สพป.สงขลา เขต 2 เสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรมและธรรมาภิบาล ในสถานศึกษา ปี 65

นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

วันนี้ 1 ส.ค.65 ที่ ห้องประชุมโกเมน สพป.สงขลา เขต 2 เลขที่ 2 ถนนสาครมงคล อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นายอุทัย กาญจนะ ผอ.สพป. สงขลา เขต 2 เปิดประชุมเชิงปฏิบัติการการขับเคลื่อนโครงการเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรมและธรรมาภิบาล ในสถานศึกษา ปี 65 (ITA Online สถานศึกษา)ผ่านระบบ Google Meet โดยให้ความรู้ ความเข้าใจถึงเกณฑ์การประเมิน ITA รร.สุจริต วิธีการ ขั้นตอนแนวทางการขับเคลื่อนฯทุกตัวชี้วัด ตรงประเด็น อย่างละเอียด เพื่อยกระดับคุณธรรมและความโปร่งใสและภาพลักษณ์ในการดำเนินงานของหน่วยงาน มุ่งให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ลดโอกาสการสุ่มเสี่ยงการเกิดการทุจริตและลดพฤติกรรมมิชอบในหน่วยงาน
โดยนางกฤศรดา ศศิธนาดุล รองผอ.สพป.สงขลา เขต 2 พร้อมด้วย จนท.ร่วมชี้แจงสร้างความเข้าใจ เพื่อให้ผู้เข้าประชุมได้เข้าใจ และสามารถดำเนินการการถูกต้องเรียบร้อยสมบูรณ์ ภายในกำหนดเวลา ที่สำคัญเพื่อขยับ การประเมินฯ สู่ระดับ AA ปี 65

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ให้การต้อนรับเสด็จ สมเด็จพระเทพฯ ทรงเยี่ยมชมงานมหกรรมวิจัยแห่งชาติ 2565

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเยี่ยมชมงานมหกรรมวิจัยแห่งชาติ 2565 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ร่วมกับหน่วยงานเครือข่ายในระบบวิจัยทั่วประเทศ ขอเชิญร่วมงาน มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2565 (Thailand Research Expo 2022) “วิจัยเพื่อพัฒนาประเทศสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน” ระหว่างวันที่ 1 – 5 สิงหาคม 2565 เวลา 09.00-17.00 น. ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ

ภาคการประชุม พบกับหัวข้อการประชุมในประเด็นหัวข้อการวิจัยที่สำคัญของประเทศมากกว่า 100 หัวข้อเรื่อง

ภาคนิทรรศการ พบกับการจัดแสดงผลงานวิจัยและนวัตกรรม และผลงานที่พร้อมนำสู่การใช้ประโยชน์ โดยความร่วมมือของหน่วยงานในระบบวิจัยทั่วประเทศ ร่วมนำเสนอมากกว่า 500 ผลงาน

ขอเชิญลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ในรูปแบบ Online และ Onsite โดยในรูปแบบ Onsite วช. ขอจำกัดเฉพาะผู้ลงทะเบียนล่วงหน้า ที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 2 เข็ม และผู้เข้าร่วมงานOnsite ทุกท่าน จะต้องแสดงผลการตรวจ ATK ก่อนการเข้าสถานที่การจัดงานตามที่ วช. กำหนด

ลงทะเบียนเข้าร่วมงานภาคการประชุมและภาคนิทรรศการได้ที่ https://researchexporegis.com Onsite ภายในวันที่ 27 กรกฎาคม 2565 Online ภายในวันที่ 5 สิงหาคม 2565

บูธ Smart Safety Zone 4.0

พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภาค5 ร่วมเป็นสักขีพยานลงนามสถานฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด

พลตำรวจโท ปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ร่วมเป็นสักขีพยานลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการดำเนินการสถานฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด “The Hills Rehab Chiangmai by Thonburi Rehab Center” ระหว่าง บริษัท ธนบุรี รีแฮบ เซ็นเตอร์ จำกัด กับ บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
เพื่อเตรียมพร้อมความร่วมมือในการเปิดสถานฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ในภาคเหนือของประเทศไทย อันเป็นโครงการในอนาคตข้างหน้า

