลานครินทร์ ดำเนินการที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณโครงการจากหน่วยงานและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่(บพท.) โดย รศ.ดร. มิตรชัย จงเชี่ยวชำนาญ รักษาการ ผอ.สำนักพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และพันธมิตร ม.สงขลานครินทร์ กล่าวรายงาน
ซึ่งได้รับเกียรติจาก ดร.พิทักษ์ โสตถยาคม ผอ.สนง.บริหารพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา(สบน) สพฐ.บรรยายผ่านระบบ ZOOM Meeting
ถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับชาวจังหวัดสงขลาที่จะได้นำนโยบายในการขับเคลื่อนทั้งองค์กรให้เด็กเยาวชนคนจังหวัดสงขลาได้พัฒนาเท่าเทียมเท่าทันนานาประเทศเป็นพลเมืองที่ดีของโลก ที่ร่วมกันสร้างให้สู่ความสำเร็จ โดยมีมหาวิทยาลัยเป็นพี่เลี้ยงเพื่อรับทราบข้อมูล ในการขับเคลื่อน เมืองเก่งการศึกษา วาไรตี้ เที่ยวนับร้อย หรอยนับพัน สมาร์ทซิตี้ ตอบสนองความต้องการเด็กทัดเทียมนานาประเทศ เป็นพลเมืองโลก ทั้ง 15 ภาคีเครือข่ายร่วมวิเคราะห์ สู่นโยบาย เป็นกลไกขับเคลื่อนต่อไป

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ นำทีมชุดปฏิบัติการ ศปนม.ตร.จับเรือลักลอบขนน้ำมันเถื่อนจำหน่ายในไทย

