“จเรฯหิน”รุดขอบคุณผู้ว่าฯชัชชาติ ปลูกต้นไม้บริเวณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมเชิญ ชวน ตำรวจ ร่วมโครงการปลูก ต้นไม้ 1000.ต้น

เมื่อวันที่ 13 ก.ค.2565 ที่บริเวณถนนอังรีดูนังต์ สามแยกเฉลิมเผ่า ปทุมวัน กรุงเทพมหานคร นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานรับมอบและร่วมปลูกต้นไม้ จากกลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ โดยมี พรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาผู้ว่ากรุงเทพมหานคร,และร่วมปลูกต้นไม้ กลางเกาะกลาง รอบๆบริเวณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ซึ่งขณะที่ผู้ว่าฯ กทม. กำลังร่วมกิจกรรมรับมอบและปลูกต้นไม้ พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจ (จตช.)ได้ทราบจากสื่อมวลชนประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมทั้งสอบถามจากผู้ใต้บังคับบัญชา จึงสั่งใหันายตำรวจติดตามนำ น้ำดื่ม พร้อมกับได้เดินออกจากสำนักงาน ไปพบ ผู้ว่าฯ กทม. โดยกล่าวขอบคุณที่มาปลูกต้นไม้ให้บริเวณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยขณะที่ พล.ต.อ.วิสนุ กล่าวทักทาย ผู้ว่าฯ กทม.พร้อมได้มอบน้ำดื่มให้กับผู้ว่าฯ ด้าน นายชัชชาติ ได้กล่าวทักทาย ว่า ” สวัสดีครับ ท่านว่าที่ ผบ.ตร. “ซึ่งทำให้บรรยากาศเป็นชื่นมื่น พร้อมทั้งได้เชิญ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วม โครงการปลูกต้นไม้ ซึ่งทาง พล.ต.อ.วิสนุ ก็ได้รับปากว่าจะนำไปหารือกับ ผบ.ตร. ต่อไป จากนั้นก็พูดคุยกันด้วยบรรยากาศที่ยิ้มแย้ม แล้ว จตช.ก็ได้เชิญผู้ว่าฯชัชชาติเพื่อรับประทานอาหารมื้อเที่ยง และพูดคุยถึงโครงการดังกล่าว และเดินทางกลับ สำนักงาน ซึ่งเวลาต่อมาภายหลังเสร็จภาระกิจ ผู้ว่าฯได้เดินทางพบ จตช.ที่สำนักงานภายใน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

สำหรับการปลูกต้นไม้ 1,000 ต้นในแคมเปญปลูกต้นไม้ล้านต้นของ กรุงเทพมหานคร นั้นทาง
สยามดิสคัฟเวอรี่ ดิเอ็กซ์พลอราทอเรียม จัดงาน “Siam Discovery presents Earth Discovery”พลังจากทุกคน เพื่อเราเพื่อโลก โดยเชิญชวนผู้สนใจร่วมในกิจกรรมเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่องหนึ่งในกิจกรรมที่สยามดิสคัฟเวอรี่ได้จัดทำเพื่อเปิดโอกาสให้ลูกค้ามีส่วนร่วม คือ การปลูกต้นไม้ ร่วมกับกรุงเทพมหานคร ตามนโยบายปลูกต้นไม้ล้านต้น เพื่อเป็นการเติมพื้นที่สีเขียวให้กับเขตปทุมวัน โดยได้รับเกียรติจาก นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานรับมอบและร่วมปลูกต้นไม้ จากกลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ โดยมี พรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาผู้ว่ากรุงเทพมหานคร,นราทิพย์ รัตตประดิษฐ์ ประธานบริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด และพนักงานกลุ่มบริษัทสยามพิวรรธณ์ พร้อมด้วยมาศวัลย์ ปิ่นสุวรรณ ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน,ประจวบ น้อยอามาตย์ รองผู้อำนวยการเขตปทุมวัน, ศศิธร เจริญสุข รองผู้อำนวยการเขตปทุมวันร่วมปลูกต้นไม้ ณ บริเวณถนนอังรีดูนังต์ เมื่อวันอังคารที่ 12 กรกฎาคม 2565

