พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ผู้ช่วยผู้ผบ.ตร. และ นายกสมาคมชาวปักษ์ใต้ เป็นประธานพิธีปิดงานบุญสารทเดือนสิบ

วันที่ 25 ก.ย. 65 เวลา 21.00 น. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ นายกสมาคมชาวปักษ์ใต้ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานพิธีปิดงานบุญสารทเดือนสิบ โดยได้มีคณะกรรมการสมาคม คณะกรรมการจัดงาน และ ประชาชน ได้มาร่วมในพิธีฯ และ นายกสมาคมฯ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ได้พบปะพูดคุยกับประชาชน และอุดหนุนพ่อค้าแม่ขาย ในงานบุญสารทเดือนสิบ และนอกจากนี้ได้กล่าวอวยพรวันเกิดแก่ คุณ ขวัญชัย บุญสุวรรณ กรรมการสมาคมชาวปักษ์ใต้ ฯ และกล่าวอวยพรพี่น้องประชาชนในงานผู้มาร่วมงานก่อนจะกล่าวปิดพิธีฯ

โดยมีพี่น้องชาวปักษ์ใต้ และประชาชนมาร่วมงานประมาณ 1,000 คน ณ สมาคมชาวปักษ์ใต้ฯ ถนนกาญจนาภิเษก เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพ “สร้างชีวิต” อย่างยั่งยืน แก่ครัวเรือนยากจนจังหวัดเชียงใหม่


.
วานนี้ (วันที่ 22 กันยายน 2565) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายอรัณย์ โตทวด ผู้จัดการใหญ่มูลนิธิฯ และนางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ ร่วมในพิธีมอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้กับครัวเรือนยากจนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ (ครั้งที่ 2) จำนวน 20 ครัวเรือน คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 292,710 บาท เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนอาชีพแก่ครัวเรือนยากจนสามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัว ดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ภายใต้ ”บันทึกข้อตกลงความร่วมมือการแก้ไขปัญหาความยากจนเชิงบูรณาการ” ร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย โดยมี นายเจริญ สีวาโย พัฒนาการจังหวัดเชียงใหม่ และ นางสาวนิภา ทองก้อน ผู้อำนวยการสำนักเสริมสร้างความเข้มแข็งชุมชน เป็นประธานร่วมในพิธี พร้อมด้วย ทีมงานแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และคณะกรรมการกรรมการมูลนิธิเชียงใหม่สามัคคีการกุศล ร่วมในพิธี ณ บริเวณหอประชุมพัฒนานุสรณ์ เทศบาลตำบลแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
.
ซึ่งในปี พ.ศ. 2564 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้มอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพในพื้นที่ภาคเหนือ ประกอบด้วย จังหวัดอุทัยธานี สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ พะเยา เชียงราย น่าน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก และแม่ฮ่องสอน รวม 17 จังหวัด 230 ครัวเรือน มอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพทั้งสิ้น จำนวน 3,445,710 บาท(สามล้านสี่แสนสี่หมื่นห้าพันเจ็ดร้อยสิบบาทถ้วน)
.
การดำเนินการ “โครงการแก้ไขปัญหาความยากจนเชิงบูรณาการ” มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดยฝ่ายสังคมสงเคราะห์ จะจัดทีมลงพื้นที่ร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย พร้อมให้ความรู้ ทักษะ และมีวัสดุอุปกรณ์ไปประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัว โดยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้จัดหาอุปกรณ์การประกอบอาชีพให้กับครัวเรือนยากจน เพื่อลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม ตลอดจนสร้างความสุขสู่ชุมชน สังคม และประเทศชาติอย่างยั่งยืน โดยในปีงบประมาณ 2563 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งและกรมการพัฒนาชุมชนได้ดำเนินการในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ โดยกำหนดกลุ่มเป้าหมาย 500 ครัวเรือน งบประมาณดำเนินงานทั้งสิ้น 10,000,000 บาท (สิบล้านบาทถ้วน)
.
ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมงานสาธารณกุศลมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ที่ เว็บไซต์ http://www.pohtecktung.org และ
เฟซบุ๊ก แฟนเพจ http://www.facebook.com/atpohtecktung
.

ป่อเต็กตึ๊ง ยึดมั่นอุดมการณ์ อยู่เคียงข้างทุกวิกฤต

“มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง110ปีความดีที่ยั่งยืน

แอปพลิเคชัน และ #สายด่วน ป่อเต็กตึ๊ง1418

ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อระดมความคิดเห็นจากข้าราชการตำรวจผู้มีประสบการณ์สูงด้านต่าง ๆประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565


สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดโครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อระดมความคิดเห็นจากข้าราชการตำรวจ ที่มีประสบการณ์สูงด้านต่าง ๆ เพื่อนำมาปรับปรุงงานบริหารงานบุคคลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และพิธีมอบประกาศเกียรติคุณแก่ข้าราชการตำรวจผู้ที่จะเกษียณอายุราชการ และงานเลี้ยงรับรอง
ประจำปีงบประมาณ 2565 ในระหว่างวันที่ 22-24 ก.ย. 65 ณ โรงแรมเซนทาราแกรนด์ เซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว และโรงเรียนนายร้อยตำรวจ อ.สามพราน จ.นครปฐม ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
มีข้าราชการตำรวจที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์และจะพ้นจากราชการเนื่องจากเกษียณอายุทั่วประเทศ
เป็นระดับชั้นยศ พ.ต.อ. หรือตำแหน่งเทียบเท่าขึ้นไป ที่เข้าร่วมโครงการฯ จำนวนทั้งสิ้น 317 นาย โดยในปีนี้
มีผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่จะเกษียณอายุราชการ อาทิ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.อ.ปิยะ อุทาโย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.อ. สุทิน ทรัพย์พ่วง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.อ.ชยพล ฉัตรชัยเดช ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ,
พล.ต.อ. ปรีชา เจริญสหายานนท์ ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.อ. มนตรี ยิ้มแย้ม ปรึกษาพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นต้น
สำหรับการดำเนินงานโครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อระดมความคิดเห็นข้าราชการตำรวจ
ที่มีประสบการณ์สูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อระดมความคิดเห็นจากข้าราชการตำรวจผู้มีประสบการณ์สูงในงานด้านต่าง ๆ เพื่อนำมาเป็นแนวทางในการปรับปรุงงานบริหารงานบุคคล
ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต่อไป โดยภายในงานสัมมนาได้มีการจัดแสดงนิทรรศการ และกิจกรรมต่างๆ อาทิ โรงพยาบาลตำรวจ จัดคณะแพทย์และพยาบาล เพื่อตรวจสุขภาพและคอยให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพเบื้องต้น, กองสวัสดิการตำรวจ จัดเจ้าหน้าที่ในการแนะนำเรื่องของสวัสดิการต่างๆ และธนาคารกรุงไทย
จัดนิทรรศการแนะนำเรื่องการออมเงิน เป็นต้น นอกจากนี้ยังจัดให้มีการสัมมนา อภิปรายเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์แก่ผู้เข้าร่วมการสัมมนาฯ
ทั้งนี้ ในวันศุกร์ ที่ 23 ก.ย. 65 เวลา 16.00 น. กำหนดจัดพิธีมอบประกาศเกียรติคุณ และ
ของที่ระลึกแก่ข้าราชการตำรวจผู้เกษียณอายุราชการ ประจำปี 2565 ณ ห้องเตมียเวส โรงเรียนนายร้อยตำรวจ อ.สามพราน จ.นครปฐม และในเวลา 18.15 น. กำหนดจัดพิธีสวนสนาม “เกียรติยศฝากไว้ ให้แผ่นดิน”
และพิธีเชิญธงพิทักษ์สันติราษฎร์ลงจากยอดเสา ณ ลานฝึกศรียานนท์ หลังเสร็จสิ้นพิธีฯ ในเวลา 21.00 น. กำหนดจัดพิธีส่งแถวผู้เกษียณอายุราชการ ณ ประตู 1 โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
ในโอกาสเดียวกันนี้ ในเวลา 13.30 น. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดอาคารแจ้งยอดสุข (ศูนย์นวัตกรรมด้านความมั่นคงทางไซเบอร์และการตรวจพิสูจน์ทางดิจิตัล) และพิธีมอบรางวัลการแข่งขันทักษะความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ สำหรับข้าราชการตำรวจในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประจำปี 2565
สำหรับอาคารแจ้งยอดสุข เป็นที่ตั้งของศูนย์นวัตกรรมทางด้าน CYBER SECURITY และ DIGITAL FORENSIC ซึ่งเป็นดำริและนโยบายของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ที่ต้องการยกระดับองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญของสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้เทียบเท่าหน่วยงาน FBI ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งอาคารแห่งนี้ประกอบไปด้วย DATA CENTER ที่จะนำไปสู่การพัฒนาต่อยอดเป็นศูนย์ BIG DATA ศูนย์การทำวิจัยและสร้างนวัตกรรมใหม่ๆทางด้าน CYBER SECURITY + DIGITAL FORENSIC โดยในขณะนี้ได้มีการร่วมมือกับสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาทั้งในและต่างประเทศ พัฒนาแพลตฟอร์ม AI ในการดึงข้อมูลบุคคลรถยนต์ และทะเบียนรถ จากกล้องที่มีคุณสมบัติที่แตกต่าง เพื่อให้สถานีตำรวจ ทั่วประเทศไปใช้ในงานป้องกันปราบปรามและการสืบสวนคดีอาชญากรรมต่างๆ
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กล่าวให้โอวาท พร้อมกล่าวขอบคุณโรงเรียนนายร้อยตำรวจที่ตระหนักถึงความสำคัญของอาชญากรรมทางไซเบอร์ และสนับสนุนในการพัฒนาเสริมสร้างทักษะความรู้ต่างๆ ด้านไซเบอร์แก่ข้าราชการตำรวจต่อไปในอนาคต

พิธีเปิดอาคารแจ้งยอดสุข และเปิดศูนย์นวัตกรรมด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์และการตรวจพิสูจน์ทางดิจิทัล

พ.ต.อ.วัชรวีร์ ผกก.สน.บางรัก จัดกิจกรรมงานเกษียนอายุราชการ

22 กันยายน 2565 สน.บางรัก นำโดย พ.ต.อ.วัชรวีร์ ธรรมเสมา ผู้กำกับการ พร้อมข้าราชการตำรวจ สน.บางรัก ทุกนาย และ คณะ กต.ตร. สน.บางรัก ร่วมแสดงมุทิตาจิต จัดกิจกรรมงานเกษียนอายุราชการ แก่ข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ครบอายุราชการ ด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เป็นตัวอย่างแก่ข้าราชการตำรวจ กิจกรรมดำเนินไปด้วยความอบอุ่น
สน.บางรัก ขอขอบคุณ การปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการที่เกษียนตลอดมา ขอให้จงประสบความสุข ทั้งสุขภาพแข็งแรง

ชาวบ้านร้องสื่อ โดนบุกรุกที่ดิน

งง ไปตามๆกัน ลงบึนทึกประจำวันไม่มีเจตนาบุกรุก ก่อนนำรถแม็คโคเข้ารื้อ บุกที่คนอื่น รายการข่าวชัดประเด็นจริง ช่อง13 สยามไทย 22 09 65 https://fb.watch/fH8lLQma-A/

คนดังเมืองราชบุรี สั่งหรือป่าว? ถึงกล้าบุกพื้นที่ของป้า พื้นที่รับผิดชอบ สภ.ปากท่อ เมืองราชบุรี #ข่าวชัดประเด็นจริง #13สยามไทย #ปากท่อ #บุกรุกที่ดิน
https://fb.watch/fHzT442VKE/

พล.ต.ท.สำราญ ผบช.น.,พ.ต.อ.ณัฐพล รอง ผบก.น.6 ,พ.ต.อ.นริศ ปรารถนาพร ผกก.สส.บก.น.6 ,เจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.น 6 และ กก.ดส. ร่วมแถลงผลการจับกุมยาเสพติด(ยาบ้า)

กองบัญชาการตำรวจนครบาล แถลงผลการปฏิบัติที่น่าสนใจ”
…ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด…