ณ บริเวณลานชั้น 1 รพ.ธนบุรี บำรุงเมือง กรุงเทพ

“ทวี” เยี่ยมครอบครัว “อูมีกลือซง”หลังมีคลิปไวรัลขอดุอาหลังเหตุวิสามัญฯ

นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

“พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” นำทีม ส.ส.ประชาชาติ เยี่ยมให้กำลังใจครอบครัว “อูมีกลือซง ตายอ” คุณยายที่สูญเสียญาติจากเหตุการณ์วิสามัญฯที่รือเสาะ เผยพื้นที่บ้านตายา ต.สุวารี เคยรับเสด็จฯ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทอดพระเนตรโครงการฝายทดน้ำตาเปาะในพระราชดำริ ทำให้ชาวบ้านมีน้ำกินน้ำใช้ไม่เคยขาดมาจนทุกวันนี้
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ พร้อมด้วย นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ส.ส.นราธิวาส เชต 4 พรรคประชาชาติ และคณะ ลงพื้นที่บ้านตายา หมู่ 1 ต.สุวารี อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวของ นางอูมีกลือซง ตายอ วัย 59 ปี โดยมีชาวบ้านและเยาวชนบ้านตายา บ้านตาเปาะ และบ้านบน ต.สุวารี มารอต้อนรับและพบปะพูดคุยกับ พ.ต.อ.ทวี เป็นจำนวนมาก
ครอบครัวของ นางอูมีกลือซง เพิ่งสูญเสียญาติไป 1 คน จากเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเข้าปิดล้อม ตรวจค้น และยิงปะทะกับกลุ่มติดอาวุธต้องสงสัย บนเทือกเขาสาวอฮีเล ต.สาวอ อ.รือเสาะ เมื่อวันที่ 6 ก.ค.65 มีผู้เสียชีวิต 2 ราย โดยหนึ่งในสองเป็นญาติของครอบครัวนางอูมีกลือซง โดยหลังจากทราบว่า นางอูมีกลือซง ได้ขอดุอาจากอัลลอฮ์ และมีคนถ่ายคลิปไปเผยแพร่จนเป็นกระแสในโลกออนไลน์ ทำให้ นายกมลศักดิ์ ซึ่งเป็น ส.ส.ในพื้นที่นี้ทราบข่าว จึงชวน พ.ต.อ.ทวี มาเยี่ยมให้กำลังใจ
โอกาสนี้ นางอูมีกลือซง ได้ขอดุอาอ์ (ขอพร) ให้ พ.ต.อ.ทวี และพรรคประชาชาติ สมหวังดังใจปรารถนา อีกทั้งยังขอให้จังหวัดชายแดนภาคใต้เกิดความสงบสุขตลอดไป
ด้าน พ.ต.อ.ทวี กล่าวกับนางอูมีกลือซง และประชาชนที่มารอพบว่า มาเยี่ยมและให้กำลังใจ รู้สึกดีใจที่ได้มา เมาะเป็นคนที่ทำให้ประชาชนมีกำลังใจและมีความหวัง เราไม่ทิ้งกัน และจะขอแวะมาเยี่ยมบ่อยๆ
หลังจากนั้น พ.ต.อ.ทวี ได้เดินทางต่อไปร่วมกิจกรรม Tourism in Southern Border จุดชมวิว “เชิงเขา หน้าถ้ำ” ซึ่งเป็นกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน ที่บ้านบันนังลูวา ต.หน้าถ้ำ อ.เมืองยะลา จ.ยะลา และร่วมถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์ ที่วัดพุทธภูมิ ต.สะเตง อ.เมืองยะลา พร้อมร่วมรับประทานอาหารกับพี่น้องพุทธศาสนิกชนด้วย
สำหรับครอบครัว นางอูมีกลือซง ตายอ เป็นครอบครัวที่ ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยม ระหว่างทรงติดตามโครงการพระราชดำริ โครงการฝายทดน้ำตาเปาะ บ้านตาเปาะ หมู่ 1 ต.สุวารี อ.รือเสาะ เมื่อวันที่ 3 ต.ค.2523
ครั้งนั้น ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้ทรงเยี่ยมราษฎรในหมู่บ้านตาเปาะ และหมู่บ้านตายา พระราชทานแนวพระราชดำริเกี่ยวกับงานชลประทานว่าควรพิจารณาต่อท่อผันน้ำจากฝายทดน้ำจากือจิ๊ ไปลงอ่างเก็บน้ำ หรือลงบ่อพักน้ำ ทั้งนี้แล้วแต่ความเหมาะสม เพื่อส่งน้ำให้แก่พื้นที่นาของหมู่บ้านตาเปาะ ประมาณ 100 ไร่ จะได้สามารถทำการเพาะปลูกได้ตลอดปี และต่อท่อผันน้ำจากอ่างพักน้ำหรือบ่อพักน้ำนี้ โดยผ่านที่กรองน้ำแบบชาวบ้าน ไปลงบ่อน้ำอุปโภค-บริโภคในหมู่บ้านตาเปาะ เพื่อให้ราษฎรหมู่บ้านตาเปาะมีน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภคได้ตลอดปีเช่นกัน เนื่องจากราษฎรหมู่บ้านนี้หาน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภคได้ยาก เพราะน้ำบ่อที่ขุดไว้นั้น ผิวน้ำในบ่ออยู่ต่ำกว่าระดับพื้นดินเกินกว่า 5 เมตร
จากนั้นกรมชลประทานได้ดำเนินการสำรวจภูมิประเทศ พร้อมออกแบบเป็นฝายหินก่อในระดับที่สูงกว่าฝายเดิม และได้วางระบบท่อส่งน้ำและอ่างจ่ายน้ำ ระหว่างดำเนินโครงการ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมราษฎรหลายครั้งบ และได้ทรงมีพระราชปฏิสันถารกับครอบครัว นางอูมีกลือซง ตายอ ถึง 3 ครั้ง แม้เหตุการณ์จะผ่านมาหลายปีแล้ว ชาวบ้านยังคงจำได้ไม่ลืม และสามารถใช้น้ำจากโครงการพระราชดำริมาตลอด ไม่เคยขาดแคลน ทั้งยังรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 ตลอดมาไม่เคยเสื่อมคลาย