ทั้งนี้สยามดิสคัฟเวอรี่ ดิเอ็กซ์พลอราทอเรี่ยม นำทีมมอบต้นไม้ 1,000 ต้น ให้กับกรุงเทพมหานคร ตามนโยบายปลูกต้นไม้ล้านต้น เพื่อเป็นการเติมพื้นที่สีเขียวให้กับเขตปทุมวัน สร้างความร่มรื่น สร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กรุงเทพมหานคร โดยต้นไม้ที่นำมอบให้กับกรุงเทพมหานคร คือ ต้นประดู่ป่า,ต้นหางนกยูงไทย, ต้นทองอุไร และต้นไผ่ โดยผู้ว่ากรุงเทพมหานคร และผู้บริหารสยามพิวรรธน์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ต่างร่วมใจกันปลูกต้นไม้อย่างแข็งข้น และเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขที่ทุกคนได้ร่วมสร้างพื้นที่เติมเต็มสีเขียวให้กับกรุงเทพมหานคร ที่ผ่านมา สยามพิวรรธน์ มีนโยบายและแนวปฏิบัติในเรื่องการดูแลรักษาและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในทุกๆ พื้นที่ที่ได้เข้าไปดำเนินธุรกิจ สร้างความสมดุลในด้านต่างๆ โดยเฉพาะด้านทรัพยากรธรรมชาติและ
สิ่งแวดล้อม การใช้พื้นที่ในทุกโครงการสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญ ตลอดจนกระตุ้นให้สังคมไทยเกิดการตื่นตัวและรับรู้ โดยเล็งเห็นถึงความสำคัญในการร่วมมือกันช่วยลดภาวะโลกร้อนอย่างต่อเนื่อง พร้อมตั้งเป้าสู่การเป็นองค์กรต้นแบบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีกรายแรกผู้ส่งเสริมหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนสู่”องค์กรขยะเป็นศูนย์” กับการจัดการขยะได้แบบ 360 องศา เพื่อที่จะสร้างความสมดุลด้านสิ่งแวดล้อมและแก้ไขปัญหาการจัดการขยะพลาสติกในประเทศไทยอย่างยั่งยืนต่อไป

ผักในตลาด จ.สงขลา หลายชนิดเริ่มปรับราคาสูงขึ้น โดยเฉพาะ ต้นหอมและผักชีราคาสูงขึ้นถึง กก.ละ 200 บาท

นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา
และผักอื่นๆก็พาเหรดขึ้นราคาเช่นเดียวกันทั้งขึ้นฉ่าย ผักคะน้า มะเขือเทศ ทั้งมะเขือเทศเล็กราชินี มะเขือเทศสีดาที่ใช้ทำส้มตำ ก็ขึ้น ซึ่งราคาปรับขึ้นมาจากเอเย่นต์ใหญ่ที่ส่งมาจากต้นทางภาคกลาง เนื่องจากแหล่งปลูกผักในภาคกลาง หลายจังหวัดฝนตกส่งผลให้ปริมาณผักที่ส่งให้ลูกค้าต่างจังหวัดลดน้อยลง
วันนี้ (12 ก.ค.65) ตลาดผักที่ตลาดทรัพย์สินพลาซ่า เขตเทศบาลนครสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา ขณะนี้ผักหลายชนิดเริ่มปรับราคาสูงขึ้น เนื่องจากแหล่งปลูกผักในภาคกลาง หลายจังหวัดฝนตกส่งผลให้ปริมาณผักที่ส่งให้ลูกค้าต่างจังหวัดเริ่มลดน้อยลง และยังมีแนวโน้มที่จะปรับราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากมีฝนตกและน้ำท่วม
สำหรับผักที่มีการปรับราคาขึ้นแล้ว ช่วงนี้จะมี ต้นหอม ผักชี ราคา กก.ละ 200 บาท จาก 140-150 ขึ้นเป็น 200 บาท ผักขึ้นฉ่ายก็แพงขึ้น จาก กก.ละ 90 บาทขึ้นเป็น 120 บาท มะเขือเทศจาก กก.ละ 30 -35 บาท ขึ้นเป็น 50 – 60 บาท มะเขือเทศเล็กราชินี วันนี้ขายปลีก กก.ละ 90 บาท จาก 70 บาท ขึ้นมาทีเดียว 20 บาท และมะเขือเทศสีดาที่ใช้ทำส้มตำ ขายอยู่ กก.ละ 40 บาทขึ้นมาเป็น 60 บาท ผักคะน้าก็ขึ้นจาก กก.ละ 28 บาทขึ้นมาเป็น 35 บาท
เนื่องจากในช่วงวันที่ 11–14 ก.ค. 65 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับ ร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ส่งผลทำให้แหล่งปลูกผักในภาคกลาง หลายจังหวัดฝนตกและน้ำท่วมแปลงผัก ทำให้ปริมาณผักที่ส่งให้ลูกค้าต่างจังหวัดลดน้อยลง
นางประภา จินดา อายุ 40 ปี แม่ค้าขายผักตลาดทรัพย์สินพลาซ่า กล่าวว่า ช่วงนี้ผักชี ต้นหอม ราคากิโลกรัมละ 200 บาท จากกิโลกรัมละ 140-150 ขึ้นเป็น 200 บาท ผักขึ้นฉ่ายก็แพงขึ้น จากกิโลกรัมละ 90 บาทขึ้นเป็น 120 บาท มะเขือเทศจากกิโลกรัมละ 30 – 35 บาท ขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 50 – 60 บาท มะเขือเทศเล็กราชินี วันนี้ขายปลีกกิโลกรัมละ 90 บาท จาก กก.ละ 70 บาทขึ้นมาทีเดียว 20 บาทเลย และมะเขือเทศสีดาที่ใช้ทำส้มตำ ขายอยู่กิโลละ 40 บาทขึ้นมาเป็นกิโลละ 60 บาท ลูกค้าก็ไม่ว่าอะไร เพราะเขารู้ว่าของขึ้นทั้งนั้นเลยนะจ๊ะทุกอย่างผักคะน้าก็ขึ้นจากกก.ละ 28 บาทขึ้นมาเป็น 35 บาทช่วงนี้ ซึ่งราคาปรับขึ้นมาจากเอเย่นต์ใหญ่ที่ส่งมาจากต้นทางทั้งหมดจากภาคกลาง
ตอนนี้สั่งของเข้ามาขายมากขึ้นกว่าปกติ เพราะว่ามันขายดีขายได้แม้ว่าราคาจะสูงขึ้น ไม่ว่าช่วงไหนของแพงจะขายดีกว่าช่วงที่ของถูก