ในช่วงที่ผ่านมา ประเทศไทยประสบกับปัญหาการลักลอบนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงมาเป็นเวลานาน แม้ว่าจะมีการปราบปรามจับกุมมาอย่างต่อเนื่องก็ตาม แต่ผู้กระทำผิดก็ได้พัฒนารูปแบบการกระทำผิดมากขึ้นเช่นกัน เช่น การลักลอบนำเข้าทั้งทางบกและทางทะเล การลักลอบปะปนมากับสินค้าอื่น การสำแดงเอกสารเท็จ เป็นต้น ทำให้ภาครัฐสูญเสียรายได้จากภาษีสรรพสามิตอย่างมหาศาล ตลาดของบริษัทผู้ค้าน้ำมันถูกเอารัดเอาเปรียบ และประชาชนต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากน้ำมันที่ไม่ได้คุณภาพ
จากกรณีดังกล่าว พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้มอบหมายหน้าที่และการสั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปนม.ตร. (ศูนย์ปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง) ทำหน้าที่ในการสืบสวน ปราบปราม และจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง หลังได้รับมอบหมายหน้าที่ดังกล่าว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ ได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการ ศปนม.ตร. เร่งออกปฏิบัติการสืบสวนการกระทำความผิดที่เกี่ยวข้อง
ต่อมาชุดปฏิบัติการ ศปนม.ตร.โดย พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย รอง ผบก.สส.ภ.4 , พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล ผกก.4 บก.สส.สตม. ร่วมกับ พ.ต.อ.เติมรัศม์ จินดาวัฒน์ ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ พร้อมด้วย ตม.จว.สมุทรปราการ เจ้าหน้าที่สรรพสามิต และศุลกากร ร่วมกันเข้าตรวจสอบเรือชื่อ “Polestar” สัญชาติเรือตูวาลู (Tuvalu) ซึ่งออกเดินทางจากประเทศสิงคโปร์มายังประเทศไทยเมื่อวันที่ 9 ต.ค.65 ที่ผ่านมา และเข้าเทียบท่า ณ ท่าเทียบเรือบริษัท เลนโซ่ เทอร์มินอล จำกัด ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เบื้องต้นตัวเรือดังกล่าวอยู่ในความดูแลของ บริษัท เอ็มอาร์บี ชิปเอเจนซี่ จำกัด
จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ ศปนม.ตร.ทราบว่า เรือ Polestar มีพฤติการณ์ลักลอบนำเข้าน้ำมันเบนซิน จากประเทศสิงคโปร์ เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยหลายครั้ง ปริมาณครั้งละหลายล้านลิตร ใช้วิธีการแจ้งสำแดงการนำเข้าเป็น เอทานอล และ เมทานอล แต่จะลักลอบนำน้ำมันเบนซินครั้งละหลายล้านลิตรซุกซ่อนมาด้วย
ต่อมาเมื่อวันที่ 9 ต.ค.65 ชุดสืบสวน ศปนม.ตร.ทราบว่าเรือลำดังกล่าวแจ้งการนำเข้า เมทานอล METHANOL น้ำหนักสุทธิ 452,789.000 กก. แต่จากการสืบสวนทราบว่าจะลักลอบนำน้ำมันเบนซินจำนวน 4-5 ล้านลิตรมาด้วย จึงได้ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตรวจค้นเข้าเมือง และเจ้าหน้าที่ศุลกากร จึงได้เข้าทำการตรวจค้นเรือลำดังกล่าว และได้แจ้งขอกำลังเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานสมุทรปราการ เข้าร่วมตรวจค้น เมื่อเข้าตรวจค้นพบว่า เจ้าหน้าที่ควบคุมเรือได้แสดงเอกสารแจ้งนำเข้าสารเมทานอล (METHANOL) น้ำหนักสุทธิ 452,789.000 KGM (กิโลกรัม) ฐานภาษีมูลค่าเพิ่ม 6,931,094.58 บาท ภาษีมูลค่าเพิ่ม 485,176.62 บาท ดังกล่าวจริง แต่จากการตรวจค้นโดยละเอียดพบว่าภายในเรือ มีสารเอทานอล (ETHANOL) น้ำหนักสุทธิ 486.337 CuM. (486,337 ลิตร) น้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่ว (Unleaded Gasoline) น้ำหนักสุทธิ 4,847.706 CuM. (4,847,706 ลิตร) บรรทุกมาในเรือลำดังกล่าวด้วย เมื่อเจ้าหน้าที่สอบถาม ผู้ควบคุมจัดการสินค้าจึงได้นำเอกสารของบริษัทอีกฉบับมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากร แจ้งว่าสารเอทานอล และ น้ำมันเบนซินดังกล่าวจะขนต่อไปประเทศเวียดนาม ไม่ได้นำเข้ามาในประเทศไทย แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบสายท่อขนถ่ายในที่เกิดเหตุมีคราบน้ำมันเบนซินชนิดเดียวกับที่บรรทุกมาในเรือ เจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์หลักฐานจึงได้ตรวจเก็บตัวอย่างของสารชนิดต่างๆ เพื่อทำการตรวจพิสูจน์ต่อไป
ต่อมาเจ้าพนักงานศุลกากรจึงได้สั่งกักเรือดังกล่าวเพื่อทำการตรวจสอบ จากการสืบสวนเรือ Polestar ได้เข้าเทียบท่าเรือดังกล่าวมาแล้วถึง 28 ครั้ง โดยแจ้งการนำเข้า สารเมทานอล มาโดยตลอดและมีต้นทางจากประเทศสิงคโปร์ มาส่งสินค้าที่ท่าเรือนี้ จากนั้นจะเดินทางกลับสิงคโปร์ทันที โดยไม่เคยเดินทางจากประเทศไทยไปประเทศเวียดนามแต่อย่างใด เบื้องต้นหากพบว่ามีการสำแดงเอกสารเท็จก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย นอกจากนี้ จะมีการรวบรวมพยานหลักฐานเกี่ยวกับการขนถ่ายน้ำมันเบนซินดังกล่าว หากพบว่ามีการลักลอบขนถ่ายเข้ามาในประเทศไทย มีเจตนาหลีกเลี่ยงภาษีหรือไม่ ก็จะพิจารณาดำเนินคดีความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากรฯ และ พ.ร.บ.สรรพสามิตฯ ต่อไป
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าว พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้มอบหมาย และสั่งการให้เร่งสืบสวนปราบปรามการผู้กระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง จึงได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการออกสืบสวนเกี่ยวกับการกระทำผิด ก่อนจะพบว่า ได้มีเรือ Polestar ลำนี้ มีพฤติการณ์ในการลักลอบขนน้ำมันเบนซินจากประเทศสิงคโปร์มาจำหน่ายในประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ ศปนม.ตร. บูรณาการร่วมกับ ตม. ศุลกากร และสรรพสามิต ในการเข้าตรวจสอบการกระทำผิดดังกล่าว เบื้องต้นต้องตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับการสำแดงเอกสารว่ามีการสำแดงเท็จหรือไม่ รวมทั้งต้องมีการเร่งพิสูจน์ว่า มีการลักลอบขนถ่ายน้ำมันเบนซินลงมาจากเรือเพื่อส่งจำหน่ายในประเทศไทยด้วยหรือไม่ หากพบการกระทำผิด จะดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเด็ดขาดต่อไป

“มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เสริมสร้าง อนาคตเด็กไทย” มอบทุนการศึกษาทุกระดับปีสุดท้าย และทุนการศึกษาต่อเนื่องทุกระดับชั้น แก่เยาวชนที่ประพฤติดี ประจำปี 2565 ณ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ


.
วันนี้ (วันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2565) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการ เป็นประธานในพิธี นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ พร้อมด้วย คณะกรรมการมูลนิธิฯ ร่วมในพิธีมอบทุนการศึกษาต่อเนื่อง และทุนการศึกษาในปีสุดท้ายของ ระดับชั้นมัธยมศึกษา อาชีวศึกษา และอุดมศึกษา ประจำปี 2565 รวม 156 สถาบัน จำนวน 910 ทุน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 12,615,000 บาท
(สิบสองล้านหกแสนหนึ่งหมื่นห้าพันบาทถ้วน) พร้อมมอบค่าพาหนะแก่สถาบันการศึกษาจากต่างจังหวัด เพื่อให้เยาวชนได้รับโอกาสทางการศึกษาอย่างเท่าเทียมโดยไม่ต้องละทิ้งหรือยุติการศึกษาลงเพราะขาดแคลนทุนทรัพย์ เติมเต็มความมุ่งหวังในชีวิต เติบโตพร้อมมีวิชาความรู้ สร้างอนาคตของตนเองและครอบครัว เป็นคนดีของสังคมและประเทศชาติ อีกทั้งยังเป็นการช่วยเหลือแบ่งเบาภาระของผู้ปกครอง โดยมีเยาวชน และผู้แทนจากสถาบันการศึกษา เป็นผู้รับมอบ ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคาร 2 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ
.
นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง กล่าวว่า การมอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียน นิสิต นักศึกษาเยาวชนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เป็นหนึ่งในนโยบายหลักของมูลนิธิฯ โดยในปี พ.ศ. 2565 นี้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้จัดสรรงบประมาณเพื่อมอบเป็นทุนการศึกษาแก่นักเรียน นิสิต นักศึกษาในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ซึ่งเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มูลนิธิฯ ได้มอบทุนการศึกษาแก่เยาวชนในระดับชั้นประถม และในวันที่ 21 ตุลาคม 2565 มูลนิธิฯ กำหนดลงพื้นที่มอบทุนการศึกษาในส่วนภูมิภาค (ทุนสัญจร) 5 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดอุตรดิตถ์ น่าน แพร่ พิษณุโลก และ สุโขทัย โดยกำหนดมอบที่จังหวัดอุตรดิตถ์ รวมงบประมาณการจัดสรรทุนฯ ในปีการศึกษา 2565 แก่นักเรียน นิสิต นักศึกษาทั่วประเทศเป็นจำนวนเงินกว่า 17 ล้านบาท
.
ตลอดระยะเวลากว่า 112 ปีที่ผ่านมา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลาย ๆ ทาง รวมถึงการพัฒนาด้านการศึกษา เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ดังปณิธานมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง “ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
.
ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมงานสาธารณกุศลมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ที่ เว็บไซต์ http://www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ http://www.facebook.com/atpohtecktung
.

ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต

แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418

ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน

ผบ.ตร.รับมอบเงิน 2,800,000 บาท ช่วยเหลือครอบครัวผู้สูญเสียเหตุ จ.หนองบัวลำภู

วันนี้ 10 ต.ค.65 เวลา 11.30 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. รับมอบเงิน จากคุณสุชัย พรชัยศักดิ์อุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท GPP INTERNATIONAL CO.TH / นายกสมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมก์ จำนวน 2,000,000 บาท นายภาณุพงศ์ ปรีชากาศ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์
มอบเงินช่วยเหลือ จำนวน 500,000 บาท และจากนักเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 41 โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. , พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.วีระ จิระวีระ รอง จตช. และคณะ นรต.41 มอบเงินช่วยเหลือ จำนวน 300,000 บาท รวมยอดเงินทั้งสิ้น 2,800,000 บาทเพื่อช่วยเหลือครอบครัวผู้สูญเสียและที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรง ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต. อุทัยสวรรค์ จ.หนองบัวลำภู
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณในน้ำใจของทุกท่านที่มามอบเงินในวันนี้ โดยตนและคณะจะนำเงินที่ได้รับไปรวมกับยอดบริจาคของข้าราชการตำรวจและครอบครัวอีก 6 ล้านกว่าบาท รวมแล้วกว่า 9 ล้านบาท เพื่อเฉลี่ยมอบให้กับครอบครัวของผู้สูญเสียและบาดเจ็บทุกราย ที่ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภูในวันอังคาร ที่ 11 ต.ค.65 เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ และอยากให้รู้ว่ายังมีคนอีกมากที่คอยให้กำลังใจอยู่

เปิดใจ “หญิงไก่” ขอความเป็นธรรมหลังศาลยกฟ้องคดีค้ามนุษย์ ตั้งใจทำความดีต่อ เผยเตรียมเปิดมูลนิธิช่วยเหลือประชาชน


เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2565 เวลา 10.00น.นางศรัญญา อุปปาตะสันติ หรือ “หญิงไก่” เดินทางเข้าร้องต่อสื่อมวลชนผ่านรายการข่าวชัดประเด็นจริง ช่อง 13สยามไทย พร้อมเอกสารหลักฐานต่างๆ หลังตกเป็นจำเลยสังคมมานานในคดีค้ามนุษย์ ซึ่งต่อมาศาลได้มีคำพิพากษายกฟ้องทุกคดี รวมทั้งหมด15 คดี ทำให้ “หญิงไก่” พ้นความผิดและได้รับพระราชทานอภัยโทษ มีอิสระภาพอีกครั้ง แต่ยังมีกลุ่มบุคคลได้ออกมาพูดถึงและให้ข่าวที่ไม่เป็นความจริงเกี่ยวกับตน ซึ่งตนจึงอยากมาร้องต่อสื่อ ขอใช้พื้นที่ในการชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ ให้สังคมรับรู้ หลังตนตกเป็นจำเลยสังคมมาโดยตลอด
นางศรัญญา อุปปาตะสันติ หรือ “หญิงไก่” ได้เปิดเผยผ่านรายการข่าวชัดประเด็นจริง ช่อง 13สยามไทย ว่าเมื่อปี 59 ตนนั้นได้ตกเป็นจำเลยในคดีค้ามนุษย์ถึง 15 คดี ซึ่งถูกใส่ความและไม่ได้รับความเป็นธรรมมาโดยตลอด จนตนนั้นได้ไปอยู่ในเรือนจำเป็นเวลากว่า 2 ปี ระหว่างที่ตนอยู่ในเรือนจำนั้นก็ได้ใช้สิทธิ์ในการต่อสู้คดีมาโดยตลอดจนเมื่อปื พ.ศ.2563 ศาลมีคำพิพากษายกฟ้องทั้งหมด 15 คดี ที่ตนตกเป็นจำเลย ทำให้ตนนั้นได้พ้นความผิดและได้รับอิสรภาพ
และได้รับพระราชอภัยโทษล้างมลทินในคดีหมิ่นด้วย หลังออกจากเรื่อนจำก็ได้เห็นข่าวทางสื่อต่างๆได้นำเสนอ มีบางอย่างที่ไม่ใช่ความจริง ทำให้ตนเองเสื่อมเสียชื่อเสียง ทั้งมีการกล่าวอ้างว่าตน กับหญิงเก๋ กิมเอ็ง เป็นพี่น้องกัน จึงขอชี้แจ้งผ่านรายการข่าวชัดประเด็นจริงให้ประชาชนรับรู้ว่า ตนไม่ได้เป็นพี่เป็นน้องกับหญิงเก๋ กิมเอ็ง และเมื่อครั้งปี พ.ศ.2530 ตนเองยังเป็นพยานสำคัญในการแจ้งจับหญิงเก๋กิมเอ็ง จนเป็นข่าวโดงดัง ส่วนเรื่องคดีความทีมีทนายดังและหน่วยงานต่างๆแจ้งจับว่าตนเอง ค้ามนุษย์ ทั้ง15 คดีศาลก็ยกฟ้องทุกคดีแล้ว ก็ไม่คิดจะฟ้องร้องหน่วยงานและทนายความคนดังกลับแต่อย่างใด เพียงแค่อยากจะขอความเห็นใจกับสื่อมวลชนและประชาชน เนื่องจากยังพบปรากฏว่ายังมีกลุ่มบุคคลและสำนักข่าวบางสำนักได้นำเรื่องราวในอดีตของตนนั้นมาเผยแพร่นำเสนอออกข่าวอยู่ ทำให้ตนนั้นไม่สบายใจและเสื่อมเสียชื่อเสียงเป็นอย่างมาก
จึงอยากวอนสังคมเข้าใจในเรื่องนี้ และหยุดเผยแพร่ภาพข่าวในอดีตของตน ในทางที่จะก่อให้เกิดความเสื่อมเสียชื่อเสียง
ซึ่งนางศรัญญา (หญิงไก่) ยังเปิดเผยกับสื่อมวลชนอีกด้วยว่า หลังจากที่ตนได้ออกจากเรือนจำมา ก้ได้ถือศีลประฎิบัติธรรมนุ่งขาวห่มข่าวทำความดีเพื่อช่วยเหลือสังคมเหมือนเดิมตามเดิมที่เคยกระทำมาเช่นเดิม นอกจากนี้ตั้งใจว่าเปิดมูลนิธิเพื่อช่วยเหลือคนที่ลำบากและขาดโอกาส ต่อไป เพราะตอนเด็กๆ ตนเองก็เคยเป็นคนที่ขาดโอกาสเพราะเป็นเด็กกำพร้า จึงอยากช่วยเหลือคนที่ตกทุกข์และขาดโอกาสให้เขาได้มีจุดยืนในสังคมมาเป็นกำลังในการพัฒนาประเทศชาติ ต่อไป โดยตั้งใจจะทำการเปิดมูลนิธิจะใช้ชื่อมูลนิธิว่า “อุปปาตสันติ” (ส่วนที่มาของ คำว่า “อุปปาตสันติ แปลว่า มนต์ระงับเหตุร้าย หรือบทสวดระงับเภทภัย” โดย อุปฺปาต แปลว่า เหตุร้าย, อันตราย, ภัยพิบัติ ส่วน สนฺติ แปลว่า ระงับ, ทำให้สงบ ทางเมืองเหนือเรียกว่า “มหาสันติงหลวง” เป็นบทสวดมนต์โบราณที่มีประโยชน์เพื่อระงับเหตุร้ายและสร้างศานติสุขให้เกิดขึ้นในแผ่นดิน ประกอบด้วย คาถาล้วนจำนวน 271 บท)
เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนคนผู้ที่ลำบากยากไร้ ตามปณิธานที่ตนตั้งใจไว้
นางศรัญญา อุปปาตะสันติ หรือ “หญิงไก่ ยังกล่าวทิ้งท้ายผ่านทางรายการข่าวชัดประเด็นจริงว่า หากมีใครอยากจะบวชพระยินดีจะเป็นเจ้าภาพให้ หรือขอความช่วยเหลือในกรณีต่างๆที่ตนพอจะช่วยเหลือได้ สามารถติดต่อตนผ่านมาทางรายการข่าวชัดประเด็นจริง ช่อง13สยามไทย ได้เลย เบอร์โทร 096-529-4156

