พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เปิดอบรมเสริมความรู้คดีค้ามนุษย์กับพนักงานสอบสวนและทีมสหวิชาชีพ


วันนี้ 15 ส.ค.65 เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร.พร้อมด้วย พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ รอง ผบช.ภ.8 , พล.ต.ต.ศุภเศรษฐ์ โชคชัย รอง ผบช.ทท. พนักงานสอบสวนและทีมสหวิชาชีพ ร่วมพิธีเปิดการโครงการอบรมสัมมนา พนักงานสอบสวนและทีมงานสหวิชาชีพจากกระทรวงแรงงาน กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการคุ้มครองแรงงานแก่คนต่างด้าวและป้องกันการละเมิดสิทธิตามกฎหมายแรงงาน ซึ่งนำไปสู่ปัญหาการค้ามนุษย์ รุ่นที่ 2 ระยะที่ 2 ณ โรงแรมเครปพันวา จ.ภูเก็ต
การอบรมสัมมนาในครั้งนี้เป็นนโยบายของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ที่ให้ความสำคัญในการป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เพื่อให้การป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของประเทศไทย อยู่ในระดับมาตรฐานสากล หลังจากประเทศไทยได้รับการปรับระดับในรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ (TIP) ประจำปี 2022 เมื่อวันที่ 19 ก.ค.65 จากระดับ “เทียร์ 2 ที่ต้องถูกจับตามอง (Tier 2 Watch List) ขึ้นมาเป็น เทียร์ 2 (Tier 2) ส่งผลให้เศรษฐกิจในภาคประมงและแรงงานของไทยเป็นไปอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ การอบรมสัมนาครั้งนี้จะพัฒนาศักยภาพของพนักงานสอบสวน และทีมงานสหวิชาชีพ ให้มีความรู้ทันการเปลี่ยนแปลงของสังคมและลักษณะของการค้ามนุษย์ในปัจจุบัน มีความเข้าใจในตัวกฎหมายระเบียบ และคำสั่งที่เกี่ยวข้อง จะทำให้การปรับใช้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งยังช่วยให้การทำงานร่วมกันระหว่างพนักงานสอบสวน และทีมสหวิชาชีพ ซึ่งเป็นการบูรณาการร่วมกันของหลายหน่วยงาน เช่น นักสังคมสงเคราะห์ นักจิตวิทยา เป็นต้น ตลอดจนมีทัศนคติที่ดี มีความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ให้หมดสิ้นไป
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า หลังจากประเทศไทยได้รับการปรับระดับในรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ (TIP) ประจำปี จากระดับ “เทียร์ 2 ที่ต้องถูกจับตามอง (Tier 2 Watch List) ขึ้นมาเป็น เทียร์ 2 (Tier 2) ซึ่งได้แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ของไทย แต่เจ้าหน้าที่ยังขาดความรู้ความเข้าใจในการดำเนินคดีเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ ทางศพดส.ตร. จึงได้จัดให้มีการฝึกอบรมสัมมนา ถอดบทเรียนจากการดำเนินคดีค้ามนุษย์ที่ผ่านมา เพื่อแก้ไขข้อบกพร่อง ต่าง ๆ ในการดำเนินคดีค้ามนุษย์ โดยโครงการฝึกอบรมนี้ จะมีการอบรมทั้งสิ้น 8 รุ่น (ระยะที่ 1 (ก.พ.-พ.ค.65) จำนวน 5 รุ่น (ที่จังหวัดขอนแก่น, เชียงใหม่, เพชรบุรี, ตรัง และกรุงเทพมหานคร) และระยะที่ 2 จำนวน 3 รุ่น (ที่พัทยา จังหวัดชลบุรี, ภูเก็ต และอุดรธานี ) รวมผู้เข้าการอบรมทั้งสิ้น 960 คน เพื่อให้พนักงานสอบสวน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีความรู้ความเข้าใจมากขึ้น ส่งผลให้การดำเนินคดีค้ามนุษย์มีประสิทธิภาพ สามารถปรับข้อเท็จจริงให้เข้ากับตัวบทกฎหมายได้อย่างสอดคล้อง

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ผู้ช่วยผบ.ตร.ฐานะศิษย์เก่ามหาวชิราวุธ เป็นประธานพิธีเปิด การแข่งขัน”125 ปี มหาวชิราวุธเดิน-วิ่งการกุศล ครั้งที่ 2”

เมื่อเวลา 05.00 น.วันที่ 14 สิงหาคม 2565 บริเวณ โรงเรียนมหาวชิราวุธ จังหวัดสงขลา พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผบ.ตร.ฐานะศิษย์เก่ามหาวชิราวุธ จังหวัดสงขลา เป็นประธานพิธีเปิด การแข่งขัน”125 ปี มหาวชิราวุธเดิน-วิ่งการกุศล ครั้งที่ 2” ซึ่งจัดโดยสมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนมหาวชิราวุธ วัตถุประสงค์ เพื่อรำลึกและสมทบทุนสร้างรูปปั้นเจ้าพระยายมราช(ปั้น สุขุม)ผู้ก่อตั้งโรงเรียนมหาวชิราวุธ จังหวัดสงขลา ,เพื่อสนับสนุนงบประมาณให้กับโรงเรียนมหาวชิราวุธ จังหวัดสงขลา ,เพื่อสนับสนุนสื่อการเรียนการสอน การพัฒนาศักยภาพของนักเรียนและบุคลากรทางการศึกษาของโรงเรียน และ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้นักวิ่ง ผู้ปกครอง นักเรียน และศิษย์เก่าของโรงเรียนมหาวชิราวุธ จังหวัดสงขลา ตลอดจนประชาชนผู้รักสุขภาพ ได้ออกกำลังกาย และมีสุขภาพที่ดี