ร่วมถ่ายรูปแสดงความยินดี

นายขวัญชัย บุญสุวรรณ ที่ปรึกษาสำนักงานจเรตำรวจ ได้มอบทุนการศึกษา จำนวนหนึ่ง ให้กับหลานสาวคนเก่งของ "เลขาโต สงขลา " โดยมี พันเอกก้องเกียรติ หมวดสิงห์ (/) สายฝน ลูกกาบู (/) อดีตรองแชมป์มวยรอบปูนเสือตัวที่5 ปราบหมด สิงห์สมัย และคณะทีมงาน ร่วมถ่ายรูปแสดงความยินดี ผ่านมาเมื่อเร็วๆนี้

ภาพ – ข่าว สิงห์จุก ม.อ. ทีมข่าว ปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ หาดใหญ่ จ.สงขลา

บุคคลในวงการมวยแดนใต้

นายยุทธวีร์ สุนทราภรณ์ นายกเทศมนตรีตำบลนาสีทอง อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา (/)ไพศาล รัตนประทีป (/) จ่ายุทธ กองสืบ (/) ต้อย แม่ขรี (/) แมว คลองเรียน และ สิงห์จุก ม.อ. ร่วมงานศพนางวั่นเห้ง เอกพันธ์ คุณแม่ของ "หมวดเนก ตากใบ " เอนก เอกพันธ์ ณ.วัดเจริญราษฎร์ (วัดไร่อ้อย) ตำบลฉลุง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และได้ฌาปนกิจไปแล้ว เมื่อวันที่7 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา

ภาพ – ข่าว สิงห์จุก ม.อ. ทีมข่าว ปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ หาดใหญ่ จ.สงขลา

ดามพ์ ดัสกร รับเชิญพิเศษ มาร่วมฉลอง พุ่มผ้าป่า สามัคคี

อดีตนักแสดง ดาวร้ายมือหนึ่งใน จอเงินและจอแก้ว ของเมืองไทย "ดามพ์ ดัสกร "เป็นแขกรับเชิญพิเศษ มาร่วมฉลอง พุ่มผ้าป่า สามัคคี ที่บ้านพี่สาวของ "เสี่ยโอม" ขวัญชัย บุญสุวรรณ ณ.หมู่บ้านพรรณพฤกษา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ในวันเสาร์ที่9 กรกฎาคม 2565 เพื่อนำไปทอดผ้าป่า ที่วัดธรรมโฆษณ์ ต.สทิ้งหม้อ อ.สิงหนคร จ.สงขลา ในวันอาทิตย์ที่10กรกฎาคม 2565 บุคคลในวงการมวยทั้ง สายฝน ลูกกาบู( /) เพชรพญา สิงห์ราชศักดิ์ "ภคพงศ์ ฉุ้นประดับ" (/ )สิงห์จุก ม.อ.พร้อมทีมงาน ร่วมถ่ายรูปเป็นที่ระลึกด้วยกัน เมื่อวันที่9 กรกฎาคม 2 565 ที่ผ่านมา

ภาพ – ข่าว สิงห์จุก ม.อ. ทีมข่าว ปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ หาดใหญ่ จ.สงขลา

นายกสมาคมกีฬามวยอาชีพภาคใต้ มอบแจกันดอกไม้

นายประภาส เพ็ชรไทยพงค์ ประธานที่ปรึกษา กรรมการจัดอันดับนักมวยของ สมาคมกีฬามวยอาชีพภาคใต้พร้อม หนุ่มน้อย เมืองหาดใหญ่ เป็นตัวแทนนายสุพิศ พิทักษ์ธรรม นายกสมาคมกีฬามวยอาชีพภาคใต้ มอบแจกันดอกไม้ แสดงความยินดีกับ พ.ต.ท.สมพร ภูมิภัทร เนื่องในโอกาส เปิดสนามมวยภูมิภัทร สเตเดี้ยม นครศรีธรรมราช อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวันเสาร์ที่9 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา

ภาพ- ข่าว สิงห์จุก ม.อ. ทีมข่าว ปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ หาดใหญ่ จ.สงขลา

นายสุวรรรณ บัวโรย เลขานุการประจำคณะกรรมาธิการการแรงงาน พร้อมด้วย นางคำ โมริพันธ์ ได้เข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร.ถึงกรณีที่มีแรงงานชาวไทย ถูกจับเรียกค่าไถ่ในประเทศพม่า

เมื่อเวลา 10:30 น.วันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ.2565 ณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายสุวรรรณ บัวโรย เลขานุการประจำคณะกรรมาธิการการแรงงาน พร้อมด้วย นางคำ โมริพันธ์ ได้เข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ถึงกรณีที่มีแรงงานชาวไทย ถูกจับเรียกค่าไถ่ในประเทศพม่า โดย นางคำ โมริพันธ์ ได้ทราบข้อมูลมาว่า นายระม้าย โมริพันธ์ ลูกชายของตน ถูกหลอกให้ไปทำงานในประเทศพม่า และถูกจับตัวไปเรียกค่าไถ่ เป็นจำนวนเงินกว่า 24 ล้านบาท โดยเชื่อว่ามีบุคคลที่เป็นคนไทยได้วางแผนหลอกลวงให้ไปติดต่องาน แล้วจับตัวลูกชายของตนนำไปขังไว้ในคุกเขตประเทศพม่า ที่เมือง Mong Ton ตามโลเคชั่นที่ลูกชายของตนได้ขอความช่วยเหลือผ่านมาทางแอปพิเคชั่น แมสเซนเจอร์ ชื่อ Sam Voe Sam Voe เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2565 โดยที่ลูกชายของตน ได้ขอแอบใช้โทรศัพท์ ของทหารที่ควบคุมตัว โดยอ้างว่าแม่ป่วยไม่สบาย ขอติดต่อกับแม่ โดยลูกชายของตน ได้ส่งตำแหน่ง พิกัดที่ลูกชายอยู่ และข้อความเล่าถึงรายละเอียดที่ถูกจับกุม โดยไม่ได้เป็นไปตามกฎหมายของพม่า แต่ถูกกลุ่มผู้มีอิธิพลที่จับตัวเรียกค่าไถ่ ใช้ความสนิทสนมกับทหารพม่าบางคน นำตัวมาควบคุมไว้ เพื่อเป็นที่คุมขัง และบังคับใช้แรงงาน อีกทั้งมีการขู่ว่าหากแจ้งความ หรือขอความช่วยเหลือจะถูกฆ่า และบังคับให้ลูกของตน ติดต่อทางญาติให้หาเงินมาจ่ายค่าไถ่ หากครบกำหนดแล้วไม่นำเงินมาให้ จะทำร้ายหรือฆ่าให้ตาย เมื่อตนได้รับทราบข้อมูล จึงได้ประสานขอความช่วยเหลือไปที่ นายสุวรรรณ บัวโรย เลขานุการประจำคณะกรรมาธิการการแรงงาน ซึ่งเบื้องต้น นายสุวรรรณ บัวโรย ได้ตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลที่ลูกของตนส่งมาให้แล้ว ทราบว่ามีหลักฐาน และข้อมูลที่เชื่อได้ว่าเป็นเรื่องจริง จึงได้แนะนำให้ข้าพเจ้าไปแจ้งความ ไว้ที่กองปราบ เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา และทำหนังสือร้องขอความช่วยเหลือมายังประธานกรรมาธิการการแรงงาน ท่าน ส.ส.สุเทพ อู่อ้น อย่างเป็นทางการ เพื่อทางคณะกรรมาธิการฯ จะได้หาแนวทางการช่วยเหลือลูกชายของตน กลับมายังประเทศไทย หรือได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายที่ประเทศพม่า และได้รับการคุ้มครองตามหลักสิทธิมนุษยชน แล้วนั้น ทางคณะกรรมาธิการแรงงานได้รับเรื่องเพื่อพิจารณาหาแนวทางช่วยเหลือ วันที่ 17 มีนาคม 2565 แต่เนื่องจากเป็นกรณีเร่งด่วนไม่อาจรอการเปิดประชุมได้ เพราะเป็นสมัยปิดประชุมของสภา ทางประธานคณะกรรมาธิการแรงงานจึงได้ให้ นายสุวรรณ บัวโรย ในฐานะเลขาธิการแรงงานดำเนินการประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนเพื่อเป็นการช่วยเหลือเบื้องต้น
ทั้งนี้ นายสุวรรณ บัวโรย เลขานุการกรรมาธิการการแรงงาน ได้รับดำเนินการ และได้ประสาน หน่วยงานต่างๆเพื่อช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว โดยได้ประสานงานไปยัง หน่วยงานดังต่อไปนี้