กรณีวันที่ 20 ก.ย.65 เวลา 13.00 น. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น., พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.
พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รอง ผบช.น., พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.น.,พล.ต.ต.สำเริง สวนทอง รอง ผบช.น. พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ รอง ผบช.น. ได้แถลงผลการปฏิบัติที่น่าสนใจ โดยมีรายละเอียด ดังนี้

คดีที่ 1 นครบาลจับมือขนยาเสพติดรายใหญ่ พร้อมยาบ้ากว่า 2 แสนเม็ด

วันที่ 21 ก.ย.65 เวลา 14.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.6 ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 2 ราย บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 441/82 หมู่บ้านเคพี แลนด์ ถนนประชาอุทิศ 90 ตำบลบ้านคลองสวน อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ ดังนี้
1. นายชยากรฯ อายุ 23 ปี
2. นายกฤตเมธ อายุ 24 ปี
พร้อมด้วยของกลาง
1. ยาเสพติดให้โทษประภทที่ 1 (ยาบ้า) จำนวน 220,000 เม็ด
2. โทรศัพท์มือถือจำนวน 2 เครื่อง
โดยกล่าวหาว่า
“ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษ ประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยฝ่าฝืนต่อกฏหมายอันเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป”
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน บก.น.6 ได้รับแจ้งว่า นายชยากรฯ มีพฤติกรรมลักลอบขนส่งยาเสพติดโดยส่งพัสดุผ่านบริษัทขนส่งเอกชนรายหนึ่ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานและเฝ้าติดตาม จนกระทั่งเมื่อวันที่ 21 ก.ย. 65 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงตนพร้อมเข้าค้นบ้านเช่าของนายชยากรฯ เลขที่ 441/82 หมู่บ้านพี เค แลนด์ ซอย 2 ถ.ประชาอุทิศ 90 ต.บ้านคลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ผลการตรวจค้นนายชยากรฯ และ นายกฤตเมธฯ พร้อมยาบ้าจำนวน 220,000 เม็ด อยู่ภายในบ้านพักหลังดังกล่าว เบื้องต้นนายชยากรฯ และ นายกฤตเมธฯ ให้การรับสารภาพว่ายาเสพติดทั้งหมดเป็นของตนเองจริงโดยได้รับว่าจ้างจากรุ่นพี่ที่รู้จักกันให้นำยาเสพติดมาพักของไว้ที่บ้านก่อนที่จะนำไปส่งให้กับลูกค้าด้วยวิธีการต่างๆ เช่น ส่งพัสดุบ้าง นัดรับบ้าง โดยได้ค่าจ้างต่อครั้งประมาณ 5,000 – 10,000 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ยึดไว้เป็นของกลาง และแจ้งข้อกล่าวหาว่า

“จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมายอันเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป” นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สาขลา จว.สมุทรปราการ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คดีที่ 2 กก.ดส. ทลายแก๊งยาเค สาย 4
วันที่ 21 ก.ย.65 เวลา 18.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ดส. ได้ทำการจับกุม นายนพดล หรือเอิร์ธ อายุ ๒๖ ปี
พร้อมด้วยของกลาง
1.วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท ๒ (คีตามีน) ๗.36 กกิโลกรัม
2.บัตร เอทีเอ็ม จำนวน 3 ใบ
3.โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง
โดยกล่าวหาว่า
“ครอบครองวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท ๒ (คีตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต กระทำเพื่อการค้า”

ก่อนการจับกุมในคดีนี้ เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2656 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีชายไทยไม่ทราบชื่อ รูปร่างท้วม ผมสั้น ผิวขาว สูงประมาณ 170 ซม. อายุประมาณ 25 ปี มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้ลูกค้าย่าน พุทธมณฑลสาย 4 ศาลายา โดยใช้รถยนต์ นิสสัน จู๊ค สีแดง เป็นพาหนะในการขนส่งยาเสพติด และใช้บ้านเลขที่ 55/240 หมู่ที่ 5 หมู่บ้านแกรนกิตติยา ตำบลคลองโยง อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม เป็นที่เก็บซุกซ่อนยาเสพติด จึงเฝ้าสังเกตุพฤติกรรม จนทราบว่า นายนพดล มีรูปร่าง และอายุตรงกับที่สายลับแจ้ง พักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว และยังพบรถนิสสัน จู๊กสีแดงจอดอยู่ที่หน้าบ้านหลังดังกล่าวด้วย จนกระทั่ง วันที่ 21 กันยายน 2565 เวลาปนะมาณ 04:00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า พบว่านาย นพดลฯ ขับรถนิสสันจู๊ก สีแดงออกจากบ้าน ไปจอดริมถนน ในซอยวัดลาดปลาดุก ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี แล้วนายนพดลฯ ไปหยิบถุงดำที่ อยู่ริมถนน แล้วรีบขึ้นรถขับออกไปอย่างรวดเร็ว โดยรถยนตร์คันดังกล่าวขับกลับมาจอดที่หน้าบ้านเลขที่ 55/240 หมู่ 5 หมู่บ้านแกรนกิตติยา ตำบลคลองโยง อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม นายนพดลฯ เปิดรถ แล้วหยิบถุงดำดังกล่าวเข้าไปในบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมเชื่อว่าถุงดำที่นายนพดลฯ ยกเข้าไปในบ้าน มียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ จึงทำการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายค้น เมื่อศาลอนุมัติหมายค้น เจ้าหน้าที่ตำรวจฯ จึงเข้าทำการตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว พบของกลางตามรายการดังกล่าวข้างต้น จากการซักถามนายนพดลฯ ผู้ถูกจับกุมยอมรับว่ายาเสพติดทั้งหมดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นพบที่บ้านของตนนั้นเป็นของตนเองจริง โดยตนเองรับจ้างไปรับยาเสพติดมาเก็บไว้ และนำไปส่งให้ลูกค้าตามคำสั่งของนายเอ้และนอกจากนั้นนายนพดลฯ ยังให้การว่านายเอ้ ยังสั่งการให้ตนเองทำหน้าที่กดเงิน และนำเงินสดที่กดมาได้ ฝากเงินเข้าไปให้นายเอ้ ต่อไปอีกด้วย โดยเมื่อนายเอ้กดเงินสดแล้วจะให้นำเงินสดฝากต่อเข้าบัญชี ธนาคารไทยพาณิชย์ ชื่อบัญชี นายกฤษฎา และบัญชี ธนาคารกสิกรไทย ชื่อบัญชี น.ส. ธนาภรณ์ จากการตรวจสอบโทรศัพท์ พบการสนทนากันระหว่าง นายนพดลฯ และ

