นิพนธ์ เดินหน้าแก้ปัญหาความยากจน จัดที่ทำกินให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มุ่งยกระดับสร้างความมั่นคงด้านอาหาร สู่การสร้างสันติสุขอย่างยั่งยืน

นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

วันที่ 24 กรกฎาคม 2565 นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีมอบสมุดประจำตัวแก่ผู้ได้รับการคัดเลือกอนุญาตให้ทำกินในชุมชนตามนโยบายรัฐบาล และคทช. ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเทือกเขารือเสาะ ป่ายี่งอ และป่าบาเจาะ ในท้องที่ตำบลบาเจาะ อำเภอบาเจาะ ตำบลลาโละ ตำบลรือเสาะออก ตำบลสุวารี อำเภอรือเสาะ และตำบลมะรือโบตก อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส โดยมีนายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นายเจ๊ะอามิง โต๊ะตาหยง อดีตส.ส.นราธิวาส พรรคประชาธิปัตย์ ผู้ตรวจราชการกรมที่ดิน เขต 6 เขต 7 เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดนราธิวาส นายอำเภอรือเสาะ นายอำเภอระแงะ นายอำเภอบาเจาะ หัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้เข้าร่วมโครงการฯ ร่วมให้การต้อนรับ ณ โรงเรียนรือเสาะชนูปถัมภ์ อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส พร้อมรับฟังการบรรยายจากเจ้าพนักงานที่ดินและคณะ บรรยายสรุปผลการดำเนินการโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล และคทช.ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ “ป่าเทือกเขารือเสาะ ป่ายี่งอ และป่าบาเจาะนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มท.กล่าวว่า กิจกรรมในวันนี้ เป็นการมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชนในลักษณะแปลงรวมในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติแปลง "ป่าเทือกเขารือเสาะ ป่างอ และป่าบาเจาะท้องที่ตำบลบาเจาะ อำเภอบาเจาะ, ตำบลลาโละ ตำบลรือเสาะออก ตำบลสุวารี อำเภอรือเสาะ และตำบลมะรือโบตก อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส ในวันนี้

โครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน เป็นนโยบายของรัฐบาลและคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ซึ่งมุ่งเน้นการจัดที่ดินทำกินให้ประชาชนผู้ด้อยโอกาสอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม ด้วยการจัดที่ดินในลักษณะแปลงรวมโดยไม่ให้กรรมสิทธิ์ แต่อนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดินของรัฐเป็นกลุ่มหรือชุมชน โดยเล็งเห็นความสำคัญของการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนและแก้ไขปัญหาความยากจนของประชาชน จึงได้มีนโยบายให้แต่ละจังหวัดดำเนินการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนเพื่อให้การบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และพัฒนาศักยภาพการใช้ประโยชน์ในที่ดิน ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
สมดุล เป็นธรรม และยั่งยืน ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และความมั่นคงของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความมั่นคงทางด้านอาหารที่พื้นที่จังหวัดชายแดนใต้มีความอุดมสมบูรณ์และความหลากหลายทางชีวภาพ ที่ต้องมีการผลักดันนโยบายด้านมั่นคงด้านอาหารเป็นนโยบายหลักในการแก้ไขปัญหาความยากจนของประชาชนในพื้นที่ อันนำไปสู่ความสันติสุขอย่างยั้งยืน “จึงขอให้ผู้ที่ได้รับการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติแปลง"ป่าเทือกเขารือเสาะ ป่ายี่งอ และป่าบาเจาะ"

ใช้ประโยชน์ที่ดินของรัฐให้เกิดประโยชน์สูงสุดและร่วมกันดูแลรักษา หวงแหน ที่ดินของรัฐ ตลอดไป ซึ่งพี่น้องประชาชนทุกคนที่ได้รับการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติแปลง “ป่าเทือกเขารือเสาะ ป่ายี่งอ และป่าบาเจาะ”ในวันนี้ หนังสืออนุญาตที่ท่านได้รับจะเป็นหลักประกันว่า ท่านและครอบครัวสามารถทำประโยชน์และอยู่อาศัยในที่ดินของรัฐได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และท่านจะมีความมั่นคงในการถือครองที่ดิน ส่งผลให้มีความมั่นใจในการลงทุนและประกอบกิจการ เป็นโอกาสในการสร้างงาน สร้างรายได้ เพิ่มผลผลิต ยกระดับคุณภาพชีวิตของท่านละครอบครัวให้ดียิ่งขึ้น ดังนั้น เพื่อเป็นการรักษาสิทธิตามกฎหมาย จึงขอให้ท่านได้ศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับข้อกำหนด รวมทั้งเงื่อนไขที่จะต้องถือปฏิบัติที่ปรากฏในสมุดประจำตัวโดยเคร่งครัด” นายนิพนธ์กล่าวทั้งนี้ จังหวัดนราธิวาสได้จัดที่ดินทำกินให้ชุมชนดังนี้ ป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขารือเสาะ ป่ายี่งอ และป่าบาเทะ พื้นที่รวม 732-3-8 ไร่ จำนวน 161ราย 196 แปลง ป่าบองอ อำเภอระแงะ เนื้อที่1,536-2-06ไร่ จำนวน 263 ราย 393 แปลง นิคมสร้างตนเองศรีวาคร ตำบบกาหลง อำเภอศรีสาคร เนื้อที่ 203-1-06 ไร่ จำนวน 62 ราย 62 แปลง และป่าโคกไม้ ตำบลไพรวัน อำเภอตากใบ เนื้อที่ 1,052 ไร่ 2 งาน 80 ตารางวา จำนวน 398 ราย482 แปลง รวมทั้งหมด 3,525-1-00ไร่ 884 ราย 1,133 แปลง