  1. แจ้งความที่กองปราบ วันที่ 16 มีนาคม 2565
  2. ยื่นหนังสือขอความช่วยเหลือกรมาธิการแรงงาน 17 มีนาคม 2565
  3. หนังสือขอความช่วยเหลือ ถึง นายภาสกร บุญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย 18 มีนาคม 2565
  4. ยื่นหนังสือขอความช่วยเหลือ ผู้บังคับหมู่หน่วยเฉพราะกิจกรมทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมือง 18 มีนาคม 2565 ในวันที่ 18 มีนาคม 2565 โดยทั้ง 2 หน่วยงานได้รับเรื่องไว้และแจ้งว่าจะประสานงานชายแดนส่วนท้องถิ่น ไทย-เมียนมา หรือ TBC ฝ่ายไทย เพื่อจะประสานงานไป TBC เมียนมา ตามข้อมูลที่ได้รับแจ้งเพื่อช่วยเหลือต่อไป
  5. ในวันที่ 21 มีนาคม 2565 ได้ทำหนังสี่อถึงกระทรวงการต่างประเทศ ท่าน ดอน ปรมัตถ์วินัย รอง นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดยกระทรวงการต่างประเทศได้มอบหมายงานให้ท่าน ฉัตรชัย วิริยเวชกุล อธิบดีกรมการกงศุล รับเรื่อง เพื่อประสานงานให้การช่วยเหลือไปแล้วทุกหน่วยงานที่กล่าวมาข้างต้น ได้ประสานงานตามอำนาจหน้าที่แล้ว แต่ยังมิสามารถช่วยเหลือลูกของตนออกมาได้ ตามแผนที่ดำเนินการ
    ในวันนี้จึงได้เดินทางมา เพื่อขอความช่วยเหลือมายัง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. อีกครั้งในฐานะเป็นผู้บังคับบัญตำรวจกองปราบ และขอความกรุณาให้ พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร.รับทำคดีของลูกของตน เพราะที่ผ่านมา ท่านได้ทำคดีช่วยเหลือ เหยื่อที่อยู่จับอยู่ต่างประเทศตามที่ปรากฎเป็นข่าว อย่างเช่นคดี ช่วย 6 สาวไทยที่ เมืองอก เมื่อวันที่ 7 ก.ค.65 ที่ผ่านมา จึงขอความกรุณามายัง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ได้มอบหมายงานคดีนี้ ให้ พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย.ผบ.ตร ดำเนินการช่วยเหลือลูกชายของตน ทั้งนี้ข้าพเจ้า นางคำ โมริพันธ์ ได้แนบเอกสารประกอบคำร้องเรียนมาด้วยดังต่อไปนี้
  6. หนังสือแจ้งความที่กองปราบ ลงวันที่ 16 มีนาคม 65 จำนวน 1แผ่น
  7. สำเนาบัตรประชาชนของข้าพเจ้า และข้อมูลทะเบียนราษฎรของ นายระม้าย โมริพันธ์ จำนวน 2 แผ่น
  8. เอกสารข้อมูลตำแหน่งโลเคชั่นที่ตั้งตำแหน่งที่ลูกข้าพเจ้า นายม้าน โมริพันธ์ ขอความช่วยเหลือ จำนวน 1 แผ่น
  9. เอกสารแสดงข้อมูลเพื่อเข้าดู คลิปวีดีโอ และรูปภาพที่ได้จัดเรียงไว้ใน Google Drive จำนวน 1 แผ่น
  10. จดหมายที่เขียนด้วยลายมือนายระม้าน โมริพันธ์ และจดหมายที่แปลแล้ว จำนวน 2 แผ่น
  11. รูปโปรไฟร บุคคลที่ติดต่อมาทาง แอปพิเคชั่นเมสเซ็นเจอร์ชื่อ Sam Voe Sam Voe จำนวน 1 แผ่น
  12. รูปที่มีการสนทนา ทางช่องไลน์แสดงให้เห็นว่า นายม้ายถูกเรียกค่าไถ่จริง จำนวน 1 ชุด
  13. รูปโปรไฟน์ และเฟสบุ๊ค ของนายระม้าย ล่าสุดช่วงวันที่ 1-3 มกราคม 65 ก่อนที่จะถูกจับตัว จำนวน 1 ชุด
  14. หนังสื่อลงรับเรื่องของคณะกรรมาธิการการแรงงาน รัฐสภา วันที่ 17 ม.ค.65 จำนาน 1 ชุด
  15. หนังสื่อลงรับวันที่ 18 มี.ค.65 ผู้ว่าจังหวัดเชียงราย และ คำร้องขอ ปค 14 จำนวน 3 แผ่น
  16. หนังสื่อลงรับ วันที่ 18 มี.ค. 65 ผู้บังคับหน่วยเฉพราะกิจทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมือง จำนวน 2 แผ่น
  17. หนังสือลงรับ วันที่ 21 มี.ค.65 รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จำนวน 3 แผ่น
    ทั้งนี้ นางคำ โมริพันธ์ และนายสุวรรณ บัวโรย เลขานุการประจำคณะกรรมาธิการการแรงงาน หวังใจอย่างยิ่งว่าจะได้รับความเมตตาจาก พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. เร่งดำเนินการช่วยเหลือเป็นการด่วน