นายเอ้ เกี่ยวกับยาเสพติด ผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ ทั้งการสั่งการให้ไปรับและส่งยาเสพติดให้กับลูกค้า และการถอนและฝากเงินนายนพดลฯ ให้การตนเองรับจ้างรับเก็บและส่งยาเสพติดตามคำสั่งของนายเอ้ ตั้งแต่ประมาณเดือน เมษายน 2565 โดยจะได้ค่าจ้างกิโลกรัมละ 2,000 บาท และที่ผ่านมาตนเองจะไปรับเก็บรักษาและส่งยาเสพติดให้กับลูกค้าเฉพาะยา คีตามีน เท่านั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงควบคุมตัวและแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ พร้อมแจ้งสิทธิ์ของผู้ถูกจับให้ทราบแล้วในชั้นจับกุมผู้ถูกจับ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ผู้ต้องหาทราบข้อกล่าวหาและสิทธิดีแล้ว

พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. ได้เน้นย้ำเพื่อให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนว่า จะมุ่งเน้น
การป้องกันอาชญากรรม ให้กับพี่น้องประชาชน และเมื่อเกิดเหตุแล้วจะเร่งทำการ สืบสวน ติดตามจับกุม คนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วทุกคดีและจะดำเนินการกวาดล้างอาชญากรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครมีความปลอดภัยมากที่สุด

บช.น. ขอเรียนพี่น้องประชาชนว่า ถึงแม้ว่าช่วงนี้จะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19
แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและยาเสพติดอย่างเคร่งครัด พบเห็นหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิด โปรดแจ้งสายด่วน ๑๙๑ หรือสถานีตำรวจท้องที่

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.สำราญ ผบช.น. ร่วมโครงการฝึกอบรมข้าราชการตำรวจ

วันนี้(พุธที่ 21 ก.ย.65) เวลา 13.30 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น., พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2, คณะ รอง ผบช.น., ผู้บังคับบัญชาระดับสูงในส่วน ตร., ผู้บังคับบัญชาระดับสูงในส่วน บช.น. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมโครงการฝึกอบรมข้าราชการตำรวจซึ่งปฏิบัติหน้าที่ดูแลการชุมนุมสาธารณะ เพื่อรองรับการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคและการประชุมที่เกี่ยวข้อง โดยหลังจากนั้น รอง ผบ.ตร. ได้รับมอบของที่ระลึกจาก ผบช.น. และตรวจเยี่ยมกำลังพลที่เข้ารับการฝึกอบรมดังกล่าวด้วย ณ บก.ฝรก. ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล ภ.จว.นครปฐม/ทีมงานประชาสัมพันธ์ บช.น.

ศาลพระแม่กวนอิมสวนหมาก จัดเทศกาลถือศีลกินเจ ปี 2565 เต็มรูปแบบ มีพิธีข้ามสะพานสะเดาะเคราะห์ พิธีขอขมากรรมเจ้าสมุทร ลอยกระทงโปรดวิญญาณทางน้ำ

นายปรีชา สถิตเรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา
พิธีแห่พระรอบเมืองและพิธีลุยไฟ ระหว่างวันที่ 25 กันยายน – 4 ตุลาคม 2565
วันนี้ 21 กันยายน 2565 ที่ศาลพระแม่กวนอิมสวนหมาก เขตเทศบาลนครสงขลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา คุณศักดิ์ – คุณแอนลา ตั้งคุปตานนท์ ประธานศาลพระแม่กวนอิมสวนหมาก ได้เดินทางมาจุดธูปสักการะพระแม่กวนอิมและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ภายในศาลเจ้าฯ รวมทั้งมาดูความเรียบร้อยในการเตรียมการจัดงานเทศกาลถือศีลกินเจปี 2565 ระหว่างวันที่ 25 กันยายน – 4 ตุลาคม 2565 โดยในปีนี้ ทางศาลพระแม่กวนอิมสวนหมาก จัดพิธีเต็มรูปแบบทั้งที่ศาลพระแม่กวนอิมฯและบริเวณปะรำพิธีหน้าพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติสงขลา
โดยในวันที่ 25 กันยายน 2565 เวลา 21.00 น.จะมีพิธีกรรมสำคัญในการอัญเชิญเทพเจ้ากิ่วอ๋องฮุกโจ้ว หรือเทพเจ้าดาวนพเคราะห์ทั้ง 9 อัญเชิญมาเป็นประธานทิพยญาณในช่วงถือศีลกินเจ ที่ศาลพระแม่กวนอิมสวนหมาก เนื่องในเทศกาลถือศีลกินเจ ปี 2565 และจะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 26 กันยายน 2565เวลา 16:00 น. ณ บริเวณปะรำพิธี ลานหน้าพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติสงขลา ในวันที่ 28 กันยายน 2565 เวลา 18:00 น.พิธีข้ามสะพานสะเดาะเคราะห์ วันที่ 29 กันยายน 2565 เวลา 19.00 น. พิธีขอขมากรรมเจ้าสมุทรลอยกระทงโปรดวิญญาณทางน้ำ ที่ บริเวณท่าแพขนานยนต์ แหลมสนอ่อน วันที่ 2 ตุลาคม 2565 เวลา 08.00 น. พิธีแห่พระรอบเมืองและเวลา 18.00 น.เป็นพิธีลุยไฟ วันที่ 3 ตุลาคม 2565 เวลา 12.00 น.จะเป็นพิธีเทกระจาดโปรดวิญญาณและเวลา 15.00 น.ทำการแจกทาน โดยทางศาลพระแม่กวนอิมสวนหมากมีการจัดตั้งโรงเจ เพื่อเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้มีโอกาสมาทานอาหารเจ ที่ศาลเจ้าฯโดยบริการอาหารเจทั้ง 3 มื้อ ตลอด 10 วันของเทศกาลถือศีลกินเจ กินฟรีหรือแล้วแต่จะทำบุญ
คุณแอนลา ตั้งคุปตานนท์ ประธานศาลพระแม่กวนอิมสวนหมาก กล่าวว่า พิธีเปิดจะเปิดในวันที่ 26 กันยายน เวลา 4 โมงเย็น โดยจะเริ่มพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์จากที่ศาลพระแม่กวนอิมสวนหมากแห่งนี้ก่อน และค่อยเคลื่อนขบวนอัญเชิญองค์พระแม่กวนอิมไปประดิษฐาน ณ ที่ปะรำพิธี หน้าพิพิธภัณฑ์สงขลา ส่วนวันอื่นๆเรามีกิจกรรมหลักๆ โดยจะมีพิธีข้ามสะพานสะเดาะเคราะห์ พิธีขอขมาเจ้าสมุทรลอยกระทงโปรดวิญญาณทางน้ำ วันที่ 2 ตุลาคมจะมีพิธีแห่พระรอบเมืองและพิธีลุยไฟส่วนวันที่ 3 ตุลาคมก็จะเป็นพิธีเทกระจาดโปรดวิญญาณและก็แจกทานให้กับประชาชนทั่วไป
ทางด้านคุณศักดิ์ ตั้งคุปตานนท์ กล่าวว่า ขอเรียนเชิญประชาชนทุกท่านผู้ที่ถือศีลกินเจได้มาร่วมบุญ มาถือศีลกินเจ ที่ศาลพระแม่กวนอิมสวนหมากและที่ปะรำพิธีตรงข้ามพิพิธภัณฑ์สงขลา หน้าประมงเก่า ขอเรียนเชิญทุกท่าน การถือศีลกินเจในครั้งนี้จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 25 กันยายนถึงวันที่ 4 ตุลาคม 2565