ประชาธิปัตย์คึกคัก“จุรินทร์-เฉลิมชัย”เปิดตัว 30 ว่าที่ผู้สมัครส.ส.เลือดใหม่ ทวงปักษ์ใต้คืน

14 สิงหาคม 2565
เวลา 13.30 น.
ที่จังหวัดสงขลา

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยคณะ “จุรินทร์ ออนทัวร์” ร่วมงาน “รวมพลัง 30 เลือดใหม่ ทวงปักษ์ใต้คืน” ที่ สำนักงาน ส.ส. เดชอิศม์ ขาวทอง อ.รัตภูมิ จ.สงขลา โดยมี ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก อาทิ นายภาณุ ศรีบุศยกรณ์ นายประกอบ รัตนพันธ์ นายชัยชนะ เดชเดโช

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค ได้ขึ้นเวทีพร้อมกับระบุถึงแนวทางและอนาคตของพรรคประชาธิปัตย์ว่า ตนมารับตำแหน่งเลขาธิการพรรค รอบนี้เป็นครั้งที่ 2 ประชาธิปัตย์เป็นเหมือนบ้านใหญ่หลังหนึ่ง มีประตูเปิดอยู่ตลอดเวลา ให้ใครเข้ามาในบ้านนี้ก็ได้ ไม่ว่าจะเดือดเนื้อร้อนใจ จะสุขสบาย จะมีเงิน ไม่มีเงิน บ้านประชาธิปัตย์เปิดประตูรับเสมอ และคงเคยได้ยินว่าประชาธิปัตย์เป็นเสมือนโรงเรียนการเมืองที่นักการเมืองเกือบทั้งประเทศไทย ถ้าไม่ผ่านบ้านหลังนี้ถือว่าไม่ผ่านหลักสูตร

วันนี้การเมืองมีความเข้มข้น และน่าจะเป็นยุคที่มีพรรคการเมืองมากที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศไทย ทุกคนมุ่งหวังไปสู่ชัยชนะในการเลือกตั้ง ดังนั้นจะเห็นปรากฎการณ์หลายอย่างเกิดขึ้นกับนักการเมือง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแจกกล้วย เรื่องไดโว่ดูดตัวนักการเมือง นโยบายขายฝันจะทำได้หรือไม่ ไม่รู้ แต่จะให้ประชาชนเลือกเขาก่อน แต่วันนี้ ตนในฐานะที่เป็นเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ขอยืนยันพี่น้องภาคใต้ได้รับทราบว่า ประชาธิปัตย์ยังยึดมั่นในหลักการ และอุดมการณ์เหมือนเดิม แต่วิธีทำงานเราต้องเปลี่ยน หมดยุคเสาไฟฟ้าลงก็ได้แล้ว วันนี้คนประชาธิปัตย์ที่จะเป็นตัวแทนประชาธิปัตย์ทุกคนที่จะลงรับสมัครเลือกตั้ง ต้องเดินเข้าหาพี่น้องประชาชน ต้องเอาพี่น้องประชาชนเป็นหลัก

“ถ้าผู้สมัครของพรรคคนใดก็แล้วแต่ไม่ได้ทำอย่างนี้ คิดว่าขอเพียงได้ลงประชาธิปัตย์ก็ได้ ในวันที่ผมเป็นเลขาธิการพรรค จะไม่มีโอกาสได้เป็นผู้สมัครของพรรคเลย เพราะฉะนั้นวันนี้ผู้สมัครทุกท่านที่อยู่ตรงนี้ ผมมั่นใจได้ว่าเป็นคนที่พรรคเลือก และเดินเข้าหาพี่น้องประชาชน หลายท่านคงได้ยินข่าวเรื่องเลือดไหล หัวหน้าผมก็บอกแล้วบางทีมันก็ไม่ใช่เลือด บางทีมันก็เป็นหนอง ประชาธิปัตย์เป็นบ้านหลังหนึ่ง แต่วันหนึ่งเมื่อเขาคิดว่าเขาสบายใจ เมื่อเขาคิดว่ามีบ้านอื่นที่ดีกว่า หรูหรากว่า เขาก็เดินออกจากบ้าน ผมถามทุกท่านนิดนึง บ้านนี้ผิดตรงไหน อย่างน้อยที่สุดต้องไปถามคนที่เดินออกไปว่า ครั้งหนึ่งบ้านหลังนี้เคยให้ที่ซุกหัวนอน ได้สำนึกในบุญคุณกันบ้างมั้ย ทุกครั้งที่สมาชิกพรรคออกจากพรรค ผมเป็นแม่บ้านพรรค ผมเสียใจมากทุกครั้ง ไม่มีใครใดเลยที่ผมดีใจที่สมาชิกออก ถึงแม้บางครั้งสมาชิกในพรรคก็รู้อยู่แล้วก็ไม่มีประโยชน์ ก็ไม่เคยละเลย ยังมีความเสียใจอยู่ตลอด เพราะความผูกพัน การได้เข้ามาอยู่ร่วมกันในพรรคเดียวกัน มันคือความผูกพันมันมากกว่าผลประโยชน์หรือการเมือง วันนี้สิ่งที่ประชาธิปัตย์กำลังจะเดินไปข้างหน้าคือการสร้างความมีเอกภาพภายในพรรค การสร้างจุดยึดโยงยึดเหนี่ยวกับพี่น้องประชาชน การทำผลงานให้พี่น้องประชาชนประจักษ์ และได้รับประโยชน์จากการทำงาน จากนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ นี่คือสิ่งที่ประชาธิปัตย์กำลังดำเนินการอยู่”

เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า วันนี้การเมืองกำลังจะก้าวเข้าสู่สนามการเลือกตั้ง มันก็คือสนามรบกันย่อยๆ เพียงแต่เป็นการรบเพื่อเอาชนะใจพี่น้องประชาชน ความเป็นเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์คือแม่บ้าน คือคนที่ต้องรับผิดชอบบ้านหลังนี้ จะผุ จะไม่สะอาด หลังคารั่ว หน้าต่างพัง เลขาธิการพรรคมีหน้าที่ซ่อม ทำให้บ้านหลังนี้สมบูรณ์ที่สุด และตนยังมีความรู้สึกอยู่ตลอดเวลาว่า 14 จังหวัดภาคใต้ บวก 1 ประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดบ้านของผม คือบ้านของประชาธิปัตย์ 58 คน ใน 14 จังหวัดภาคใต้ 3 คนในจังหวัดประจวบฯ รวมทั้งหมด 61 เขต 61 คน ตนขอกราบฝากไปถึงพี่น้องภาคใต้ทุกกลุ่ม 61 เขต ตน “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” ในฐานะเลขาธิการพรรค สู้ทุกเขต

“ผมไม่บอกว่าจะได้กี่เขต แต่วันที่พรรคมีวิกฤติ ผมประกาศไว้ชัดเจนแล้ว รอบนี้ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ได้ต่ำกว่า 52 ที่ ผมเลิกเล่นการเมืองทั้งชีวิต เลิกเล่นนะ ไม่ใช่หยุดเล่น เลิกคือหันหลังเดินออกไปเลย แต่ผมยังมั่นใจว่านี่คือสถาบันการเมือง ในท่ามกลางวิกฤติทุกอย่างวุ่นวาย พรรคประชาธิปัตย์ยังยืนเป็นหลักให้ประเทศได้ เพราะฉะนั้นจำนวน ส.ส. อาจจะมีผล แต่ผมเชื่อว่าพี่น้องประชาชนวันนี้ตัดสินใจได้ว่าจะเลือกพรรคไหน และให้ผู้สมัครของผมทั้งหมด และให้พี่น้องชาวปักษ์ใต้ทั้งหมดได้สบายใจว่า วันนี้ที่ผมบอกคือหลักการ อุดมการณ์ ไม่เปลี่ยน แต่วิธีการ กับการทำงาน ประชาธิปัตย์เปลี่ยนแน่นอน เปลี่ยนเพื่อพี่น้องประชาชน” เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์กล่าว

“ถ้าผมประกาศว่าสู้แล้ว คู่ต่อสู้ ขี้แตกแน่นอน แล้วจะสู้ตั้งแต่เกียร์แรกจนเกียร์สุดท้าย ตั้งแต่วันนี้ยันวันลงบัตรคะแนน ขอให้ทุกท่านพี่น้องทุกคนให้โอกาสพรรคประชาธิปัตย์ กำลังใจคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ถ้าพวกเรามีกำลังใจ ทุกคนพร้อมจะสู้ จะเดินไปพร้อมๆ กับทุกท่าน เกือบ 4 ปีที่ผ่านมา เราได้ทำให้กับพี่น้องประชาชน เราทำเงินเข้ากระเป๋าพี่น้องประชาชนมาตลอดระยะเวลาเกือบ 4 ปี แต่เรามีมารยาทพอที่จะไม่เอาผลงานนั้นมาหาเสียงในระหว่างเราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล อย่างน้อยที่สุดประชาธิปัตย์ก็ยังมีคุณสมบัติผู้ดีอยู่บ้าง ไม่ถึงขนาดอะไรก็คือผลประโยชน์ทั้งหมด”

ทั้งนี้นายเฉลิมชัย ได้ขอโอกาสพี่น้องชาวใต้ทั้งหมด และขอโอกาสพี่น้องสงขลาว่าเลือกตั้งรอบนี้ขอจังหวัดสงขลายกจังหวัด และได้รับเสียงขานรับ เสียงตบมือจากสมาชิกประชาธิปัตย์ รวมถึงพี่น้องประชาชนที่มาร่วมงานนับหมื่น ซึ่งเสมือนเป็นดั่งคำมั่นสัญญาว่าการเลือกตั้งรอบนี้ชาวสงขลาจะเลือกประชาธิปัตย์ยกจังหวัด

หลังจากนั้นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ขึ้นเวที ท่ามกลางเสียงตะโกน “หัวหน้าสู้ๆ” ดังกระหึ่มตลอดเวลา โดยนายจุรินทร์กล่าวว่า เสียงดังเหมือนฟ้าร้องเลย วันนี้ถือเป็นวันพิเศษสำหรับประวัติศาสตร์ประชาธิปัตย์ คือวันที่ประชาธิปัตย์ยกทัพใหญ่มาประกาศทวงพื้นที่ปักษ์ใต้คืน ประชาธิปัตย์มีหัวหน้าพรรคมาแล้ว 8 คน เป็นคนปักษ์ใต้ 3 คน คือนายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน และตน ซึ่งเป็นผู้แทนพังงา 6 สมัย ได้รับการสนับสนุนจากคนพังงาเสมอมา มาเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ 5 สมัย ถึงวันนี้คนปักษ์ใต้อุ้มชูตนเป็นผู้แทนมาแล้ว 11 สมัย