“สื่อ” เมืองตรัง ร้องสมาคมนักหนังสือพิมพ์ หลังถูก สท.”กร่าง” ปัดกล้องและข่มขู่ไม่ให้บันทึกภาพเสนอข่าวการแข่งรถที่ทำให้มีคนตาย

นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

เมื่อวานนี้ ( 23 กรกฎาคม 2565 ) นายทรงวุฒิ นาคพล ผู้สื่อข่าว น.ส.พ.เดลินิวส์ ประจำจังหวัดตรัง และเป็น สตริงเกอร์ ให้กับ สื่อ TV ใน จ.ตรังอีกหลายสำนัก ได้ยื่นหนังสือถึงนายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล นายกสมาคมนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย ( สนพท.) นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย ( สนต.) และ หัวหน้าศูนย์ น.ส.พ.เดลินิวส์ ภาคใต้ตอนล่าง เพื่อขอความเป็นธรรมในกรณีที่ถูก นักการเมืองท้องถิ่น ทำการ ขัดขวาง ข่มขู่ เพื่อมิให้ทำการ ปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชน
โดยในหนังสือร้องเรียนของความเป็นธรรม ระบุว่า เมื่อวันที่ 3 ก.ค. ที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มบุคคลจัดให้มีการแข่งขันรถจักรยานยนต์ในถนนเวียนกระพังสุรินทร์ ในเขตบาลนครตรัง และเกิดอุบัติเหตุโดย จยย.นักแข่งหลุดจากลู่แข่งพุ่งชนผู้ที่กำลังชมการแข่งขันถึงแก่ชีวิต โดยนายทรงวุฒิ ได้รุดไปทำข่าวตามหน้าที่ของผู้สื่อข่าว แต่ได้รับการขัดขวางจากนายนิวัฒน์ จูฮุ้ง ( สท.ปิ๊ก ) ได้ใช้มือปัดกล้องถ่ายภาพเพื่อมิให้มีการบันทึกภาพที่เกิดเหตุ และได้พูดจาข่มขู่ คุกคาม เพื่อมิให้ บันทึกภาพและนำเสนอข่าวที่เกิดขึ้น ซึ่งนายทรงวุฒิได้พยายามอธิบายให้เข้าใจถึงอาชีพของสื่อมวลชน แต่ สท.คนดังกล่าวยังข่มขู่คุกคามจนนายทรงวุฒิ ต้องเดินออกจากสถานที่ดังกล่าวเพื่อความปลอดภัย เพราะ สท.คนดังกล่าว นอกจากจะข่มขู่คุกคามแล้ว ยังเดินประกบติดตัวอยู่ตลอดเวลา
เรื่อง ดังกล่าวเป็นเรื่องของการคุกคามสิทธิเสรีภาพของผู้สื่อข่าว และเป็นการดูหมิ่นเกียรติยศชื่อเสียงและศักดิ์ศรีของสื่อมวลชน ซึ่งหลังที่ถูกคุกคามข่มขู่ ทางเทศบาลนครตรัง ยังไม่มีการดำเนินการใดกับ สท.คนดังกล่าว ที่ทำการข่มขู่คุกคามายทรงวุฒิ แต่อย่าใด เรื่องที่เกิดขึ้นมีประชาชนรู้เห็น และมีการบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งนอกจากนายทรงวุฒิ จะได้ทำหนังสือร้องมายังสมาคมสื่อฯ ทั้ง 2 สมาคมแล้ว ในวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา นายทรงวุฒิ ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนเรื่องดังกล่าวกับนายประเวช ไกรเทพ ประธานสภาเทศบาลนครตรัง เพื่อให้ตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นและดำเนินการกับนายนิวัฒน์ จูฮุ้ง สท. ที่ ข่มขู่คุกคามการทำหน้าที่สื่อมวลชนของตนและหลังจากนี้จะได้รวบรวมหลักฐาน เพื่อแจ้งความดำเนินคดีทางอาญาต่อไป
และในวันเดียวกันนายชัยวุฒิ สวัสดิ์รักษ์ ประธานชมรมตรังต้านโกง พร้อมด้วยนายพรชัย นาคพล กรรมการชมรมฯ และนายทรงวุฒิ นาคพล ได้เดินทางไปยื่นหนังสือกับนายราม วสุธนภิญโญ ผอ.ป.ป.ช.ประจำ จ.ตรัง เพื่อให้มีการตรวจสอบสถานที่ซึ่งใช้ในการแข่งขัยรถจักรยานยนต์ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของเทศบาลนครตรัง ว่ามีการขออนุญาตถูกต้องหรือไม่ และมีการเอื้อประโยชน์ให้กับ กลุ่มคน หรือบุคคลหนึ่งบุลคนใดหรือไม่
นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล นายกสมาคมนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย,นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย และ หัวหน้าศูนย์ข่าว น.ส.พ. เดลินิวส์ภาคใต้ตอนล่าง เปิดเผยว่า กรณีนี้ สมาคมฯจะได้ดำเนินการสอบหาข้อเท็จจริง เพื่อที่จะได้ดำเนินการต่อไป