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ พร้อมคณะ หารือผู้แทนสหภาพยุโรป ร่วมต่อต้านปัญหา IUU ณ กรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยี่ยม

ตามนโยบายของรัฐบาลโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย โดยมี พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นประธานคณะทำงานเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบ ควบคุม เฝ้าระวังการทำการประมงโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพื่อทำหน้าที่ในการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมประมง กรมเจ้าท่า ศรชล. และอีกหลายหน่วยงาน เพื่อแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง โดยได้มีการดำเนินการด้านการตรวจสอบการใช้เครื่องมือทำประมงให้ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด การป้องกันและปราบปรามการบังคับใช้แรงงานข้ามชาติในการทำประมง เพื่อเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับการทำประมงของประเทศไทยในสายตาของนานาประเทศ และลดการส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจ เช่น การส่งออกสินค้าภาคประมงของไทย
นอกจากนี้ ในเดือนตุลาคม 2565 ที่จะถึงนี้ คณะกรรมาธิการยุโรปได้เตรียมการที่จะมาตรวจสอบการทำประมงของไทย เพื่อสังเกตการณ์การดำเนินการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (IUU Fishing) ของประเทศไทยในภาพรวม เพื่อพิจารณาการทำธุรกิจส่งออกสินค้าภาคประมงของไทยในระยะต่อไป ในการนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะประธานคณะทำงานเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบ ควบคุม เฝ้าระวังการทำการประมงโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เดินทางไปพบหารือกับคณะกรรมาธิการยุโรป เพื่อรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการดำเนินการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (IUU Fishing) ของประเทศไทย และแสวงหาความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
โดยเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2565 ณ กรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยี่ยม นายเสข วรรณเมธี เอกอัครราชทูตไทยประจำ กรุงบรัสเซลส์ ได้นำคณะผู้แทนจากรัฐบาลไทย ประกอบด้วยผู้แทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรรมการนโยบายประมงแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบ น.ส. Charlina Vitcheva ปลัดกระทรวงกิจการทางทะเลและประมง คณะกรรมาธิการยุโรป (Director-General of the Directorate General for Maritime Affairs and Fisheries: DG MARE) และคณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านการต่อต้านการทำประมง IUU เพื่อหารือเกี่ยวกับความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม ในประเทศไทย (IUU Fishing)
ทั้งนี้ คณะผู้แทนฝ่ายไทย ได้สรุปผลงานภาพรวมของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย อาทิเช่น การดำเนินคดีกับเรือประมงปลอมสัญชาติที่ลักลอบเข้ามาทำประมงผิดกฎหมายในราชอาณาจักร การพิสูจน์ทราบกรณีแรงงานบนเรือประมงตกน้ำ การติดตามเรือประมงที่ปิดสัญญาณ VMS การดำเนินคดีกับเรือประมงที่ลักลอบทำประมงในเขตพื้นที่ตามมาตรการอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำ การดำเนินคดีกรณีการปลอมแปลงหนังสือคนประจำเรือ การลักลอบขนถ่ายน้ำมันเขียวของเรือประมงที่ไม่ได้รับอนุญาตจากศุลกากร และการดำเนินคดีกับเรือประมงที่มีการดัดแปลงเครื่องมือประมงโดยผิดกฎหมาย เป็นต้น รวมทั้งได้รายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการดำเนินคดีอื่นๆ ที่ทางสหภาพยุโรปให้ความสนใจ ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้แทนจากสหภาพยุโรปได้ทราบถึงการยกระดับการทำงานในการขจัดปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจังของประเทศไทย
​จากการนำเสนอผลงานดังกล่าว ผู้แทนจากสหภาพยุโรปได้ให้ความสนใจและซักถามรายละเอียดเกี่ยวกับ การดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนในการเอื้อประโยชน์ในการกระทำความผิดในการทำประมง การตั้งคณะทำงานในการตรวจสอบการเข้าออกของเรือประมง การบังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำประมงผิดกฎหมาย การดำเนินการสืบสวนคดีต่างๆ ของไทยที่ได้ดำเนินการครบทุกมิติ เช่น การดำเนินการทางคดี การขยายผลไปสู่ผู้ร่วมขบวนการและเจ้าหน้าที่รัฐ การดำเนินคดีฐานฟอกเงิน เป็นต้น ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้ทางสหภาพยุโรปมีความสนใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ประเทศไทยยกระดับการบังคับใช้กฎหมายจากการต่อต้านการทำประมงผิดกฎหมาย เพื่อตัดวงจรมิให้นำไปสู่อาชญากรรมด้านการประมง (Fisheries Crime) ซึ่งถือเป็นการทำงานในมาตรฐานระดับโลก ทั้งนี้ สหภาพยุโรปมีความตั้งใจอยากจะเปลี่ยนสถานะปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายของไทยเป็น ธงเขียว และพร้อมที่จะผลักดันให้ประเทศไทยเป็นผู้นำกลุ่มประเทศอาเซียน ในการปราบปรามการทำประมงผิดกฎหมาย (IUU Fishing)
นอกจากนี้ ผู้แทนของสหภาพยุโรป ได้ให้ข้อแนะนำเพิ่มเติมจากการหารือครั้งนี้ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายของประเทศไทย มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยแนะนำให้มีการประสานงานความร่วมมือกันทุกหน่วยงานที่รับผิดชอบให้มากยิ่งขึ้น สร้างความเข้าใจในการบังคับใช้กฎหมายให้กับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายของประเทศไทยในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า การเดินทางมากรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยี่ยมของคณะผู้แทนไทยในครั้งนี้ ได้มีแลกเปลี่ยนข้อมูล ข้อคิดเห็น ประสบการณ์ในการทำงานแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย แสดงออกถึงความตั้งใจและพยายามแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายของประเทศไทย ทำให้ผู้แทนของสหภาพยุโรปได้มีความเข้าใจในความมุ่งมั่นในการดำเนินการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายอย่างจริงจังและต่อเนื่องของไทย รวมทั้งได้เห็นผลงานและความเปลี่ยนแปลงที่หน่วยงานไทย โดยจะสามารถสร้างภาพลักษณ์ที่ดีเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายให้กับประเทศไทย รวมทั้งทำให้สถานะของไทย ได้รับธงเขียวจากสหภาพยุโรป และเป็นผู้นำชาติอาเซียนในการแก้ไขการทำประมงผิดกฎหมายในระดับภูมิภาคต่อไป