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร ปป 1 ลงพื้นที่ ตรวจโครงการ Smart Safety Zone 4.0

เบาะแสอาชญากรรม ศูนย์ข่าวจังหวัดมุกดาหาร

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร ปป 1 ลงพื้นที่ ตรวจติดตามโครงการ SmartSafetyZone4.0 สภ.เมืองมุกดาหาร

เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2565 เวลา 14:30 น
พล ต ต ชัชชัย วงศ์สุนะ
ผู้บังคับการตำรวจภูธรมุกดาหาร
พ ต อ เถียรติภูมิ สุวรรณไตรย์
ผ ก ก สภ เมืองมุกดาหาร
พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจและภาคี
เครือข่ายป้องกันอาชญากรรม
รอให้การต้อนรับคณะ พล.ต ท สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ ตร ปป 1 พร้อมคณะ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อถึง กองบังคับการสถานีตำรวจภูธรเมืองมุกดาหาร เป็นที่เรียบร้อยจึงได้ เดินเข้าห้องประชุมเพื่อรับทราบ โครงการตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเพื่อขับเคลื่อนตามยุทธศาสตร์ชาติ ด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และตัวชี้วัดสากล “World Internal Security & Police Index หรือ WISPI” โดยการจัดให้มีการป้องกันอาชญากรรมเชิงรุกนำการปราบปราม ซึ่งแนวคิดของโครงการดังกล่าวเกิดจากการผสมผสานแนวคิดเรื่องเมืองอัจฉริยะ หรือ Smart City เข้ากับแนวคิดที่จะสร้างพื้นที่ปลอดภัย หรือ Safety Zone ให้เกิดขึ้น โดยอาศัยความร่วมมือและการมีส่วนร่วมของทุกคน โดยมีเป้าหมายสำคัญ คือ การพัฒนารูปแบบวิธีการป้องกันอาชญากรรมเชิงรุกโดยใช้นวัตกรรมและยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง โดยดำเนินการจัดให้มีโครงการนำร่องขึ้นก่อน หลังจากนั้นจึงขยายการดำเนินการต่อไปจนครบทุกจังหวัดและพื้นที่สถานีตำรวจทุกแห่ง เพื่อสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่พี่น้องประชาชนทั่วประเทศ