พล.ต.ท.สำราญ ผบช.น. และ รอง ผบช.น. พร้อมด้วย ผบก.น.2, ตรวจเยี่ยมและมอบสิ่งของเครื่องใช้ ในโครงการ “ครอบครัวตำรวจ เราไม่ทิ้งกัน”

วันนี้ 23 ก.ค. 65 เวลา 13.00 - 15.30 น. กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. พล.ต.ต.สำเริง สวนทอง รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2, พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ ผบก.น.5, ผู้แทน สน.วัดพระยาไกร,สน.ดอนเมือง,สน.สุทธิสาร,กก.สายตรวจ บก.สปพ.และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมจัดกิจกรรมการให้ความช่วยเหลือข้าราชการตำรวจและครอบครัวเพื่อเป็นการบำรุงขวัญและกำลังใจให้แก่ข้าราชการตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล ตามโครงการ ครอบครัวตำรวจ เราไม่ทิ้งกัน โดยได้เดินทางไปเยี่ยมและมอบสิ่งของเครื่องใช้ให้แก่

  1. ร.ต.อ.สันชาติ วันชัย รอง สวป.สน.วัดพระยาไกร ณ แฟลต สน.วัดพระยาไกร
  2. ส.ต.อ.พิศิษฐ์ วงศ์มีบุญ ผบ.หมู่ (ป) สน.สุทธิสาร ณ แฟลตซอยสบายใจ สน.สุทธิสาร
  3. นายธนศักดิ์ บุญสม บุตร ร.ต.ต.เสน่ห์ บุญสม รอง สว.(ป) งานสายตรวจ 3 กก.สายตรวจ บก.สปพ. ณ บ้านพัก บก.สปพ.
  4. ร.ต.อ.วุฒิ ไตรยวงศ์ รอง สว.จร.สน.ดอนเมือง ณ หมู่บ้านกฤษณา อ.เมือง จ.ปทุมธานี

วันที่ 23 ก.ค.65 เวลา 13.00 น พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. ตรวจเยี่ยม มอบถุงยังชีพ พร้อมกับรถเข็ญให้กับร.ต.อ.สันชาติ วันชัย
ผู้ป่วยติดเตียงตามโครงการ ครอบครัวตำรวจ เราไม่ทิ้งกัน ณ แฟลต สน.วัดพระยาไกร

วันที่ 23 ก.ค.65 เวลา 13.40 น พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. ตรวจเยี่ยม มอบถุงยังชีพ อุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับผู้ป่วย ให้กับส.ต.อ.พิศิษฐ์ วงศ์มีบุญ ผู้ป่วยติดเตียงตามโครงการ ครอบครัวตำรวจ เราไม่ทิ้งกัน ณ แฟลต สน.สุทธิสาร

วันที่ 23 ก.ค.65 เวลา 13.40 น พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. ตรวจเยี่ยม มอบถุงยังชีพ อุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับผู้ป่วย ให้กับ
นายธนศักดิ์ บุญสม บุตรของ ร.ต.ต.เสน่ห์ บุญสม รอง สว.(ป)
งานสายตรวจ 3 กก.สายตรวจ ผู้ป่วยติดเตียงตามโครงการ ครอบครัวตำรวจ เราไม่ทิ้งกัน
ณ แฟลต บ้านไม้ กก.สายตรวจ บก.สปพ.

วันที่ 23 ก.ค.65 เวลา 14.30 น พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. ตรวจเยี่ยม มอบถุงยังชีพ อุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับผู้ป่วย พร้อมก้วยรถเข็ญให้กับ ร.ต.อ.วุฒิ ไตรยวงศ์ รอง สว.จร.สน.ดอนเดือง ผู้ป่วยติดเตียงตามโครงการ ครอบครัวตำรวจ เราไม่ทิ้งกัน ณ หมู่บ้านกฤษณา ติวานนท์

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.(ปป.1) ประธานกรรมการประเมินโครงการ Smart Safety Zone 4.0 ตรวจเยี่ยมพื้นที่

วันที่ 23 ก.ค. 65 เวลา 12.30 น. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร.(ปป.1) ประธานกรรมการประเมินโครงการ Smart Safety Zone 4.0 พร้อมด้วย พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบช.ภ.1 ,พ.ต.อ.กัมพล รัตนประทีป รอง ผบก.ภ.จว.พิจิตร,พร้อมคณะกรรมการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเดินทางมาตรวจเยี่ยมพื้นที่ดำเนินการโครงการ Smart Safety Zone 4.0 สภ.เมืองสุโขทัย ซึ่งเป็นโรงพักนำร่อง หนึ่งในร้อยสถานีตำรวจ เฟสที่ 2 ตามโครงการนี้ ตลอดจนติดตามความคืบหน้า ในการใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการป้องกันอาชญากรรม เพื่อให้การป้องกันอาชญากรรมในโครงการดังกล่าวมีให้ประสิทธิภาพสูงสุด โดยมี พล.ต.ต.อมรศักดิ์ เกษมก์สิริ ผบก.ภ.จว.สุโขทัย , พ.ต.อ.ไสว ครุธผาสุข รอง ผบก.ภ.จว.สุโขทัย พ.ต.อ.ไพบูลย์ กาศอุดม ผกก.สภ.เมืองสุโขทัย และภาคีเครือข่ายป้องกันอาชญากรรม (Big 6) ในพื้นที่ตามโครงการ Smart Safety Zone 4.0 ให้การต้อนรับ ดังนี้