พล.ต.ท.สำราญ ผบช.น. พร้อม พล.ต.ต.นิธิธร รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.โชคชัย รอง ผบช.น. ร่วมแถลงคดีลักรถกับคดีลักทรัพย์ ต่างท้องที่

พล.ต.ท.สำราญ  นวลมา ผบช.น., พล.ต.ต.จิรสันต์  แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รอง ผบช.น., พล.ต.ต.นิธิธร  จินตกานนท์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.โชคชัย  งามวงศ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.สำเริง สวนทอง
รอง ผบช.น. พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ รอง ผบช.น. ได้แถลงผลการปฏิบัติที่น่าสนใจ โดยมีรายละเอียด ดังนี้

คดีที่ 1 สืบดอนเมือง แกะรอยตามรวบโจรแสบ ตระเวนลักรถจักรยานยนต์ในหลายพื้นที่
โดยลักมาแล้วไม่ต่ำกว่า ๒๖ คัน พบประวัติอึ้อ

วันที่ 18 ก.ย.65 เวลาประมาณ 03.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดอนเมือง ได้ทำการจับกุม นายอัครพงษ์ หรือแจ็ค อายุ 58 ปี บริเวณตลาดโต้รุ่งสะพานฟ้า ซอยรังสิต-นครนายก 8 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี 
พร้อมด้วยของกลาง
      1.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีน้ำเงินขาว ทะเบียน สษต 724 กรุงเทพฯ  จำนวน 1 คัน
     2.กุญแจรถจักรยานยนต์ จำนวน 10 ดอก
      3.หมวกนิรภัยสีดำ จำนวน 1 ใบ
    4.สายยูล็อค จำนวน 1 สาย
โดยกล่าวหาว่า “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน  หรือรับของโจร”
ก่อนการจับกุมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ดอนเมือง ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่า วันที่ 29 สิงหาคม 2565
เวลาประมาณ 07.00 น. ได้จอดรถ จักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ ทะเบียน รคน 446 กรุงเทพฯ ไว้ที่ใต้สถานีรถไฟฟ้าตลาดใหม่ดอนเมือง (สถานที่เกิดเหตุ) ต่อมาเวลาประมาณ 07.00 น. วันที่ 30 สิงหาคม 2565 ได้กลับมาไม่พบรถจักรยานยนต์ จึงมาแจ้งความร้องทุกข์เพื่อให้ดำเนินคดีกับคนร้ายตามกฎหมายต่อไป
เมื่อทราบเหตุเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนฯ จึงได้ลงพื้นที่สอบถามผู้เสียหาและเก็บข้อมูลจากกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ จนทราบว่ากล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ ได้บันทึกภาพคนร้ายไว้ได้ เจ้าหน้าฝ่ายสืบสวนฯ จึงได้สืบสวนติดตามคนร้ายเรื่อยมาโดยไล่ติดตามตามกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายขับหลบหนีจนกระทั่งทราบว่าคนร้ายได้หลบหนีมาที่บริเวณสถานที่จับกุม จึงได้ลงพื้นที่หาข่าวคนร้ายคนดังกล่าว
จนต่อมาวันที่ 17 กันายายน 2565 ได้แจ้งจากผู้เสียหายอีกรายว่า เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2565 เวลาประมาณ 11.30 น. ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีน้ำเงินขาว ทะเบียน 724 ไม่ทราบหมวดจังหวัด ซึ่งเป็นรถที่ตนซื้อต่อมือสองมา ได้ไปจอดไว้หลังร้านอาหารตามสั่งตรงข้ามธนาคารออมสิน ถนนเชิดวุฒากาศ แขวงดอนเมือง ต่อมาเวลาประมาณ 20.30 น. ได้กลับมาไม่พบรถจักรยานยนต์จึงมาแจ้งความร้องทุกข์เพื่อให้ดำเนินคดีกับคนร้ายตามกฎหมายต่อไป
เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนฯ ทราบเหตุจึงได้ลงพื้นที่สอบถามผู้เสียหาย และเก็บข้อมูลจากกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ จนกระทั่งกล้องวงจรปิดของสำนักการจราจรและขนส่งกรุงเทพมหานครและสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้บันทึกภาพผู้ต้องหาไว้ได้