พ.ต.อ.พนม ผกก.สน. พลับพลาไชย 2 อำนวยความสะดวกการจราจรช่วงเกิดสภาวะน้ำท่วมขัง

วันที่ 7 ต.ค.65 เวลา 17.20 น. พ.ต.อ.พนม เชื้อทอง ผกก.สน.พลับพลาไชย 2 พร้อมด้วยชุดช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกการจราจรช่วงเกิดสภาวะน้ำท่วมขัง ได้อำนวยการจราจรและช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขัง ถนนเจริญกรุง แยกหมอมี และถนนเยาวราช จนสภาพการจราจรคลี่คลาย และได้ให้การช่วยเหลือนายแดเนี่ยล นักท่องเที่ยวชาวเนเธอแลนด์ที่ได้รับผลกระทบไม่มียานพาหนะเดินทางไปที่สถานีรถไฟกรุงเทพ(หัวลำโพง) จะเดินทางไป จว.เชียงใหม่ กำหนดเวลาขบวนรถออก 18.00 น. ถึงสถานีทันตามกำหนดเวลาเป็นที่เรียบร้อย ได้กล่าวขอบคุณตำรวจไทยที่มีน้ำใจช่วยเหลือโอบอ้อมอารี แล้วจะกลับมาเที่ยวประเทศไทยอีก

“บิ๊กโจ๊ก” ลงพื้นที่ รับฟังปัญหา กำหนดแนวทาง พร้อมถอดบทเรียนเหตุกราดยิงหนองบัวลำภู

วันที่ 8 ต.ค. เวลา 16.00 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ได้เดินทางลงพื้นที่ อบต.อุทัยสวรรค์ จ.หนองบัวลำภู เพื่อรับฟังปัญหาในการทำงานของพนักงานสืบสวนสอบสวน กำหนดแนวทางการสืบสวนในคดี พร้อมสั่งการให้ พล.ต.ต.หัสชัย เรืองมาลัย รอง ผบชภ.4 พล.ต.ต.พงพิพัฒน์ ศิริพรวิวัฒน์ ผบก.ภ.จว.หนองบัวลำภู เร่งกำหนดหน้าที่และแนวทางการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ชัดเจน

ในหลวง-พระราชินี เสด็จเยี่ยมให้กำลังใจผู้บาดเจ็บ-ญาติผู้เสียชีวิต

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ ทรงเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล หนองบัวลำภู รวมถึงพระราชทานกำลังใจให้แก่ครอบครัวผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์กราดยิง บริเวณศูนย์เด็กเล็ก อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู

โดยก่อนหน้านี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรีและองคมนตรี เป็นตัวแทนพระองค์เพื่อไปเยี่ยมครอบครัวผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์กราดยิงที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จังหวัดหนองบัวลำภู หลังเข้ารักษาตัวที่ โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี จังหวัดอุดรธานี

นอกจากนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยอีกว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณารับผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ทั้งหมด

Design a site like this with WordPress.com
Get started