  1. นายไพรัช กิ่งก้าน สมาชิกสภาเทศบาลเขต3 เทศบาลเมืองสุโขทัยธานี/องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
    2.นายสุรพล อังคศิริจินดา ผู้ทรงคุณวุฒิเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี/องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
    3.นายปริญา ตังคณานุกูลชัย ปลัดอำเภอเมืองสุโขทัย/หน่วยงานภาครัฐ
    4.นายวีระ บัวนุ่ม รอง ผอ.วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุโขทัย/หน่วยงานภาครัฐ
    5.นางนุศรา บุญผล กำนันตำบลยางซ้าย/หน่วยงานภาครัฐ
    6.นายสันติ แซ่ตั้ง ผู้ประกอบการธุรกิจ/ภาคประชาชน
    7.นายสมคิด เดชชุษณะนาถ ผู้ประกอบการธุรกิจ/ภาคประชาชน
    8.นายสุรพล อังคศิริจินดา เจ้าของกิจการปั๊มคอลเทกซ์/ภาคธุรกิจ
    9.นายสังเวียน คำรุณ เจ้าของกิจการอารยาเพิ่มพูน/ภาคธุรกิจ
    10.นายชัชวาล พรอำนวยทรัพย์ สื่อมวลชน

พร้อมรับฟังบรรยายสรุปผลการดำเนินการโครงการ และชมวิดิทัศน์การปฏิบัติการที่สำคัญในโครงการ สำหรับที่มาของโครงการ โครงการ Smart safety zone 4.0 เป็นโครงการอนุมัติของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตามรายงานการประชุมขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยมุ่นเน้นในการป้องกันอาชญากรรมเชิงรุก ที่ต้องการให้ประชาชนได้รับความปลอดภัย ไม่หวาดกลัวภัยอาชญากรรม เกิดความพึงพอใจ และเกิดความเชื่อมั่นต่อตำรวจ โดยพลตำรวจเอก สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้มอบหมายให้ พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดำเนินโครงการและได้รับรางวัลประเภทการลดอาชญากรรม ด้านประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการตำรวจชุมชน จากเวทีประชุม สุดยอดตำรวจโลก หรือ เวิร์ล โพลิศ ซัมมิท ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรต

สภ.เมืองสุโขทัย เป็นหนึ่งในสถานีตำรวจนำร่อง จากสถานีตำรวจนำร่อง 100 สถานี ทั่วประเทศ ภายใต้การดำเนินงานของ สภ.เมืองสุโขทัย นำโดย พล.ต.ต.อมรศักดิ์ เกษมก์สิริ ผบก.ภ.จว.สุโขทัย, พ.ต.อ.ไสว ครุธผาสุข รอง ผบก.ภ.จว.สุโขทัย ร่วมกับ พ.ต.อ.ไพบูลย์ กาศอุดม ผกก.สภ.เมืองสุโขทัย , พ.ต.ท.ลักษณ์ รัตนถาวร รอง ผกก.ป.สภ.เมืองสุโขทัย

สภ.เมืองสุโขทัย ได้จัดการประชุมกับภาคีเครือข่ายและจัดทำแบบสำรวจประชาชนในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี จนได้คัดเลือกพื้นที่ดำเนินโครงการ Smart Safety Zone 4.0 ซึ่งมีความสำคัญในทุกมิติ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลธานี อ.เมือง จ.สุโขทัย เนื้อที่ 0.69 ตร.กม. ประกอบด้วย 3 ชุมชน ได้แก่ 1.ชุมชนราชธานี ประชากร 655 คน 2.ชุมชนประชาร่วมใจ ประชากร 665 คน 3.ชุมชนวิเชียรจำนงค์ ประชากร 680 คน รวม ประชากรประมาณ 2,000 คน
สถานที่สำคัญในเขต Smart Safety Zone 4.0 สภ.เมืองสุโขทัย