การเข้าพรรษา เป็นพุทธบัญญัติ ซึ่งพระภิกษุทุกรูปจะต้องปฏิบัติตาม

หมายถึง การอธิษฐานอยู่ประจำที่ไม่เที่ยวจาริกไปยังสถานที่ต่างๆ เว้นแต่มีกิจจำเป็นจริง ๆช่วงจำพรรษาจะอยู่ในช่วงฤดูฝนคือแรม ๑ ค่ำ เดือน ๘ ถึง ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ ของทุกปี ดังนั้น วันเข้าพรรษา หมายถึง วันที่พระภิกษุในพระพุทธศาสนาอธิษฐานอยู่ประจำในวัด หรือเสนาสนะที่คุ้มแดดคุ้มฝนได้แห่งหนึ่งไม่ไปค้างแรมในที่อื่น ตลอด ๓ เดือนในฤดูฝน

ศิริพร จงศิริ ผู้อำนวยการใหญ่ผลิตรายการคืนคุณให้แผ่นดิน สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกลงพื้นที่จังหวัดสงขลาหลังจาก เสร็จภาระกิจรายการคืนคุณให้แผ่นดินได้เข้าวัดพรุตู ต.เกาะสะบ้า อ เทพา จ. สงขลา ได้ทำบุญและสนทนาธรรม มนัสการพระครูไพบูลย์ปริยัตยาภรณ์ (ภูษิต ป.ธ.๔) วัดพรุตู หมู่ ๖ พรุตู ต.เกาะสะบ้า อ.เทพา จ.สงขลา
# ศาสนาทุกศาสนาสอนให้ทุกคนเป็นคนดี

CR: รายการคืนคุณให้แผ่นดิน สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก

ผบช.ภ.1 และรอง ผบช.ภ.1 แถลงกรณีร่วมจับกุมคดีลักทรัพย์ในเคหะสถาน หรือรับของโจร และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1

ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รอง ผบช.ภ.1
ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ชัยยะ เพ็ชรปัญญา รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.เอกราช อุ่นเจริญ รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.พัทธนันท์ ทรงสมถวิล ผกก.สภ.บางปะอิน พร้อมกำลังชุดสืบสวน
ได้ร่วมกันจับกุมตัว
1. นายนพ อายุ 47 ปี ชาวอำเภอบางปะอิน จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยของกลาง กระเป๋าสะพายแบบหนังสีน้ำตาล จำนวน 1 ใบ , ทองแดง พ่นสีทองเหลือง (ท่อแอร์) จำนวน 1 อัน ซึ่งผู้เสียหายยืนยันว่าเป็นของผู้เสียหาย ในความผิดฐาน “ ลักทรัพย์ในเคหะสถาน หรือรับของโจร และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ”
2. นายนก อายุ 41 ปี ชาวอำเภอบางปะอิน จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยของกลาง เหล็กกล่อง ขนาด 1 นิ้ว จำนวน 7 ชิ้น , เลื่อยสำหรับตัดเหล็ก จำนวน 1 อัน , สกัด จำนวน 1 อัน , คีม จำนวน 1 อัน , เลื่อยสำหรับเลื่อยไม้ จำนวน 1 อัน และพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อสกุ๊ปปี้ สีส้ม ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน ในความผิดฐาน “ลักทรัพย์ในเคหะสถาน หรือรับของโจร และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ”
พฤติการณ์ในการจับกุม ตามกรณี นางมานิตา ภิญโญภาสกุล อายุ 49 ปี ที่อยู่ 32/19 หมู่ 1 ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ผู้กล่าวหา ได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนกรณีที่ได้มีคนร้ายไม่ทราบว่าเป็นบุคคลใดเข้าไปทำการลักทรัพย์ภายในบ้านพักที่เกิดเหตุ ( 99 ม.6 ต.สามเรือน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ) ได้ทรัพย์สินไปจำนวนหลายรายการ หลังเกิดเหตุผู้เสียหายได้มาแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.บางปะอิน แล้ว
สภ.บางปะอิน ได้รับคำร้องทุกข์ไว้แล้ว ภายใต้การอำนวยการสั่งการของผู้บังคับบัญชา สั่งการให้ชุดสืบสวนสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายให้จงได้ ต่อมาในวันที่ 9 กรกฎาคม 2565 ชุดสืบสวน ได้ไปที่บ้านพักดังกล่าว พบนายนกฯ กำลังตัดเหล็กอยู่ โดยข้างตัวนายนกฯ พบเหล็กกล่องและอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับตัดเหล็ก ตามรายการของกลางข้อที่ 1 – 6 ซึ่งจากการสอบถามผู้ต้องหาให้การว่า มีนายนพฯ เคยเข้ามาทำการลักทรัพย์ภายในบ้านพักดังกล่าว จำนวนหลายครั้ง จึงได้ขยายผลการจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสอง นำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.บางปะอิน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น โดยนายนกฯ ให้การรับสารภาพ ว่าได้เข้ามาลักทรัพย์ในบ้านที่เกิดเหตุจริง ตามวันเวลาสถานที่เกิดเหตุในคดีนี้ และให้การยืนยันว่านายนพฯ เคยเข้าไปลักทรัพย์ในบ้านที่เกิดเหตุหลายครั้งสาเหตุ ที่ก่อเหตุเนื่องจากพักอาศัยอยู่บริเวณข้างเคียงที่เกิดเหตุ และพบเห็นว่าบ้านหลังกังกล่าวไม่มีผู้อยู่อาศัยมาเป็นเวลานานแล้ว ส่วนนายนพฯ ให้การภาคเสธ ว่าได้เคยเข้าไปทุบทำลายทรัพย์สินในบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งในทางคดีพบทรัพย์สินของผู้กล่าวหาบางส่วนอยู่ในความครบครองของนายนพฯ
อนึ่ง ในการสืบสวนขยายผลในครั้งนี้เชื่อว่ามีผู้ร่วมก่อเหตุอีกหลายราย ซึ่งทาง สภ.บางปะอิน จะได้ทำการขยายผลติดตามจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายทุกราย สภ.บางปะอิน ขอเรียนยืนยันกับพี่น้องประชาชนว่า ไม่ว่าจะเป็นการรับแจ้งเหตุมูลค่าทรัพย์สินเสียหายมากน้อยเพียงใด เมื่อได้เกิดเหตุขึ้นแล้วทาง สภ.บางปะอิน จะทำการสืบสวนติดตามจับกุมคนร้าย ติดตามทรัพย์สินของผู้เสียหายคืนมาอย่างเต็มกำลังความสามารถ และยินดีให้บริการกับพี่น้องประชาชนด้วยความเต็มใจ และขอขอบคุณในเบาะแสทุกอย่างที่พี่น้องประชาชนที่แจ้งมา

บิ๊กราญ ผบช.น. พร้อม รองผบช.น. และ ผบก.น.6 และ ผกก.สน.ห้วยขวาง แถลงผลการจับกุม 9 คดีสำคัญในแต่ละท้องที่

ตามนโยบายของรัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร
วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ปัญหาอาชญากรรม มีผลกระทบต่อความสุขของพี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นหนึ่งในปัญหาของชาติที่สำคัญต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วนและจริงจัง จึงมอบนโยบายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. เร่งรัดขับเคลื่อนการปราบปรามอย่างจริงจัง โดยบูรณาการกำลังทุกฝ่ายพร้อมกับหน่วยงานในทุกกองบัญชาการ

กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น., พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก
รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สำเริง สวนทอง รอง ผบช.น. พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์
ผบก.สส.บช.น. ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.กฤศณัฏฐ์ ธนศุภณัฏฐ์ ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.สมบูรณ์ สุขศรีดาวเดือน ผกก.สส.3บก.สส.บช.น. ,พ.ต.อ.ธนากร อ่อนทองคำ ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.ฤตวีร์ สุขเจริญ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.ศิรณวิชญ์ อินทร ผกก.สส.บก.น.1 , พ.ต.อ.อัครพล โทยะ
ผกก.สส.บก.น.2 ,พ.ต.อ.ธิติพงษ์ สียา ผกก.สส.บก.น.9 , พ.ต.อ.บวรภพ สุนทรเรขา ผกก.สน.พญาไท
พ.ต.อ.ยิ่งยศ สุวรรณโณ ผกก.สน.ห้วยขวาง ,พ.ต.อ.กฤษฎางค์ จิตตรีพล ผกก.สน.บางซื่อ ,พ.ต.อ.สุธิศักดิ์
พิริยะภิญโญ ผกก.สน.สุทธิสาร , พ.ต.อ.ชิศณุพงศ์ สุริยานนท์ ผกก.สน.พหลโยธิน และ พ.ต.อ.เลิศศักดิ์ เขียมทรัพย์ ผกก.สน.ท่าข้าม ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมกันทำการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ติดตามจับกุมคนร้ายเหตุวิ่งราวทรัพย์ในพื้นที่ กทม. ซึ่งมีแผนประทุษกรรมเหมือนกันในห้วงปี 2565 พบคดีที่เกี่ยวข้องดังนี้