แนวทางในการดำเนินการโครงการ Smart Safety Zone 4.0 เริ่มจากการจัดตั้งภาคีเครือข่ายป้องกันอาชญากรรมในพื้นที่ หรือ “Big 6” ซึ่งประกอบด้วย 1. ตำรวจ 2. ภาคประชาชน 3. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 4. ภาคธุรกิจ 5. หน่วยงานภาครัฐ หรือหน่วยงานไม่หวังผลกำไรอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาภายในชุมชน 6. สื่อมวลชนทุกแขนง รวมถึงสื่อมวลชนส่วนกลางที่อยู่ในพื้นที่

จากนั้นเปิดโอกาสให้ภาคีเครือข่ายได้เข้ามามีส่วนร่วมในการวิเคราะห์สภาพพื้นที่และคัดเลือกพื้นที่ร่วมโครงการ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวมาจากการสะท้อนความต้องการของประชาชนที่ต้องการให้แก้ไขอาชญากรรมในพื้นที่นั้น ๆ อย่างแท้จริง โดยมีแนวทางในการคัดเลือกพื้นที่ในการดำเนินโครงการจาก 4 ปัจจัยสำคัญ คือ

  1. Risk คือ เป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงในการเกิดอาชญากรรมสูง มีสถิติการเกิดอาชญากรรมในช่วงที่ผ่านมามากกว่าพื้นที่อื่น และประชาชนต้องการให้มีการควบคุมอาชญากรรมในพื้นที่
  2. Landmark คือ เป็นสถานที่ที่มีร้านค้า สถานบริการ อาคารสำนักงานของหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และสถานศึกษา
  3. Economic คือ เป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ ซึ่งหากเกิดอาชญากรรมในพื้นที่จะกระทบกับภาพลักษณ์ของประเทศ และ
  4. Size คือ มีพื้นที่ไม่เกิน 2 ตารางกิโลเมตร เพื่อให้สามารถระดมสรรพกำลัง เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมเข้าไปควบคุมปัญหาอาชญากรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เมื่อคัดเลือกพื้นที่เข้าร่วมโครงการได้แล้ว สถานีตำรวจทุกสถานีที่ร่วมโครงการจะปฏิบัติตามแนวทางการขับเคลื่อนงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ 2564-2565 พร้อมทั้งดำเนินการและนำเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมต่าง ๆ ที่ทันสมัยมาใช้เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่และเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันอาชญากรรม เช่น สำรวจกล้อง CCTV ในพื้นที่ ปรับมุมกล้อง และบูรณาการการใช้งานกล้องร่วมกันพร้อมทั้งมีการติดตั้งเพิ่มเติม มีการติดตั้งกล้องตรวจจับใบหน้า กล้องตรวจจับป้ายทะเบียนรถ ติดตั้งเสาสัญญาณ SOS เพื่อประชาชนสามารถแจ้งเหตุด่วนได้ทันที จัดทำห้องปฏิบัติการซึ่งเชื่อมสัญญาณจากกล้องของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หน่วยงานราชการและเอกชนมายังห้องปฏิบัติการ และนำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาใช้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์เพื่อควบคุมสั่งการได้ตลอด 24 ชั่วโมง อีกทั้งมีการใช้แอปพลิเคชันต่าง ๆ มาช่วยเพื่อความรวดเร็วในการสื่อสาร เช่น แอปพลิเคชัน Police 4.0 ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันสำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถบันทึกการลงชื่อเข้าเวร การตรวจตู้แดงผ่านการสแกน QR code และการบันทึกการตั้งด่านในแต่ละวัน รวมทั้ง
แอปพลิเคชัน Police i lert u ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันสำหรับประชาชนที่สามารถแจ้งขอความช่วยเหลือไปยังตำรวจโดยตรงผ่านมือถือสมาร์ทโฟน เป็นต้น

นอกจากนั้น สถานีตำรวจที่เข้าร่วมโครงการจะประสานความร่วมมือกับหน่วยงานในท้องที่เพื่อร่วมกันปรับภูมิทัศน์ของพื้นที่เสี่ยงให้เป็นพื้นที่ปลอดภัย รวมทั้งสร้างการมีส่วนร่วมกับภาคีเครือข่าย โดยเฉพาะภาคประชาชนเพื่อช่วยระวังป้องกันอาชญากรรม สร้างความเป็นเจ้าของพื้นที่ร่วมกัน ซึ่งจะทำให้การดำเนินโครงการดังกล่าวให้เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ภาพ ข่าวโดย อานุภาพ อาจหาญ สุวิทย์ โพธิรัชต์ เหยี่ยวข่าวพญายม หน เบาะแสอาชญากรรม มห รายงาน