“ผมถึงบอกกับพี่น้องที่เคารพรักทั้งหลายว่า ประชาธิปัตย์ผูกพันกับคนปักษ์ใต้บ้านเรา และประชาธิปัตย์มีวันนี้อยู่มาได้ 76 ปี และจะอยู่ต่อไปตราบชั่วฟ้าดินสลาย เพราะคนปักษ์ใต้บ้านเราอุ้มชู ประชาธิปัตย์มีนายกฯ มาแล้ว 4 คน นายควง อภัยวงศ์ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช นายชวน หลีกภัย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลมาหลายครั้ง แต่ก็เป็นฝ่ายค้านมาหลายรอบ เรามีทั้งรุ่งเรือง มีทั้งตกต่ำ ยามรุ่งเรือง เราก็ภาคภูมิใจ และเราก็ไม่ลืม เราทำหน้าที่ของเราสุดความสามารถ สร้างความดี สร้างผลงานปรากฎให้บ้านเมืองมาตลอดระยะเวลายาวนาน 76 ปีเต็ม แต่ยามที่เราตกต่ำเราก็เป็นฝ่ายค้าน ทำหน้าที่ของเราสมศักดิ์ศรีในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล พี่น้องอาจจะลงโทษประชาธิปัตย์บ้าง บางยุคบางสมัย แต่เราก็ไม่เคยท้อแท้ ไม่เคยท้อถอย ไม่เคยคิดทอดทิ้งพี่น้องประชาชน ยังคิดอยู่เสมอว่า สุดท้ายที่พึ่งของประชาธิปัตย์คือพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน โดยเฉพาะคนปักษ์ใต้บ้านเรา” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว

และยังพูดต่ออีกว่า วันนี้พวกตนกลับบ้าน กลับมาพบพี่น้อง กลับมาหาพ่อ มาหาแม่ กลับมาหาปู่ มาหาย่า ซึ่งเมื่อกล่าวถึงตรงนี้ นายจุรินทร์ เงียบงันไปครู่ใหญ่ จนพี่น้องประชาชนรับรู้ถึงความสะเทือนใจพร้อมกับมีเสียงตบมือดังกึกก้องเพื่อเป็นกำลังใจให้กับนายจุรินทร์ และพรรคประชาธิปัตย์ จากนั้น นายจุรินทร์ ได้กล่าวต่อด้วยเสียงสั่นเครือว่า มาครั้งนี้มาหาพี่ มาหาน้อง มาหาเพื่อน มาหาปักษ์ใต้ทุกคนที่เป็นหัวใจของเรา ชาวประชาธิปัตย์

ประชาธิปัตย์ เราเคยตกต่ำ ปี 22 เราได้ผู้แทน 15 แต่หลังจากนั้น ปี 54 เราได้มาเป็น 50 เที่ยวที่แล้ว ประชาธิปัตย์ลงมาเหลือ 22 แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเลือกตั้งปีหน้าประชาธิปัตย์จะกลับมา 35-40 ไม่ได้ใช่มั้ย วันนี้เราถึงมารวมพลังกัน ผนึก 30 รุ่นใหม่ เลือดใหม่ ประชาธิปัตย์ทวงปักษ์ใต้คืน และตนมั่นใจว่าพี่น้องไม่ทิ้งเรา เลือกตั้งซ่อม 3 ครั้งที่ผ่านมาล่าสุด 2 ครั้งซ่อมที่ปักษ์ใต้บ้านเรา เราชนะรวดทั้ง 2 ครั้ง และเลยไปถึงราชบุรีด้วย

วันนี้ตนจึงขอถือโอกาสประกาศชื่อเลือดใหม่ที่ไหลเข้าประชาธิปัตย์ และคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาร่วมอุดมกาณ์กับพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งหมด 30 คน เพราะเที่ยวหน้าผู้แทนปักษ์ใต้มี 58 เขต เป็น ส.ส. ปัจจุบันอยู่แล้ว 21 คน เป็นอดีต ส.ส.ที่ยืนหยัดอยู่กับพรรคอีก 7 คน และประชาธิปัตย์มีเลือดใหม่อีก 30 คนที่พร้อมรวมพลัง ร่วมอุดมการณ์กับประชาธิปัตย์

ทั้งนี้ในช่วงสุดท้าย นายจุรินทร์ กล่าวขอบคุณพี่น้องทุกคนที่สละเวลามาร่วมงาน และขอให้ช่วยกันสนับสนุนพรรคการเมืองของพี่น้องเองที่ชื่อว่า ประชาธิปัตย์ ให้สามารถเดินหน้าทางการเมืองเพื่อประโยชน์ของคนปักษ์ใต้และพี่น้องคนไทยทั้งประเทศต่อไป

กิจกรรมร่วมกันปลูกป่าเทิดพระเกียรติถวายแก่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ

น ส พ เบาะแสอาชญากรรม ศูนย์ข่าวมุกดาหาร
กิจกรรมร่วมกันปลูกป่าเทิดพระเกียรติถวายแก่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชินีพันปีหลวง เนื่องในวันสำคัญของชาติ 12 สิงหาคมมหาราชินี

เมื่อวันนี้​ 11​ สิงหาคม 2565
เวลา 09.30.น
นายบุญนาม อินทะปัญญา นายกองค์การบริหารส่วนตำบล.นาสะเม็ง​ ข้าราชการ คณะครู​ นักเรียนโรงเรียน​บ้านนาสะโน และชาวบ้านนาสะโนได้ร่วมกันจัดกิจกรรมปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ​เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์​ พระบรมราชินีนาถ​ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง​ ที่บริเวณบ่อเลี้ยงปลา​โรงเรียนบ้านนาสะโน หมู่ที่ 8 ตำบลนาสะเม็ง
อำเภอดอนตาล
จังหวัดมุกดาหาร สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของพระองค์ท่าน จึงได้ร่วมแรงร่วมใจ การปลูก ปลูกต้นไม้ทดแทนผืนป่าที่เสื่อมโทรม บริเวณบ่อเลี้ยงปลาและบริเวณพื้นที่รอบโรงเรียน เพื่อให้มีความเขียวขจี เปรียบเสมือนน้ำพระราชฤทัย ที่ส่งเมตตาพสกนิกร ให้มีความร่มเย็นสืบต่อไป
ภาพ ข่าวโดย สุดารัตน์ คนไว
เหยี่ยวข่าวพญายม หน เบาะแสอาชญากรรม มห รายงาน