โดยคนร้ายมีรูปพรรณคล้ายกับคนที่เคยก่อเหตุครั้งก่อน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนที่ได้ลงพื้นที่หาข่าวคนร้ายและเฝ้าซุ่มอยู่ที่บริเวณสถานที่จับกุมจน พบนายอัครพงษ์ หรือแจ็ค ซึ่งมีลักษณะรูปพรรณสัณฐานตรงกันกับบุคคลที่มาลักทรัพย์รถจักรยานยนต์เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2565 ที่จอดไว้ที่ใต้สถานีรถไฟฟ้าตลาดใหม่ดอนเมือง เดินมาที่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ
สีน้ำเงินขาว ทะเบียน สษต 724 กรุงเทพฯ  เพื่อที่จะหยิบเอาของและใช้กุญแจไขรถรถจักรยานยนต์ คันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเข้าตรวจสอบและตรวจค้น ผลการตรวจสอบและตรวจค้น ปรากฏว่าเป็นรถรถจักรยานยนต์ คันที่ได้แจ้งหายไว้ที่สน.ดอนเมือง เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2565 เวลาประมาณ 21.08 น. สอบถามนายอัครพงษ์ หรือแจ็ค ฯ ให้การรับด้วยความสมัครใจว่าตนได้ลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ มาจริง โดยเวลาประมาณ 19.00 น. ตนได้ขับขี่รถ จักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟี่โน่ สีเขียวขาว(คันก่อเหตุ) ไปจอดไว้ที่บริเวณลานจอดรถสถานีรถไฟดอนเมือง แล้วเดินมาที่บริเวณหลังร้านอาหารตามสั่งตรงข้ามธนาคารออมสิน ถนนเชิดวุฒากาศ แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ พบรถ จักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีน้ำเงินขาว ทะเบียน สษต 724 กรุงเทพฯ จอดอยู่จึงได้ทำการ ลักทรัพย์เอารถ จักรยานยนต์ คันดังกล่าวแล้วหลบหนีไปจอดและใช้สายยูล็อคไว้ที่บริเวณลานจอดรถตลาดโต้รุ่งสะพานฟ้าซอยรังสิต-นครนายก 8 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี จากนั้นได้นั่งแท็กซี่กลับมาเอารถจักรยานยนต์ คันที่จอดไว้ที่ลานจอดรถสถานีรถไฟดอนเมือง เมื่อขับขี่รถ จักรยานยนต์
(คันก่อเหตุ) กลับไปที่ลานจอดรถตลาดโต้รุ่งสะพานฟ้า ซอยรังสิต-นครนายก 8 ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี จึงได้นำรถมาจอดไว้ที่ลานจอดรถของตลาด เนื่องจากผู้ต้องหาไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งเพียงแต่เช่าห้องรายวัน
อยู่หลับนอน จึงได้ทำการตรวจยึดของกลางดังกล่าว พร้อมนำนายอัครพงษ์ฯ ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

โดยต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนฯ ได้สืบทราบหาพยานเพิ่มเติมขยายผลการจับกุมตัว นายอัครพงษ์ หรือแจ็คฯ จนทราบว่า นายอัครพงษ์ หรือแจ็คฯ ได้ก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ในพื้นที่ สน.ดอนเมือง และพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์ของผู้ต้องหา พบภาพถ่ายรถจักรยานยนต์ จำนวนหลายคันที่ก่อเหตุลักทรัพย์มาและมีการถ่ายภาพเพื่อส่งเสนอขายผ่านทางแอปพลิเคชั่นไลน์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ติดตามสืบสวนขยายผลทำการตรวจยึดของกลางปรากฏตามรายละเอียด ดังนี้
1.รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีน้ำเงินขาว หมายเลขทะเบียน สษต 724 กทม. ตรวจยึดจาก
นายอัครพงษ์ หรือแจ็ค  บริเวณ ลาดจอดรถหลังตลาดโต้รุ่ง สะพานฟ้า ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี  แจ้งหายที่ สน.ดอนเมือง เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2565
2. รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีฟ้า-ขาว หมายเลขทะเบียน ษคล 841 กทม. ตรวจยึดจาก
นายอัครพงษ์ หรือแจ็ค อินสุริยา (ผู้ต้องหา) บริเวณ ลาดจอดรถหลังตลาดโต้รุ่ง สะพานฟ้า ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี  แจ้งหายที่ สภ.คูคต เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2565
3. รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีขาว-ดำ หมายเลขทะเบียน 1 กง 2220 ปทุมธานี ตรวจยึดได้บริเวณ หน้าร้านมีดี มาร์ท ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี แจ้งหายที่ สภ.ประตูน้ำจุฬา เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2565
4. รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีขาว-ฟ้า หมายเลขทะเบียน 1 กฌ 9016 สุพรรณบุรี ตรวจยึดได้บริเวณ หน้าบ้านเลขที่ 84 ซอยรังสิต-นครนายก14 ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี
5.รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีขาว-เหลือง หมายเลขทะเบียน รคน 446 กทม. ตรวจยึดได้บริเวณ หน้าหมู่บ้านแหวนยอดสาม ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จัหวัดปทุมธานี แจ้งหายที่ สน.ดอนเมือง เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2565
6.รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีขาว-ฟ้า  หมายเลขทะเบียน 7กล 2774 กทม. ตรวจยึดได้บริเวณ หน้าร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ ช่างเค ซอยรังสิต-นครนายก 10 ตำบล ประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี แจ้งหายที่ สภ.คูคต เมื่อวันที่ 30 กรกฏาคม 2565