“ผู้บัญชาการโอ๋”เผย”ผู้การฯราชบุรี”ตามรวบตัว ไอ้หื่น ผู้ต้องหา ข่มขืนเด็ก เจออาวุธสงคราม ปืนอาก้า พร้อมกระสุนเพียบ

วันนี้ 30 กรกฎาคม 2565 ที่ บช.ภ.7 พล.ต.ท. ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำงค์ ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า ได้รับรายงานว่าเมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา (เวลา 14.25 น)
พล.ต.ต.ปิติ นฤขัตรพิชัย ผบก.ภ.จว ราชบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชัยรัตน์ บัวขม ผกก.สภ.ปากท่อ พ.ต.ท.วัชรินทร์ มีศรีผ่อง รอง ผกก.สส.สภ.ปากท่อ สั่งการให้ พ.ต.ต.ฉัตรชัย ศรีเมือง สว.สส.สภ.ปากท่อ พร้อมด้วยชุดสืบสวน สภ.ปากท่อ ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายสมัคร หรือ(เอ) อายุ 46 ปี บ้านเลขที่ 92 ม.6 ต.หนองหญ้าปล้อง อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี
ตามหมายจับศาลจังหวัดราชบุรี ที่ จ..199/2565 ลง 29 กรกฎาคม 2565

ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้นั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปีซึ่งมิใช่ภรรยาตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดาผู้ดูแลหรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจาร พาเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีเพื่อการอนาจารแม้เด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม โดย นายสมัครฯ รับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับนี้จริงและไม่เคยถูกจับตามหมายจับนี้มาก่อน จึงทำการจับกุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปากท่อ เพื่อดำเนินการต่อไป

พล.ต.ท. ธนายุตม์ กล่าวว่า สำหรับคดีดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ร่วมกันเดินทางไปตรวจสอบบุคคลตามหมายจับดังกล่าว เมื่อเดินทางไปถึงพบ นายสมัครฯ อยู่บริเวณบ้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตน และแสดงหมายจับให้ นายสมัครฯ ดูและอ่าน นายสมัครฯ ดูและอ่านจนเข้าใจดีแล้ว ยอมรับว่าเป็นบุคคลที่มีชื่อที่อยู่ ตรงตามหมายจับดังกล่าวจริงและไม่เคยถูกจับในคดีนี้มาก่อนแต่อย่างใด จึงได้ทำการจับกุมตัว นายสมัครฯ

โดยขณะนั้นเจ้าหน้าชุดจับกุม ได้สังเกตุเห็นอาวุธปืนยาว วางอยู่ภายในบ้านของ นายสมัคร เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้สอบถามถึงอาวุธปืนดังกล่าวซึ่ง นายสมัครฯ รับว่าอาวุธปืนดังกล่าวเป็นของตนเอง โดยนายสมัครฯ สมัครใจและยินยอมพาเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบอาวุธปืนดังกล่าว จากการตรวจสอบพบของกลาง เป็นอาวุธปืนเล็กยาว แบบอาร์ก้า(AK.47 ) จำนวน 1 กระบอก ,เครื่องกระสุนปืน ขนาด 7.62 มม. จำนวน 70 นัด ,ซองบรรจุกระสุนอาวุธปืน แบบอาร์ก้า(AK.47 ) จำนวน 2 อัน
พร้อมด้วยอาวุธปืนลูกซองยาว ขนาดเบอร์ 12 ปรากฎหมายเลขทะเบียนเลอะเลื่อน ไม่สามารถตรวจสอบได้ และไม่หมายเลขประจำตัวปืน จำนวน 1 กระบอก
และเครื่องกระสุนปืนลูกซอง ขนาดเบอร์ 12 จำนวน 15 นัด

อาวุธปืนยาว ขนาด .22 ไม่ปรากฎหมายเลขทะเบียน และหมายเลขประจำตัวปืน จำนวน กระบอก ,เครื่องกระสุนปืน ขนาด .22 มม. จำนวน 106 นัด
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ร่วมกันทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมด เพื่อดำเนินการนำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.หนองหญ้าปล้อง เพื่อทำการตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมาย ต่อไป “ผบช.ภ.7 กล่าว”