คณะกรรมการ สนพท. มีมติเป็นเอกฉันท์ ให้มีการประชุมใหญ่สามัญ วันที่ 17-19 มีนาคม 2566

นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล นายกสมาคมนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย ( สนพท.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา สนพท. ได้มีการประชุมคณะกรรมการบริหาร/ที่ปรึกษา ประจำเดือน มีนาคม-สิงหาคม 2565 ณ ห้องประชุมคเชนท์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม โดยการดำเนินการของนายสุวิทย์ พึ่งเกษม กรรมการฝ่าย จรรยาบรรณ สำหรับการประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมครั้งแรกของปี 2565 หลังจากว่างเว้นการประชุมประจำเดือน เพราะสถานการณ์ของ”โควิด 19 “
สาระที่สำคัญของการประชุมครั้งนี้ ที่ขอแจ้งให้ สมาชิก สนพท. ได้รับทราบคือเรื่องของการประชุมใหญ่ ประจำปี 2565 ที่ไม่สามารถประชุมได้ ทั้งที่ได้มีการกำหนดไว้แล้วในวันที่ 18-20 มีนาคม 2565 ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ แต่ต้องเลื่อนออกไป อย่างไม่มีกำหนด เพราะสถานการณ์ของ”โควิด 19 ” ที่ คณะกรรมการ และ สมาชิกส่วนใหญ่ มีมติให้เลื่อนการประชุมใหญ่สามัญฯ ออกไปก่อน จนกว่าสถานการณ์ของ”โควิด 19” จะมีการคลี่คลายจนมั่นใจได้ว่า ผู้เข้าร่วมประชุมจะมีความ ปลอดภัย เนื่องจากสมาชิกส่วนใหญ่ของ สนพท. ล้วนเป็นผู้สูงอายุ
ในการประชุมเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา คณะกรรมการ/ที่ปรึกษา ของ สนพท.ได้มีการพิจารณาในข้อบังคับของ สนพท. ซึ่งมีการเขียนกฎข้อบังคับไว้ชัดเจนว่า การประชุมใหญ่สามัญประจำปี จะต้องจัดขึ้นในเดือน มีนาคม ของทุกปีเท่านั้น ดังนั้นการที่จะจัดประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี ที่นอกเหนือจากข้อบังคับ อาจจะมีปัญหาให้ผู้ที่ไม่เห็นด้วยทำการคัดค้านและอาจจะทำให้การประชุมใหญ่ที่จัดขึ้นเป็น”โมฆะ ซึ่งจะเป็นการสร้างความยุ่งยาก และเป็นการเสียค่าใช้จ่ายโดยเปล่าประโยชน์และสร้างความเสียหาย เสียเวลาให้กับ สมาชิกที่เดินทางมาประชุมใหญ่ถึง 2 ครั้ง ในปลายปี 2565 และในเดือน มีนาคม 2566 รวมทั้งถ้ามีการประชุมใหญ่ในปลายปี 2565 ผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งเพื่อทำหน้าที่ บริหาร สมาคมฯชุดใหม่ ก็จะอยู่ในวาระไม่ถึง 2 ปี ดังนั้น คณะกรรมการบริหาร/ที่ปรึกษา สนพท. จึงมีมติให้มีการจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566 ในวันที่ 17-19 มีนาคม 2566 ส่วนสถานที่การประชุม อาจจะยังเป็นที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ หรือที่ จังหวัดอื่นๆ สมาคมฯ จะพิจารณาให้รอบคอบอีกครั้ง
สมาคมฯ ขอแจ้งให้ทราบว่าในปี 2565 แม้จะไม่มีการจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี แต่สมาคมฯ ได้มีการมอบเงิน “ทุนการศึกษา” ให้กับ บุตร-ธิดา ของ สมาชิก สนพท.ในปีการศึกษา 2565 ให้กับสมาชิกผู้ขอทุนการศึกษาทั้งหมด จำนวน 15 ราย เป็นเงิน 29,000 บาท เป็นที่เรียบร้อย ตั้งแต่ต้นเดือน พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา สำหรับเงินทุนการศึกษาที่ใช้ในการมอบทุนการศึกษาในครั้งนี้ สนพท. ไม่ได้ใช้เงินฝากในบัญชีของ สนพท. แต่อย่างใด แต่ได้รับการ สมทบทุนจาก คณะกรรมการบริหาร อาทิ คุณวิลาสินี เจริญสุข เลขาธิการ สนพท.10,000 บาท นายศุภผล จริงจิตร อุปนายก สนพท. 5,000 บาท และ บุคคลอื่นๆ ที่เห็นความสำคัญของ สมาคมฯ นอกจากนั้น สมาคมฯ ได้มอบเงิน สวัสดิการ และร่วมในงาน”สวดพระอภิธรรมศพ” ของ สมาชิก ใน จ.พิษณุโลก จำนวน 2 รายๆละ 5,000 บาท โดยมอบให้นายศุภผล จริงจิตร อุปนายก 2 และคณะกรรมการ เป็นตัวแทนของนายกสมาคมฯและคณะกรรมการ เพื่อร่วมไว้อาลัย แสดงความเสียใจกับครอบครัว และร่วมพิธี ฌาปนกิจ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งในการประชุมในครั้งนี้ คณะกรรมการยังมีการยืนไว้อาลัยให้กับ สมาชิกผู้ล่วงลับทุกท่าน
ขอเรียกให้ สมาชิกที่ เคารพ-รัก ทราบว่า ในฐานะที่คณะกรรมการบริหารชุดนี้เป็น”กรรมการรักษาการ” การดำเนินการใดๆจึงอยู่ในกรอบของข้อบังคับที่ดำเนินการได้เท่านั้น ในส่วนของ”การเงิน” จะดำเนินการเฉพาะเรื่อง “สวัสดิการ”ของ สมาชิก ซึ่งเป็นไปตาม”ข้อบังคับ”ขอให้ สมาชิกที่ เคารพ-รัก” ได้ เข้าใจ ตามที่ได้แจ้งให้ทราบมา ณ โอกาส นี้
อนึ่ง ในการประชุมครั้งนี้ นอกจากเป็นการประชุมประจำเดือนแล้ว ยังเป็นการแสดงความยินดีกับ นายสุวิทย์ พึ่งเกษม กรรมการบริหาร ฝ่าย จรรยาบรรณ ของ สมาคมฯ ที่ได้รับการเชิดชูเกียรติ ได้รับมอบเกียรติบัตร”สื่อสร้างสรรค์” จาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ โดยมี รองอธิการบดี เป็นตัวแทนของ อธิการบดี และ นายอำเภอพุทธมณฑล เป็นผู้มอบ และร่วมงาน”สังสรรค์” เพื่อแสดง”มุทิตาจิต” นายสุวิทย์ พึ่งเกษม จาก ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน และ หน่วยงานราชการและเอกชนของ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐมด้วย ซึ่งนับเป็นแบบอย่างที่ดีของ “สื่อมวลชน” ที่ได้สร้างคุณงานความดี และ เกียรติยศ ให้กับ สนพท. ด้วย