  1. โรงเรียน 3 แห่ง
  2. ตลาด 2 แห่ง (ตลาดสดเทศบาล)
  3. ร้านทอง 8 แห่ง
  4. ธนาคาร 2 แห่ง
  5. ส่วนราชการ 2 แห่ง
  6. โรงแรม/ที่พัก 4 แห่ง
  7. วัด 1 แห่ง สภ.เมืองสุโขทัย ได้ดำเนินการตามโครงการ Smart Safety Zone 4.0 โดยนำนวัตกรรมเทคโนโลยีสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้ในการป้องกันเหตุอาชญากรรมในพื้นที่โครงการ ดังนี้
  8. จัดตั้งห้องศูนย์ปฏิบัติการควบคุมสั่งการ ccoc ประกอบด้วยระบบวิทยุสื่อสาร ,ระบบ Police I Lert U , ระบบ crimes , ระบบ Polce 4.0 , กล้อง license plate และจอแสดงพิกัดของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่
  9. มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย ประจำห้อง CCOC ตลอด 24 ชั่วโมง
  10. มีการเชื่อมโยงกล้อง CCTV จากภาครัฐ และภาคเอกชน มายังห้อง CCOC
  11. มีสายตรวจโดรนสำหรับ สังเกตการณ์ และสกัดจับคนร้าย
  12. มีระบบรับแจ้งเหตุฉุกเฉินผ่านทาง QR-CODE ในรูปแบบวิดีโอคอล
  13. การรับแจ้งเหตุผ่าน Application Police I lert you และ LINE OA
  14. ตู้แดง QR Code สแกนผ่าน Application Police 4.0 สภ.เมืองสุโขทัย ร่วมบูรณาการการทำงานระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และ Big 6 เป็นประจำ โดยมีการจัดการประชุมคณะกรรมการ Big6 ทุกเดือน และ มีการลงพื้นที่พบปะประชาชนเพื่อ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและสอบถามความต้องการของประชาชน ดำเนินการแก้ไขจุดเสี่ยงจุดล่อแหลมต่างๆ ในพื้นที่โครงการฯ เช่น การประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดไฟฟ้าส่องสว่าง, การติดตั้งกล้อง CCTV , การติดตั้งจุดตรวจตู้แดง QR-CODE ,การทำกิจกรรมปรับภูมิทัศน์ พื้นที่ในโครงการเป็นประจำ เป็นต้น การประชาสัมพันธ์โครงการ Smart Safety Zone 4.0 ทั้งออฟไลน์ และออนไลน์มีดังนี้
  15. การแจกแผ่นพับประชาสัมพันธ์โครงการ
  16. การแจกสติ๊กเกอร์ประชาสัมพันธ์โครงการ พร้อมป้าย QR-CODE รับแจ้งเหตุฉุกเฉินผ่านวิดีโอคอล
  17. ประชาสัมพันธ์ผ่านป้ายติดรถกระจายเสียง
  18. ประชาสัมพันธ์ผ่านป้ายไวนิลโครงการ และป้ายขนาดใหญ่บริเวณหน้าสถานีตำรวจ
  19. ประชาสัมพันธ์ ผ่าน Application facebook สภ.เมืองสุโขทัย
  20. ประชาสัมพันธ์ ผ่านApplication Instagram สภ.เมืองเมืองสุโขทัย
  21. ประชาสัมพันธ์ ผ่านApplication tiktok สภ.เมืองสุโขทัย
    6.ประชาสัมพันธ์ ผ่าน Application YouTube สภ.เมืองสุโขทัย
  22. ประชาสัมพันธ์ ผ่านกลุ่มไลน์ภาคประชาชนในพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ
  23. ประชาสัมพันธ์ผ่านสถานีวิทยุท้องถิ่นและวิทยุกระจายเสียงในชุมชน
  24. ประชาสัมพันธ์ผ่านหนังสือพิมพ์ออนไลน์
    10.ประชาสัมพันธ์ผ่านการบรรยายโครงการในสถานศึกษา จากการสำรวจความหวาดกลัวและความเชื่อมั่น หรือ People pole Smart Safety Zone4.0 สภ.เมืองสุโขทัย ประชาชนในพื้นที่โครงการฯ ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2564 ถึง เดือนมิถุนายน 2565
  25. ระดับความหวาดกลัวภัยอาชญากรรมของประชาชนมีสถิติที่ลดลงเรื่อยๆในแต่ละเดือน ผ่านตัวชี้วัด ที่ ตร.กำหนดน้อยกว่าร้อยละ 40% ลงมา
  26. ระดับความพึงพอใจต่อความเชื่อมั่นของประชาชนต่อการทำงานของตำรวจมีสถิติที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละเดือนผ่านตามตัวชี้วัดที่ ตร. กำหนดมากกว่าร้อยละ 80% ขึ้นไป

ชุดสืบสวนงานสายตรวจ 3 ร่วมจับกุม “ยาและปืน”


วันที่ 22 กรกฏคม 2565 เวลาประมาณ 11.00 น.
ภายใต้การอำนวยการของพล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว ผบก.สปพ., พ.ต.อ.ภานพ วรธนัชชกุล,พ.ต.อ.ประสงค์ อานมณี, พ.ต.อ.ชัยกฤต โพธิ์อ๊ะ, พ.ต.อ.โรจนินทร์ ทองใบ, พ.ต.อ.พิทักษ์ สุทธิกุล, พ.ต.อ.ศุภวัช ปานแดง,พ.ต.อ.กรกฎ โปชยะวณิช รอง ผบก.สปพ., พ.ต.อ.เด่นหล้า รัตนกิจ ผกก.สายตรวจ, พ.ต.ท.นิพนธ์ นิธิการุณย์เลิศ, พ.ต.ท.จักริน พิริยะจิตตะ, พ.ต.ท.โชติช่วง รัศมี, พ.ต.ท.คงศักดิ์ ศรีโหร รอง ผกก.สายตรวจฯ, พ.ต.ต.พุฒิพัฒน์ โกยมวงษ์เจริญ สว.งานสายตรวจ 3 ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจงานสายตรวจ ๓ ร่วมจับกุม

  1. นายวรรณชนะ หรือนะ เกิดน้อย อายุ 31 ปี
    บ้านเลขที่ 64/3 ม.5 ต.บางพลับ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
    ตามหมายค้นศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 678/2565
    ลงวันที่ 20 กรกฎาคม 2565

พร้อมด้วยของกลาง
1.อาวุธปืนสั้นไทยประดิษฐ์ ขนาด .380 จำนวน 1
กระบอก
2.ซองบรรจุกระสุน ขนาด .380 จำนวน 1 ซอง
3.ลูกกระสูนปืน ขนาด .380 จำนวน 20 นัด
4.ยาบ้า จำนวน 310 เม็ด

โดยกล่าวหาว่า
1.มีอาวุธปืนสั้นไทยประดิษฐ์ไว้ในครวามครอบครองโดยผิดกฏหมาย
2.มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า)ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย

สถานที่จับกุม บ้านเลขที่ 64/3 ต.บางพลับ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