โดยจากการตรวจสอบประวัติของ นายอัครพงษ์ หรือแจ็ค พร้อมกับการรับสารภาพเพิ่มเติมว่าตนเคยก่อเหตุในหลายพื้นที่มาแล้ว โดยเคยก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ มาแล้วไม่ต่ำกว่า ๒๖ คัน โดยวิธีการลัก จะใช้กุญแจผี ที่ใช้ได้กับเฉพาะรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ และมีโอ โดยส่วนมากจะเลือกก่อเหตุ ในเวลากลางคืน โดยตัวของ นายอัครพงษ์ฯ ผู้ต้องหา มีประวัติเคยก่อเหตุอาชญากรรมมาแล้วดังนี้
-เคยก่อเหตุในพื้นที่ สภ.คลองหลวง ในข้อหา “พรบ.ความผิดเกี่ยวกับรับราชการทหาร” เป็นคดีอาญาที่ ๓๙๗๓/๒๕๕๑  เมื่อวันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๕๑
-เคยก่อเหตุในพื้นที่ สน.บางซื่อ ในข้อหา “ฉ้อโกงทรัพย์ฯ” เป็นคดีอาญาที่ ๒๕๐๓/๒๕๕๕ เมื่อวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๕๕
-เคยก่อเหตุในพื้นที่ สภ.ประตูน้ำจุฬา ในข้อหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนฯ” เป็นคดีอาญาที่ ๒๕๐/๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖
-เคยก่อเหตุในพื้นที่ สน.สายไหม ในข้อหา “ฉ้อโกงทรัพย์ฯ” เป็นคดีอาญาที่ ๑๔๓,๑๔๔และ๑๔๕/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐
-เคยก่อเหตุในพื้นที่ สภ.คูคต ในข้อหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนฯ” เป็นคดีอาญาที่ ๔๖๑/๒๕๖๐  เมื่อวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๖๐
-เคยก่อเหตุในพื้นที่ สน.สายไหม ในข้อหา “ลักทรัพย์ฯ” เป็นคดีอาญาที่ ๕๔๖/๒๕๖๕  เมื่อวันที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๖๕ พร้อมกับมีหมายจับศาลอาญา ที่ ๑๖๑๐/๒๕๖๕ ลงวันที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๖๕ ในข้อหา“ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนฯ” ของ สน.สายไหม บก.น.๒ บช.น.

คดีที่ 2 ฝ่ายสืบสวน สน.ลุมพินี จับกุมคนร้ายแก๊งเวียดนามล้วงกระเป๋านักท่องเที่ยวย่านราชประสงค์
กรณีเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2565 เวลาประมาณ 11.50 น. ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์รับแจ้งเหตุโครงการ SMART SAFETY ZONE 4.0 ผ่านระบบ SOS ว่าขณะที่ Mrs.HOLAI FUNG ELISIE (นางโฮ หลาย ฟัง เอลซี) สัญชาติสิงคโปร์ และครอบครัวอยู่ที่ศาลพระพรหมเอราวัณ ได้มีคนร้ายจำนวน 3 คน มาล้วงกระเป๋าผู้เสียหายได้ทรัพย์สินเป็นเงินสดธนบัตรดอลล่าร์สิงคโปร์ จำนวน 1,700 ดอลล่าร์ (คิดเป็นเงินไทยประมาณ 44,455 บาท) และบัตรเครดิต จำนวน 3 ใบ จากนั้นได้หลบหนีไป และคนร้ายมีการพยายามนำบัตรเครดิตของผู้เสียหายไปรูดใช้ซื้อสินค้า เหตุเกิดบริเวณศาลพระพรหมเอราวัณ แยกราชประสงค์ ถนนพระราม 1 แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร

เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนสถานีตำรวจนครบาลลุมพินีได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ทราบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2565 เวลาประมาณ 11.50 น. บริเวณทางเดินเท้า

ศาลพระพรหมเอราวัณ แยกราชประสงค์ ถนนพระราม 1 แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร จึงได้ออกสืบสวนหาข่าวและตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตามโครงการ Smart Safety Zone 4.0 ประกอบกับกล้องวงจรปิดของกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานเอกชนตามเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนี จนสามารถสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุได้จำนวน 2 คน ได้แก่ Mrs.Do THI KIM HOA (นางโด ทิ คิม โฮ) พร้อมของกลางชุดที่สวมใส่ในวันก่อเหตุและธนบัตรดอลล่าร์สหรัฐและธนบัตรไทยอีกจำนวนหนึ่งที่คาดว่าน่าจะได้มาจากการะทำความผิด ได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งภายในซอยอิทามระ 49 และได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.จันทบุรี ร่วมจับกุม Mr.NGUY VAN CONG (นายงุย แวน คอง) ได้ที่จุดผ่านแดนบ้านแหลม อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี ขณะกำลังหลบหนีออกนอกประเทศ  ส่วนผู้ร่วมกระทำความผิดอีกคนกำลังติดตามจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป

พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันลักทรัพย์ , ร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนและเป็นการร่วมกันกระทำผิดเกี่ยวกับบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิใช้ เพื่อประโยชน์ในการชำระสินค้า ค่าบริการหรือหนี้อื่นแทนการชำระด้วยเงินสด หรือใช้เบิกถอนเงินสด”

เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งสองยังให้การปฏิเสธ และไม่ขอให้การใดๆในชั้นสอบสวน ซึ่งเป็นสิทธิของผู้ต้องหา โดยพนักงานสอบสวนจะได้นำตัวผู้ต้องหาฝากขังยังศาลอาญากรุงเทพใต้และรวบรวมพยานหลักฐานสำนวนการสอบสวนส่งพนักงานอัยการต่อไป

พล.ต.ท.สำราญ  นวลมา  ผบช.น. ได้เน้นย้ำเพื่อให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนว่า จะมุ่งเน้น
การป้องกันอาชญากรรม ให้กับพี่น้องประชาชน และเมื่อเกิดเหตุแล้วจะเร่งทำการ สืบสวน ติดตามจับกุม คนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วทุกคดีและจะดำเนินการกวาดล้างอาชญากรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครมีความปลอดภัยมากที่สุด

บช.น. ขอเรียนพี่น้องประชาชนว่า ถึงแม้ว่าช่วงนี้จะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19
แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและยาเสพติดอย่างเคร่งครัด พบเห็นหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิด โปรดแจ้งสายด่วน ๑๙๑ หรือสถานีตำรวจท้องที่



Design a site like this with WordPress.com
Get started