ีวางพานพุ่มถวายเครื่องสักการะ เนื่องในวันสำคัญของชาติ 12 สิงหาคมมหาราชินี

น ส พ เบาะแสอาชญากรรม ศูนย์ข่าวมุกดาหาร
อำเภอหว้านใหญ่
ีวางพานพุ่มถวายเครื่องสักการะ เนื่องในวันสำคัญของชาติ 12 สิงหาคมมหาราชินี
เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2565
เวลา 09.30.น
นายสมศักดิ์ บุญจันทร์
นายอำเภอหว้านใหญ่
เป็นประธานในกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาส มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565
พิธีถวายเครื่องราชสักการะ และวางพานพุ่ม และพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล

ทั้งนี้​ ก่อนเริ่มพิธีการ​ อำเภอ​หว้านใหญ่​ร่วมกับกองอำนวยการ​รักษา​ความมั่นคง​ภายใน​ภาค​ 2​ ส่วนแยก​ 1​ ชุดพัฒนา​สัมพันธ์​มวลชนท ี่​2122 และ​ชุดวิทยากรกระบวนการ​เสริมสร้าง​ผู้นำ​ชุมชนเข้มแข็ง​ที่​ 2105 เปิดสารคดี​เฉลิมพระเกียรติ​สมเด็จ​พระนางเจ้า​สิริกิติ์​ พระบรม​ราชินีนาถ​ พระบรม​ราช​ชนนี​พันปี​หลวง​ให้ผู้เข้าร่วมพิธีชม
เพื่อระลึกและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ​ที่ทรงปฏิบัติ​พระราชกรณียกิจ​นานัปการ

โดยมี​ นางนิษฐา​ บุญ​จันทร์​
แม่บ้านมหาดไทยอำเภอ​หว้านใหญ่​ หัวหน้าส่วนราชการ ทหาร​ ตำรวจ​ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้บริหารสถานศึกษา กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จิตอาสา และพี่น้องประชาชนอำเภอหว้านใหญ่เข้าร่วมกิจกรรม

ณ​ หอประชุม​มโน​ภิรมย์​ อ​ำ​เภอ​หว้านใหญ่​
จังหวัดมุกดาหาร ภาพ ข่าว
โดย อานุภาพ อาจหาญ
เหยี่ยวข่าวพญายม หน
เบาะแสอาชญากรรม มห รายงาน

กิจกรรมทำบุญตักบาตร เฉลิมพระชนมพรรษา12 สิงหา

น ส พ เบาะแสอาชญากรรม
ศูนย์ข่าวมุกดาหาร อำเภอดอนตาล จัดกิจกรรมทำบุญตักบาตร เฉลิมพระชนมพรรษา
12 สิงหา มหาราชินี เนื่องด้วยเป็นวันสำคัญของชาติไทย
เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2565
เวลา 07.30.น
นายชาคริต ชุมจันทร์ นายอำเภอดอนตาล พร้อมด้วยนางสุปรืาณี ชุมจันทร์ ภริยา ในช่วงเช้า เป็นประธานจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหามหาราชินี จัด พิธีทำบุญตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศล ในกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาส มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565
และเวลา 09.00 น. พิธีจัดถวายเครื่องราชสักการะและวางพานพุ่ม และพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล ในกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาส มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565
โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้บริหารสถานศึกษา คณะครู นักเรียน นักศึกษา กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และพ่อแม่พี่น้องประชาชนชาวอำเภอดอนตาล เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง
ณ หอประชุมสุธรรม บำเรอราช อำเภอดอนตาล
จังหวัดมุกดาหาร ภาพ ข่าว
โดย สุดารัตน์ คนไว
เหยี่ยวข่าวพญายม หน เบาะแสอาชญากรรม และทีมงาน
มห รายงาน