นำผู้ต้องหาส่ง พงส.สภ.ราชพฤกษ์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ชุดสืบสวนหาข่าว งานสายตรวจ 3 จับกุมตัวผู้กระทำความผิดฐาน “ผลิตอาวุธปืน(ไทยประดิษฐ์)


วันนี้ ( 22 กรกฎาคม 2565) เวลาประมาณ 08.30 น.
ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว ผบก.สปพ., พ.ต.อ.ภานพ วรธนัชชากุล,พ.ต.อ.ประสงค์ อานมณี, พ.ต.อ.ชัยกฤต โพธิ์อ๊ะ, พ.ต.อ.โรจนินทร์ ทองใบ, พ.ต.อ.พิทักษ์ สุทธิกุล, พ.ต.อ.ศุภวัช ปานแดง,พ.ต.อ.กรกฎ โปขยะวณิช รอง ผบก.สปพ., พ.ต.อ.เด่นหล้า รัตนกิจ ผกก.สายตรวจ, พ.ต.ท.นิพนธ์ นิธิการุณย์เลิศ, พ.ต.ท.จักริน พิริยะจิตตะ, พ.ต.ท.โชติช่วง รัศมี, พ.ต.ท.คงศักดิ์ ศรีโหร รอง ผกก.สายตรวจฯ, พ.ต.ต.พุฒิพัฒน์ โกยมวงษ์เจริญ สว. งานสายตรวจ 3 ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจงานสายตรวจ 3

ได้ร่วมกันทำการจับกุมตัว
พระวรรนพ เริงใจ อายุ 56 ปี หมายเลขประจำตัว 3-1401-00052-12-0 บ้านเลขที่ 8 หมู่ 1 ต.โคกม่วง อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา (ผู้ต้องหา)

ตามหมายค้น ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ 92/2565 ลงวันที่ 18 กรกฎาคม 2565

โดยต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ผลิตอาวุธปืน(ไทยประดิษฐ์)โดยไม่ได้รับอนุญาตและมีอาวุธปืน(ไทยประดิษฐ์) และเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”

พร้อมด้วยของกลาง
1.ปืนไทยประดิษฐ์ ขนาด .380 พร้อมแม็กกาซีน จำนวน 1 กระบอก (ข้างในกุฎิ)
2.แม๊กกาซีนปืน จำนงย 3 แม็ก (ข้างในกุฎิ)
3.โครงปืนลูกโม่ จำนวน 1 โครง (ข้างในกุฎิ)
4.โครงปืน บีบีกัน จำนวน 1 โครง (ข้างในกุฎิ)
5.ลำกล้องปืนดัดแปลงขนาด 11 มม. จำนวน 2 ลำ (ข้างในกุฎิ)
6.ลูกกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 9 ลูก (ข้างในกุฎิ)
7.ปืนยิงปลา จำนวน 1 กระบอก (ข้างในกุฎิ)
8.ศรยิงปลา จำนวน 1 ศร (ข้างในกุฎิ)
9.โครงปืนยิงปลา จำนวน 2 โครง (ข้างในกุฎิ)
10.อะไหล่ปืนยิงปลา จำนวน 1 ตะกร้า (ข้างในกุฎิ)
10.ปืนลมลูกเบอร์ 8 จำนวน 1 กระบอก (ข้างในกุฎิ)
11.ลูกปืนลมเบอร์ 8 จำนวน 1 กล่อง (ข้างในกุฎิ)
12.ซองปืนพก จำนวน 2 ซอง (ข้างในกุฎิ)
13.ลูกกระสุนแบงค์กัน จำนวน 1 กล่อง (ข้างในกุฎิ)
14.ลูกดอกยิงปลา จำนวน 5 ลูก (ข้างในกุฎิ)
15.กระสุนขนาด .22 จำนวน 1 นัด (ข้างในกุฎิ)
16.ปืนไทยประดิษขนาด.22 จำนวน 1 กระบอก (หน้ากุฎิ)
17.กระสุนขนาด .22 จำนวน 1 นัด (หน้ากุฎิ)
18.โครงปืนไทยประดิษ จำนวน 1 โครง (หน้ากุฎิ)
19.แท่นจับงาน จำนวน 1 แท่น พร้อมโม่ปืน จำนวน ๑ โม่ (อยู่บนแท่นจับ) (หน้ากุฎิ)
20.สว่านเจาะไฟฟ้า จำนวน 3 เครื่อง (หน้ากุฎิ)
21.ค้อนเหล็ก 1 ด้าม (หน้ากุฎิ)
22 .คีมจับ 1 อัน (หน้ากุฎิ)

สถานที่เกิดเหตุ/จับกุม บริเวณชั้น 2 ของกุฎิ วัดโคกม่วง ต.โคกม่วง อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา

นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

โครงการธนาคารสัตว์น้ำผลผลิตแบบมีส่วนร่วม

เบาะแสอาชญากรรม ศูนย์ข่าวจังหวัดมุดาหาร
อำเภอดอตตาล

เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2565
เวลา .11.30 น.
นายชาคริต ชุมจันทร์ท นายอำเภอดอนตาล มอบหมายให้ นายเกียรติศักดิ์ คำปาน ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงาน
บริหารงานปกครอง เป็นประธานในกิจกรรม ถ่ายทอดความรู้ให้แก่เยาวชนเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ ภายใต้โครงการธนาคารผลผลิตสัตว์น้ำแบบมีส่วนร่วม ประจำปีงบประมาณ 2565 โดยมีเป้าหมายเป็นเยาวชนจากโรงเรียนบ้านภูผาหอมพัฒนา จำนวน 30 คน ซึ่งดำเนินการโดยสำนักงานประมงจังหวัดมุกดาหาร และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดมุกดาหาร ร่วมกับคณะกรรมการแหล่งน้ำธนาคารห้วยถ้ำมด
ณ ศาลาริมอ่างเก็บน้ำห้วยถ้ำมด บ้านภูผาหอม ตำบลนาสะเม็ง อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร
ภาพ ข่าวโดย สุดารัตน์ คนไว
เหยี่ยวขาวพญายม หน
เบาะแสอาชญากรรม มห รายงาน

พิธีเปิดการอบรม ทบทวน และจัดตั้ง ชรบ ตำบลบ้านบาก อำแภอดอนตาล ตามโครงการฝึกอบรมและทบทวน ชรบ.