“เร็วกว่าเดิม!! ไม่กี่อึดใจหลังรับแจ้ง ตำรวจรวบคนร้ายชิงทรัพย์ร้านค้า(เคสที่2ของวันนี้)”

วันนี้ 29.ก.ค. 2565 เวลาประมาณ 21.53 น.
ภายใต้การอำนวยการของ
พ.ต.อ.รุ่งสกุล บุญกระพือ ผกก.สน.ลาดพร้าว
พ.ต.ท.พัฒนพงษ์ ปัดสำราญ รอง.ผกก.(ป) สน.ลาดพร้าว
พ.ต.ท.อำนาจ วงศ์สมบัติ
สวป.สน.ลาดพร้าว
ร.ต.อ.วิรัตน์ เนื้อแก้ว รอง.สวป.ทำหน้าที่ ร้อย เวร 2-0 พร้อมสายตรวจชุดปฎิบัติการที่ 1 ด.ต.วิฑูรย์ จิรเมธาวีสุเกษม,ด.ต.วิสัน น้อยน้ำคำ,ด.ต.พรางค์เนติ สว่างโรจน์,จ.ส.ต.ทิฆัมพร พุฒแก้ว,จ.ส.ต.ไพรัตน์ ห่อหุ้ม,ส.ต.อ.จักรพงษ์ อภิวงศ์,ส.ต.อ.ณัฐกิตติ์ เพ็งเจริญ ผบ.หมู่ ป.สน.ลาดพร้าว

ได้ร่วมกันจับกุมตัว
ชายไทย อายุประมาณ 43 ปี จำนวน 1 ราย

โดยกล่าวหาว่า
1.ชิงทรัพย์โดยมีอาวุธ ในเวลากลางคืน

พบของกลางเป็น
1.ธนบัตรไทยฉบับละหนึ่งร้อยบาท จำนวน 10 ฉบับ รวมเป็นเงิน 1000 บาท
2.อาวุธมีดปลายแหลม ยาว 50 ซม.

สถานที่ บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร
พฤติการณ์ ตามวันเวลาเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งมีเหตุชายต้องสงสัยมีอาวุธมีดในมือเข้าไป ภายในร้านสะดวกซื้อ 7-11สาขาลาดพร้าว 109 ถ.ลาดพร้าว แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพ จึงเดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ต้องหา มีรูปพรรณสัณฐานการแต่งกายตรงกับที่แจ้ง จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ ขอทำการตรวจค้น ก่อนทำการตรวจค้นได้แสดงความบริสุทธิ์ใจให้ผู้ต้องหาดูเป็นที่พอใจ ผลการตรวจค้น พบธนบัตรไทยฉบับละหนึ่งร้อยบาทจำนวน 10 ฉบับ รวมเป็นเงิน 1000 บาท วางอยู่ด้านข้างใกล้ตัวผู้ต้องหาและอาวุธมีดปลายแหลมถืออยู่ในมือขวาผู้ต้องหาในขณะตรวจค้น จึงยึดเป็นของกลาง สอบถามผู้ต้องหายอมรับว่าตนเป็นผู้ก่อเหตุชิงทรัพย์ในร้านสะดวกซื้อสาขาลาดพร้าว… โดยมีผู้เสียหายแจ้งว่าตนเป็นเจ้าของร้านสะดวกซื้อที่เกิดเหตุ โดยแจ้งแก่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมว่า ผู้ต้องหาได้เข้ามาในร้าน ใช้อาวุธมีดข่มขู่ให้นำเงินสดมาให้จำนวน 1000 บาทถ้าขัดขืนจะใช้มีดทำร้ายผู้เสียหาย จึงได้หยิบเงินสดส่งให้ผู้ต้องหา ผู้ต้องหาหยิบเงินสดแล้วเดินออกหน้าร้าน จนเจ้าหน้าชุดจับกุมมาถึงพบผู้ต้องหาตามที่แจ้ง อยู่หน้าร้านสะดวกซื้อพร้อมของกลาง และผู้เสียหาย ยืนยันว่าชายดังกล่าวเป็นผู้ก่อเหตุจริง จึงแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ พร้อมสิทธิตามกฎหมาย นำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการสอบสวนตามกฎหมายต่อไป