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ให้การต้อนรับ นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ พร้อมครอบครัว เข้าสักการะหลวงปู่ไต้ฮง พร้อมเยี่ยมชมหอประวัติมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และมอบเงินบริจาค จำนวน 20 ล้านบาท เพื่อร่วมสมทบทุนก่อสร้างศาลเจ้าไต้ฮงกง (สาทร)


.
วันนี้ (วันที่ 11 สิงหาคม 2565 เวลา 10.00 น.) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการ
พร้อมด้วย ดร.สุทัศน์ เตชะวิบูลย์ รองประธานกรรมการ นายสัก กอแสงเรือง รองประธานกรรมการ และนายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ ให้การต้อนรับ นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ พร้อมครอบครัว เข้าสักการะหลวงปู่ไต้ฮง พร้อมเยี่ยมชมหอประวัติมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และมอบเงินบริจาค ในนาม บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด คุณธนินท์ – คุณหญิงเทวี เจียรวนนท์ จำนวน 20,000,000 บาท (ยี่สิบล้านบาทถ้วน) เพื่อร่วมสมทบทุนสร้างศาลเจ้าไต้ฮงกง (สาทร) ณ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ
.
ศาลเจ้าไต้ฮงกง (สาทร) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มีมติก่อสร้างขึ้น เนื่องในโอกาสครบรอบการก่อตั้งมูลนิธิฯ ครบ 110 ปี เพื่อเป็นพุทธสถานที่ประดิษฐานองค์ไต้ฮงกงหยกขาวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย รวมถึงเป็นสถานที่สำหรับจัดกิจกรรมต่างๆ ของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ทั้งด้านกิจกรรมทางศาสนาและกิจกรรมเพื่อสังคม โดยสามารถรองรับสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาที่ต้องการกราบไหว้บูชาองค์ไต้ฮงกงซึ่งมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทุกปี เนื่องจากศาลเจ้าไต้ฮงกงในปัจจุบันมีเนื้อที่ค่อนข้างคับแคบ และไม่สามารถขยายพื้นที่เพื่อรองรับสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาและผู้ที่มาร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่มีจำนวนมากขึ้นเป็นประจำทุกปีได้ โดย “ศาลเจ้าไต้ฮงกง (สาทร)” ก่อสร้าง ณ บริเวณด้านหลังของสวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ถนนเจริญราษฎร์ แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพฯ
มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จึงขอเชิญชวนทุกท่าน ร่วมบุญก่อสร้าง ศาลเจ้าไต้ฮงกง (สาทร) ถนนเจริญราษฎร์ แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพมหานคร ตามแต่กำลังศรัทธา เพื่อร่วมกันจรรโลงศาลเจ้าไต้ฮงกงแห่งใหม่นี้ ให้เป็นพุทธสถานอีกแห่งหนึ่ง โดยท่านสามารถร่วมทำบุญได้ที่ บัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกรุงเทพ สาขาพลับพลาไชย เลขที่ 001-472515-4 ชื่อบัญชี มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง หรือ ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร 0 2225 0020 ต่อ 366
.
ข้อมูลเกี่ยวกับ ศาลเจ้าไต้ฮงกง มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย
พลังศรัทธาองค์หลวงปู่ไต้ฮงในประเทศไทย มีจุดเริ่มต้นจากเมื่อปี พ.ศ.2439 นายเบ๊ยุ่น ได้อัญเชิญรูปจำลองหลวงปู่ไต้ฮงจากอำเภอเตี้ยเอี้ย มายังประเทศไทย ประดิษฐานอยู่ที่ร้านกระจกย่านวัดเลียบ ผู้คนเมื่อทราบต่างก็พากันมาสักการบูชาที่จำนวนมาก จนต้องย้ายไปประดิษฐานที่ซอยดอนกุศล ถนนเจริญกรุง ช่วงนั้นเกิดโรคระบาดประชาชนต่างมากราบไหว้หลวงปู่ เพื่อช่วยให้คุ้มครองปลอดภัยและหายจากโรค ทำให้เกิดความศรัทธา บริจาคเงินช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากและจัดการเก็บศพอนาถาไปฝัง ต่อมาในปี 2452-2453 พระอนุวัตน์ราชนิยม (ฮง เตชะวณิช) ได้ร่วมกับพ่อค้าคหบดี รวม 12 ท่าน ได้เห็นความสำคัญและประโยชน์แห่งกุศลเจตนาของผู้เลื่อมใสศรัทธาหลวงปู่ไต้ฮง จึงจัดตั้งคณะเก็บศพไต้ฮงกงขึ้น พร้อมสร้างศาลเจ้าไต้ฮงกงขึ้นที่บริเวณถนนพลับพลาไชย เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ เพื่อประดิษฐานองค์หลวงปู่ไต้ฮง เมื่อศาลเจ้าไต้ฮงกงสร้างเสร็จสมบูรณ์ ได้อัญเชิญรูปจำลองของหลวงปู่ที่นายเบ๊ยุ่น คหบดีนำมาจากประเทศจีนมาประดิษฐานไว้ที่ศาลเจ้าไต้ฮงกงเป็นการถาวร โดยศาลเจ้าไต้ฮงกง มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ปัจจุบัน ตั้งอยู่ที่ 326 ถนนเจ้าคำรพ แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบฯ กรุงเทพฯ 10100
.
ติดตามข่าวสารกิจกรรม การช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ http://www.facebook.com/atpohtecktung
.

