ในวันอังคารที่ 9 สิงหาคม 2565 เวลา 10.00 น.
ณ ห้องประชุมอมรวิวัฒน์ อาคารอเนกประสงค์ ภ.1
ตามนโยบายของรัฐบาล ที่ให้ความสำคัญในการป้องกัน และควบคุม อาชญากรรมซึ่งเป็นภัยคุกคาม ต่อชีวิต
และทรัพย์สินของประชาชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สนองนยบายในด้านการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม
ดังกล่าว โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ , พล.ต. อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการ
ตำรวจแห่งชาติ , พล.ต. ท.ธนา ชูวงศ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงได้สั่งการให้มีการบูรณาการแก้ปัญหาอาซญากรรมประเภทต่างๆที่เกี่ยวกับชีวิต
ร่างกาย เพศ ทรัพย์สิน อาซญากรรมทางเทคโนโลยี โดยได้กำหนดให้ดำเนินการขับเคลื่อนการดำเนินการตาม
มาตรการและนโยบายอย่างป็นระบบ เพื่อให้การป้องกันปราบปราบอาชญากรรม การรักษาความสงบเรียบร้อย
เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดความสงบเรียบร้อยในทุกพื้นที่
ตำรวจภูธรภาค 1 นำโดย พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 , พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม
รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และ พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้สั่งการ
ให้กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ตำรวจภูธรจังหวัดในสังกัด ปฏิบัติตามการสั่งการ สำนักงาน
ตำรวจแห่งชาติ ดังกล่าวอย่างเคร่งครัด โดยให้มีการระดมกวาดล้างอาชญากรรมทุกประเภทความผิดในห้วง
ระหว่างวันที่ 22 กรกฎาคม 2565 ถึง วันที่ 5 สิงหาคม 2565 เน้นความผิดเกี่ยวกับ อาวุธปืนและเครื่องกระสุน
ปืน วัตถุระเบิด สถานบริการ การสืบสวนบุคคลตามหมายจับ การพนัน และยาเสพติด ที่มุ่งเน้นการแก้ปัญหา
ยาเสพติดอย่างครบวงจร ให้ความสำคัญกับ “หมู่บ้าน – ชุมชน” ตั้งเป้าลดจำนวนนักเสพหน้าใหม่ โดยนำไปบำบัด
ฟื้นฟู ทำลายเครือข่ายการค้า ตัดท่อน้ำเลี้ยงขบวนการ พร้อมสร้างแรงจูงใจให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน มุ่งหวังให้
ยาเสพติดหายไปจากสังคมไทย โดยได้เปิด ยุทธการปราบไพรี ประกาศสงครามกับยาเสพติด ตำรวจภูธร
ภาค 1 และมีพิธีปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมไปเมื่อ วันที่ 22 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมานั้น ผลการ
ปฏิบัติในการระดมกวาดล้างอาชญากรรมดังกล่าว สามารถจับกุมผู้กระทำผิดจำแนกเป็นความผิดประเภทต่างๆ
ดังนี้
- คดีอาวุธปืน มีผลการจับกุม 571 ราย ผู้ต้องหา 568 คน รวมอาวุธปืน จำนวน 518 กระบอก
แยกเป็น ปืนมีทะเบียน 315 กระบอก ปืนไม่มีทะเบียน 203 กระบอก เครื่องกระสุนปืน จำนวน 711 นัด
-คดีการพนัน จับกุม 737 ราย ผู้ต้องหา 922 คน - คดียาเสพติด จับกุม 1580 ราย ผู้ต้องหา 1593 คน
แบ่งเป็นยาบ้า จำนวน 439,389 เม็ด , ยาไอซ์ 151.890 กรัม , เคตามีน 35.190 กรัม และยาอี จำนวน 5.08 เม็ด
-ความผิดเกี่ยวกับสถานบริการ จับกุม 104 ราย ผู้ต้องหา 103 คน
-คดีประเภทตามความผิด พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 (แรงงานต่างด้าว) จับกุม 501ราย
ผู้ต้องหา 502 คน
-คดีค้างเก่าบุคคลตามหมายจับ จับกุม 1138 ราย ผู้ต้องหา 1,094 คน
-คดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี จับกุม 666 ราย ผู้ต้องหา 662 คน
ตำรวจภูธรภาค 1 ได้สนองนโยบายรัฐบาล และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการดูแลพี่น้องประซาชน
โดยการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ระดมกวาดล้างอาชญากรรม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความปลอดภัย
ของประชาชน ลดปัญหาความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และการก่อความไม่สงบเรียบร้อย
ที่อาจเกิดขึ้น และขอความร่วมมือจาก ภาคประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สามารถมีส่วนร่วมในการช่วยสังคม
แจ้งเบาะแสการกระทำความผิดตามกฎหมายผ่านทางสถานีตำรวจทุกแห่ง และหมายเลขโทรศัพท์สายด่วน 191
ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยข้อมูลของผู้แจ้งจะถูกเก็บไว้เป็นความลับ













































