เบาะแสอาชญากรรม
ศูนย์ข่าวจังหวัดมุกดาหาร อำเภอดอนตาล
เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2565
เวลา 09.00 น.
นายชาคริต ชุมจันทร์ นายอำเภอดอนตาล มอบหมายให้ นายเกียรติศักดิ์ คำปาน ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครองและ นายเอกพงษ์ ขวานคร ปลัดอำเภอหัวฝ่ายความมั่นคง อำดอนตาล จังหว้ดมุกดาหาร เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรม ทบทวน และจัดตั้ง ชรบ ตำบลบ้านบาก อำแภอดอนตาล ตามโครงการฝึกอบรมและ
ทบทวน ชรบ. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 งบบูรณาการจังหวัดมุกดาหาร
CEO โดยมี ชรบ.จากตำบลบ้านบาก เข้าร่วมอบรมจำนวน 84 คน เพื่อทำการฝึกภาคสนาม ให้กับสมาชิก ชรบ และทบทวนทักษะ การใช้อาวุธและยุทธวิธีการป้องกันตัว เพื่อใช้ในยามเวลามีเหตุการณ์ ในพื้นที่หมู่บ้านและชุมชน
ณ ศาลาประชาคม ตำบลบ้านบาก อำเภอดอนตาล
จังหวัดมุกดาหาร ภาพข่าวโดย สุวิทย์ โพธิรัชต์ สุดารันต์ คนไว เหยี่ยวข่าวพญายม หน เบาะแส อาชญากรรม มห รายงาน

พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย รอง ผบช.ภ.1, และ ผบก.ภ.จว.ในสังกัด ภ.1 ร่วมพิธีปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม

วันนี้ (วันศุกร์ที่ 22 ก.ค.65) เวลา 16.00 น. พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.โชคชัย เหลืองอ่อน รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบช.ภ.1 และ ผบก.ภ.จว.ในสังกัด ภ.1 ร่วมพิธีปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมช่วงวันหยุดต่อเนื่อง ในพื้นที่ ภ.1 ห้วงระหว่างวันที่ 22 ก.ค.65 – 5 ส.ค.65
เนื่องจาก รัฐบาลได้ประกาศให้มีวันหยุดราชการติดต่อกันหลายวัน ซึ่งอาจเป็นช่องทางให้คนร้ายอาศัยช่วงวันหยุดยาว ก่ออาชญากรรมขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นอาชญากรรมที่เกี่ยวกับชีวิต ร่างกาย เพศ ทรัพย์สิน อาชญากรรมประเภทต่างๆ รวมถึงการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน และยาเสพติด เพื่อให้การป้องกันปราบปรามอาชญากรรมดังกล่าว เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและบังเกิดผลเป็นรูปธรรม อีกทั้ง เป็นการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบถึงนโยบาย แนวทางการปฏิบัติในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมในพื้นที่ ภ.1 จึงกำหนดให้ระดมกวาดล้างอาชญากรรมห้วงระหว่างวันที่ 22 กรกฎาคม ถึงวันที่ 5 สิงหาคม 2565 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความปลอดภัย ลดปัญหาความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และการก่อความไม่สงบเรียบร้อยที่อาจเกิดขึ้นในช่วงวันหยุดยาวและต่อเนื่องนี้
โดยมี รอง ผบก.ที่รับผิดชอบงาน และข้าราชการตำรวจในสังกัด รวมจำนวน 230 นาย รถยนต์สายตรวจและรถยนต์ปฏิบัติการพิเศษ 13 คัน รถจักรยานยนต์ 50 คัน ร่วมพิธีฯ ณ ลานปราบไพรีอริศัตรูพ่าย ภ.1

“กระทรวงเกษตรฯ”จับมือ”หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย”ตั้งกลไกใหม่”กรกห.”


ขับเคลื่อนเกษตรมูลค่าสูงเพื่อยกระดับเศรษฐกิจไทย
ให้เติบโตอย่างยั่งยืนสู่เป้าหมายประเทศมหาอำนาจอาหารภายในปี 2030
นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรละสหกรณ์ พร้อมด้วย นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการบริหารประชุมหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเรื่องความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับหอการค้าและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมด้วยในวันนี้ ณ ห้องประชุม อาคารบรรเจิดชลวิจารณ์ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวถึงวิสัยทัศน์และเป้าหมายการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและการลดความเหลื่อมล้ำด้วย3แนวทางการ(3 Value Chains)คือการค้า&การลงทุน เกษตร&อาหารและท่องเที่ยว&บริการเพื่อขับเคลื่อนBCGและESG Modelเพื่อธุรกิจที่ยั่งยืนภายใต้การขับเคลื่อนของ29คณะกรรมการยุทธศาสตร์12คณะทำงานโดยโครงสร้างเครือข่ายได้แก่ หอการค้า76จังหวัด สมาคมการค้า144สมาคม หอการค้าต่างประเทศ40ประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าและYECรวมสมาชิก114,849รายซึ่งหอการค้าทำหน้าที่เชื่อมโยงการทำงานระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชนเพื่อยกระดับเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน
พร้อมกันนั้น รองประธานหอการค้า ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ นายชูศักดิ์ ชื่นประโยชน์ นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา และดร.ขนินทร์ ชริศราพงษ์ กก.บห. รวมทั้งนส.ณัฏฐ์รดา คุณะวิวัฒนานนท์ นายกสมาคมกาแฟพิเศษไทยนำเสนอประเด็นการหารือ