สน.ลาดพร้าว บก.น.4

#นครบาลใส่ใจเพื่อความปลอดภัยของประชาชน

#ทีมโฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล

ศาลเจ้าไต้ฮงกง มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดพิธีเปิดประตูผี ในประเพณีทิ้งกระจาด ประจำปี 2565


พร้อมเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญมหากุศลครั้งยิ่งใหญ่ “ทำบุญให้ผู้ล่วงลับ พร้อมทำทานให้ผู้ยากไร้” ผ่านระบบออนไลน์
.
วันนี้ (วันที่ 29 กรกฎาคม 2565) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการ จัดให้มีพิธีเปิดประตูผี เนื่องในประเพณีทิ้งกระจาด ประจำปี 2565 โดยคณะศิษยานุศิษย์และผู้มีจิตศรัทธาหลวงปู่ไต้อง (ไต้ฮงกง) ร่วมกันจัดถวายเครื่องสักการะ และเครื่องเซ่นไหว้ ณ ศาลเจ้าไต้ฮงกง มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ
.
ระหว่างวันที่ 8 กรกฎาคม – 24 สิงหาคม 2565 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอเชิญชวนประชาชนผู้มีจิตศรัทธาร่วมงานบุญมหากุศลประจำปี “ประเพณีทิ้งกระจาด ประจำปี 2565” สักการะหลวงปู่ไต้ฮง (ไต้ฮงกง) เพื่อความเป็นสิริมงคล ทำบุญชุดข้าวสารให้ผู้ล่วงลับ พร้อมกับเป็นการสมทบทุนข้าวสารและเครื่องอุปโภคบริโภคเพื่อเป็นการทำทานให้ผู้ยากไร้ ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ชลบุรี นครราชสีมา และ 50 เขต กรุงเทพมหานคร รวมทั้งสิ้น 4 จังหวัด (กำหนดการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19)
.
เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในขณะนี้ เพื่อลดความเสี่ยงและการเพิ่มมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาด มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จึงจัดให้มีช่องทางการร่วมทำบุญทิ้งกระจาดใหม่ ผ่านระบบออนไลน์ https://pttfny.net/newsh/ ในอีกทางหนึ่ง
.
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมพร้อมติดตามงานประเพณีทิ้งกระจาดได้ที่่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง http://www.facebook.com/atpohtecktung
.
ประเพณีทิ้งกระจาด ถือได้ว่า เป็นงานบุญที่ยิ่งใหญ่ที่ปฏิบัติสืบทอดมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล โดยจะจัดในเดือน 7 ตามจันทรคติของจีน ซึ่งมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ปฏิบัติสืบเนื่องมาทุกปีเป็นเวลาช้านานกว่า 80 ปี และคาดว่าจะเป็นมูลนิธิแห่งแรก ที่จัดงานทิ้งกระจาดอย่างเป็นทางการและเป็นกิจจะลักษณะ เพราะถือว่าเป็นประเพณีการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่เพื่อนมนุษย์ที่ล่วงลับไปแล้วทั้งที่เป็นญาติและไม่เป็นญาติพร้อมกับทำทานให้แก่ผู้ยากไร้ ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มีผู้ใจบุญจะนำเครื่องเซ่นไหว้ เช่น ข้าวสารอาหารแห้ง และอื่น ๆ มากราบไหว้หลวงปู่ เพื่อทำบุญสะเดาะเคราะห์ ซึ่งมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งจะรวบรวมไว้ไปสมทบกับสิ่งของที่จัดซื้อเพิ่มเติม เพื่อนำไปแจกจ่ายแก่ผู้ยากไร้ พร้อมนำมอบองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน
.
.
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือติดตามข่าวสารและกิจกรรมของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ที่ Facebook Fanpage : http://www.facebook.com/atpohtecktung
.
“มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง110ปีความดีที่ยั่งยืน

ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต

แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418

ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน…

” คนไทยด้วยกันไม่ทอดทิ้งกันของสมาคมเท่งไฮ้แห่งประเทศไทย “

รายการคืนคุณให้แผ่นดิน สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ออกอากาศวันศุกร์นี้ เวลา 15.05 น. – 15.30 น.