ป่อเต็กตึ๊ง ยึดมั่นอุดมการณ์ อยู่เคียงข้างทุกวิกฤต

.
“มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง110ปีความดีที่ยั่งยืน

แอปพลิเคชัน และ #สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง1418

ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ปิดคดียิงเจ๊หญิงในบ่อน จว.สุราษฎร์ธานี ย้ำให้เกิดความเป็นธรรมทุกฝ่าย

จากกรณีเมื่อวันที่ 6 มิ.ย.65 เวลาประมาณ 20.42 น. นางสาวจิตตภัส หรือเจ๊หญิง เชิดชูพงศ์เจริญ อายุ 43 ปี ที่อยู่ 77/20 ม.3 ต.หนองไทร อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ถูกยิงเสียชีวิต ภายในลานจอดรถ วันชัย คาร์แคร์ โดยพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ได้รวบรวมพยานหลักฐาน จนสามารถจับกุมผู้ต้องหากับพวกตามหมายจับ ศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้จำนวน 6 ราย ตามที่สื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียได้นำเสนอไปแล้วนั้น

จากการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด วันนี้ (11 ส.ค.65) เวลาประมาณ 15.00 น. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ต.ไพโรจน์ กุจิรพันธ์ ผบก.อธ. พร้อมคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน และหัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวนตามคำสั่งของ ภ.8 ได้มีการประชุมติดตามความคืบหน้าการดำเนินคดี จากการประชุมหารือกับทางคณะพนักงานสอบสวนคดีนี้ ที่ผ่านมาได้มีการสอบสวนปากคำพยานแล้ว 44 ปาก เอกสารในคดีกว่า 1,591 แผ่น พบพยานหลักฐานที่สำคัญ ทั้งพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และกล้องวงจรปิด จนสามารถพิสูจน์ยืนยันการกระทำความผิดของผู้ต้องหาทุกคนได้โดยปราศจากข้อสงสัย พร้อมกันนี้พยานปากสำคัญทางคดีได้รับการคุ้มครองพยาน โดยทางคณะพนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนและมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 6 ราย ดังต่อไปนี้

  1. นายธัญญะหรือบอมบ์ อายุ 31 ปี ทำหน้าที่ เป็นผู้ใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย
  2. นายณัฐพงศ์หรือเอ็ม อายุ 31 ปี ทำหน้าที่ เป็นผู้ขับขี่รถ จยย. คันก่อเหตุ /ดูเป้า
    ในความผิดฐาน“ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาไตร่ตรองไว้ก่อน และร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์”
  3. นายรณกรหรือวัตน์ อายุ 49 ปี ทำหน้าที่ เป็นผู้จัดหามือปืน/วางแผนก่อเหตุ
  4. นายอรรถพรหรือเบ็ต อายุ 68 ปี ทำหน้าที่ เป็นผู้รับงาน/ชี้เป้า/วางแผนก่อเหตุ
  5. นายสมหมายหรือหมาย อาย 63 ปี ทำหน้าที่ เป็นผู้ใช้/ จ้างวาน
  6. นายจำนงค์ หรือนงค์ อายุ 62 ปี เป็นผู้ใช้/ จ้างวาน
    ในความผิดฐาน “เป็นผู้ใช้ จ้างวาน บังคับขู่เข็ญ หรือยุยง ส่งเสริม หรือกระทำด้วยประการใดๆ ให้ผู้อื่น ร่วมกันกระทำความผิดฐาน ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาไตร่ตรองไว้ก่อน และร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์”
    คดีนี้ ผู้ต้องหาที่ 1-4 ซึ่งลงมือ ฆ่า และคนรับงาน ให้การรับสารภาพทั้งชั้นจับกุมและสอบสวน ด้วยความสมัครใจต่อหน้าทนายความ ขณะที่ผู้ต้องหาที่ 5 และ 6 ยังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
    พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุดังกล่าว เป็นเวลากว่า 2 เดือนแล้ว ที่มีการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหา ซึ่งมีการแบ่งหน้าที่กันทำ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้กำชับและเน้นย้ำให้ทำสำนวนด้วยความรอบคอบและให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย และในวันนี้จึงได้มีการประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าพร้อมกับสรุปผลการดำเนินคดี ซึ่งทางคณะพนักงานสอบสวนได้สั่งฟ้องผู้ต้องหา รวมทั้งสิ้น 6 คน และจะนำสำนวนการสอบสวนทั้งหมด เข้าขอคำปรึกษากับพนักงานอัยการเพื่อให้มีพยานหลักฐานมีความครบถ้วนสมบูรณ์และเกิดความเป็นธรรม สามารถตอบคำถามสังคมได้

พล.ต.ท.สำราญ ผบช.น. พร้อม คณะ ร่วมพิธีทำบุญตักบาตร, ถวายพระพรชัยมงคล และถวายสัตย์ปฏิญาณ

วันนี้(พฤหัสบดีที่ 11 ส.ค.65) เวลา 07.00 น. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. พร้อม คณะ รอง ผบช.น., คณะ ผบก. ในสังกัด, คุณศิริเพ็ญ ตั้งทวีสุโข นวลมา ประธานและคณะแม่บ้าน บช.น. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมพิธีทำบุญตักบาตร, ถวายพระพรชัยมงคล และถวายสัตย์ปฏิญาณ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิม พระชนมพรรษาครบ 90 พรรษา ณ ลานเอนกประสงค์ บช.น. และห้องโถง อาคาร บช.น./ทีมงานประชาสัมพันธ์ บช.น.

Design a site like this with WordPress.com
Get started