  1. การปฏิรูปเศรษฐกิจด้วยการสร้างเกษตรมูลค่าสูง
  2. การเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพงาน APEC 2022
  3. การสร้างมูลค่าสินค้าเกษตรด้วยการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหารแห่งอนาคต
  4. การส่งเสริมและพัฒนาปศุสัตว์ไทย (โคเนื้อ)
  5. การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยง (PET Foods)
    ทางด้านนายอลงกรณ์ ได้กล่าวถึง 5 ยุทธศาสตร์การบริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้แก่ 1.การตลาดนำการผลิต 2.ยุทธศาสตร์เทคโนโลยีเกษตร 4.0 3.นโยบาย 3s Safety Security and Sustainability เกษตรปลอดภัย เกษตรมั่นคง และเกษตรยั่งยืน 4.ยุทธศาสตร์เชิงรุกสร้างการบูรณาการระหว่างหน่วยงานองค์กรภาคีเครือข่าย และ5.ยุทธศาสตร์เกษตรกรรมยั่งยืนตามแนวทางศาสตร์พระราชา เพื่อปฏิรูปภาคเกษตรกรรมสู่เกษตรมูลค่าสูง ทั้งนี้ความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กับหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยจะมีบทบาทสำคัญในการเดินหน้าสู่เป้าหมายประเทศส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารท็อปเทน
    ของโลกและมหาอำนาจอาหารภายในปี2030 พร้อมกับเสนอกลไกความร่วมมือในรูปคณะกรรมการความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กับหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย หริอ กร.กห. เช่นเดียวกับที่ได้จัดตั้งกรกอ.คือคณะกรรมการความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
    โดยนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานหอการค้าฯ.ได้แสดงความเห็นด้วยและยินดีที่จะร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติโดยรวมต่อไป
    นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้รับทราบถึงประเด็นความร่วมมืออื่นๆเช่น การอำนวยความสะดวกทางการค้าและการพัฒนา NSW (Trade & Services4.0) ,มาตรการสุขอนามัยSPS และมาตรการปกป้องทางการค้า , การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างกัน ,โครงการ The Brand Projectสู่เกษตรมูลค่าสูง ,โครงการพัฒนาตลาดและร้านค้าเกษตรออนไลน์และออฟไลน์ ,โครงการพัฒนาตลาดกลางสินค้าเกษตร ,โครงการส่งเสริมระบบประมูลสินค้าเกษตร ,โครงการพัฒนาระบบความเย็น (Cold Chain) , โครงการ GMP plus ,โครงการเกษตรกรรมยั่งยืนในเมืองและชนบท ,โครงการพัฒนาโลจิสติกส์การค้า , ความร่วมมือด้านมาตรฐานการผลิตสินค้าเกษตร , การสนับสนุนการค้าและการกระจายผลไม้และสินค้าเกษตรเช่นการรับซื้อผลผลิตทางการเกษตรและช่องทางการตลาดทั้งในและต่างประเทศ , การพัฒนาแรงงานและการส่งเสริมการศึกษาภาคเกษตรโดยมหาวิทยาลัยหอการค้า , การผนึกความร่วมมือระหว่างเครือข่ายเกษตรกรรุ่นใหม่(YSF)กับนักธุรกิจรุ่นใหม่(YEC)ตลอดจนการสนับสนุนการขับเคลื่อนศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม(ศูนย์AIC)77จังหวัดและศูนย์ความเป็นเลิศ23ศูนย์ซึ่งมีหน้าที่วิจัยและพัฒนาถ่ายทอดเทคโนโลยีเกษตร ซึ่งมีหอการค้าจังหวัดเป็นกรรมการบอร์ดAICเพื่อต่อยอดการพัฒนาธุรกิจเกษตรเช่นสตาร์ทอัพเกษตรและเอาเอ็มอี.เกษตรในแต่ละจังหวัด เป็นต้น
    ซึ่งในการประชุมครั้งนี้มีผู้แทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อาทิ ดร. ดาเรศร์ กิตติโยภาส คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายยงวุฒิ เสาวพฤกษ์ ประธานอนุกรรมการส่งเสริมอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร นายโฆสิต สุวินิจจิต ประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนธุรกิจเกษตร (Agribusiness) น.ส.วนิดา กำเนิดเพ็ชร์ ผู้อำนวยการสำนักการเกษตรต่างประเทศ นางอนงค์ ไพจิตรประภาภรณ์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรมและผู้แทนกรมส่งเสริมการเกษตร ผู้แทนสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร และผู้แทนสำนักแผนงานและโครงการพิเศษ สป.กษ. เข้าร่วมด้วย.
Design a site like this with WordPress.com
Get started