รายการคืนคุณให้แผ่นดิน สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ขอนำเสนอโครงการกิจกรรมการกุศลของสมาคมเท่งไฮ้แห่งประเทศไทย นำโดยท่านสมเกียรติ เหล่าทวีสุข นายกสมาคมเท่งไฮ้แห่งประเทศไทย และคณะกรรมการบริหารสมาคมเท่งไฮ้แห่งประเทศไทย สมาคมได้ก่อตั้งมาถึงปีที่ 75 แล้ว ในทุกๆปีที่ผ่านมาได้ดำเนินกิจกรรมการกุศลมาโดยตลอด และในปีนี้สมาคมเท่งไฮ้แห่งประเทศไทยจัดกิจกรรมการกุศลมอบถุงยังชีพ 2000 ชุด ให้กับหน่วยงานต่างๆสมาคมเท่งไฮ้แห่งประเทศไทยซึ่งการ
ทำกิจกรรมการกุศลทางสมาคมเท่งไฮ้แห่งประเทศไทยได้ดำเนินอย่างต่อเนื่องรวมถึงในวันนี้เช่นเดียวกัน
อย่าพลาดติดตามชมภาพและบรรยากาศในรายการคืนคุณแผ่นดิน สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ออกอากาศวันศุกร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ.2565 เวลา 15.05 น. – 15.30 น. สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก
คุณอภิคม แก้วละเอียด (ตูมตาม ) พิธีกรภาคสนามดำเนินรายการคืนคุณให้แผ่นดิน สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก

CR : รายการคืนคุณให้แผ่นดิน สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก

“โอ๊ะป่อยตลาดเช้าริมธารสวนผึ้ง ราชบุรี “

รายการคืนคุณให้แผ่นดิน สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ออกอากาศวันศุกร์นี้ เวลา 15.05 น. – 15.30 น.

โอ๊ะป่อย มาจากภาษากะเหรี่ยง แปลว่า “พักผ่อน” ชุมชนในพื้นที่อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ส่วนหนึ่งเป็นคนไทยเชื้อสายกะเหรี่ยง ซึ่งในอดีตชาวกะเหรี่ยงพร้อมกับชาวมอญได้อพยพจากพม่าเข้ามาอยู่ในสยามและช่วยปกปักรักษาผืนแผ่นดินแห่งนี้มายาวนานเท่ากับชาวไทยทั้งมวลตั้งแต่สมัยสงครามไทยกับพม่า โอ๊ะป่อยเป็นตลาดเช้าอยู่ติดริมลำธารภาชี เปิดตั้งแต่ 7.00น.-14.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ไฮไลท์ที่ไม่อยากให้พลาดคือ เวลา 7.30น -8.00 น. ใส่บาตรพระสงฆ์ที่ล่องแพไม้ไผ่มาตามลำน้ำภาชี แห่งเดียวในโลกเป็นภาพประเพณีวัฒนธรรมที่สวยงาม และเป็นศิริมงคลแก่ผู้มาเยือน ลำน้ำลำภาชีสายน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ไหลจากทางทิศใต้ขึ้นสู่ทิศเหนือ ในชุมชนที่อุดมไปด้วยเรื่องราวสืบต่อของท้องถิ่นตลาดแห่งนี้เป็นสถานที่ ที่เกิดจากความร่วมมือร่วมใจของผู้ประกอบการ ชุมชน วัด โรงเรียน และภาครัฐท้องถิ่น เราม่งหมายที่รังสรรค์สิ่งที่ดีสุดเพื่อความยั่งยืนแก่ชุมชน ด้วยความรัก เคารพธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม รวมถึงผู้คน ทั้งเจ้าบ้านและผู้มาเยือน ได้พักผ่อน สัมผัสความสุข อิ่มเอมใจ กลับไปพร้อมรอยยิ้ม เมื่อได้มาเยือน ณ ที่แห่งนี้
อย่าพลาดติดตามชมบรรยากาศตลาดโอ๊ะป่อย สวนผึ้ง ออกอากาศวันศุกร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ.2565 เวลา 15.05 น. – 15.30 น. สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ( กดหมายเลข5)
คุณอภิคม แก้วละเอียด (ตูมตาม ) พิธีกรภาคสนามรายการคืนคุณให้แผ่นดินสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก

CR: ศิริพร จงศิริ ผู้อำนวยการใหญ่ผลิตรายการคืนคุณให้แผ่นดิน สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก

Design a site like this with WordPress.com
Get started