คดีที่ 1 เขตพื้นที่ สน.ห้วยขวาง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 2 พ.ค. 2565 เวลาประมาณ 23:41 น. ผู้ก่อเหตุเป็นชายจำนวน 2 คน ใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้ารุ่น PCX สีขาวแดง

คดีที่ 2 เขตพื้นที่ สน.ท่าข้าม เหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 พ.ค. 2565 เวลาประมาณ 21:18 น. ผู้ก่อเหตุเป็นชายจำนวน 2 คน ใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้ารุ่น PCX สีขาวแดง

คดีที่ 3 เขตพื้นที่ สน.สุทธิสาร เหตุเกิดเมื่อวันที่ 31 พ.ค. 2565 เวลาประมาณ 23.10 น. ผู้ก่อเหตุเป็นชายจำนวน 1 คน ใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น PCX สีขาวแดง

คดีที่ 4 เขตพื้นที่ สน.พญาไท เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 2565 เวลาประมาณ 22:55 น. ผู้ก่อเหตุเป็นชายจำนวน 2 คน ใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น PCX สีขาวแดง

คดีที่ 5 เขตพื้นที่ สน.พหลโยธิน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 2565 เวลาประมาณ 22:10 น. ผู้ก่อเหตุเป็นชายจำนวน 2 คน ใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ PCX สีขาวแดง

คดีที่ 6 เขตพื้นที่ สน.บางซื่อ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2565 เวลาประมาณ 22:30 น. ผู้ก่อเหตุเป็นชายจำนวน 1 คน ใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น PCX สีน้ำเงิน

คดีที่ 7 เขตพื้นที่ สน.สุทธิสาร เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2565 เวลาประมาณ 23:18 น. ผู้ก่อเหตุเป็นชายจำนวน 1 คน ใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น PCX สีน้ำเงิน

คดีที่ 8 เขตพื้นที่ สน.สุทธิสาร เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 ก.ค. 2565 เวลาประมาณ 20:38 น. ผู้ก่อเหตุเป็นชายจำนวน 1 คน ใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น PCX สีน้ำเงิน

คดีที่ 9 เขตพื้นที่ สน.บางซื่อ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 ก.ค. 2565 เวลาประมาณ 21:50 น. ผู้ก่อเหตุเป็นชายจำนวน 1 คน ใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น PCX สีน้ำเงิน

ต่อมาจากการสืบสวนทราบว่า ผู้ต้องสงสัย ที่ก่อเหตุในคดีนี้ คือ

  1. นายประเวชฯ อายุ 26 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 226/2 ตรอกบางอุทิศ แขวงวัดพระยาไกร
    เขตบางคอแหลม กทม. มีประวัติคดีวิ่งราวทรัพย์ 5 คดี คดีบุกรุกเคหสถานเวลากลางคืน 1 คดี คดีต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน (ยิงต่อสู้) 1 คดี จำคุกตั้งแต่ปี 2560 พ้นโทษเมื่อวันที่ 26 ม.ค. 2564 ถูกจับกุมต่อเมื่อ
    วันที่ 19 ม.ค. 2565 ในคดี พรบ.อาวุธปืนฯ อยู่ระหว่างประกันตัว และ ติดกำไลข้อเท้าอีเอ็ม
  2. นายศตวรรษฯ อายุ 28 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 171/9 ถ.พหลโยธิน แขวงสนามบิน
    เขตดอนเมือง กทม. มีประวัติวิ่งราวทรัพย์ จำคุกตั้งปี 2560 พ้นโทษเมื่อวันที่ 27 ม.ค. 2564 ที่อยู่หลังปล่อยตัว คือ 449/58 บางคอแหลม กทม. ถูกจับกุมต่อเมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2565 ในคดี พรบ.อาวุธปืนฯ อยู่ระหว่างประกันตัว และติดกำไลข้อเท้าอีเอ็ม

ทั้งสองคนปัจจุบันประกันตัวออกมาต่อสู้คดี และ ทั้ง 2 คน ถูกศาลสั่งให้ติดกำไลข้อเท้าอีเอ็ม
ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจพบข้อพิรุธเกี่ยวกับกรณีสัญญาณกำไลอีเอ็ม ประกอบกับทางการสืบสวนปรากฎจาก ลักษณะการแต่งกาย , ยานพาหนะ และ เส้นทางทั้งขามา และ หลบหนี ของคนร้ายในคดีที่เกิดขึ้นนั้น บ่งชี้ว่าผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คนมีส่วนเกี่ยวข้อง จึงได้ประชุมวางแผนการจับกุมและรวบรวมหลักฐานในการดำเนินคดี ระหว่าง สถานีตำรวจพื้นที่เกิดเหตุ กองกำกับการสืบสวนพื้นที่ และ กองบังคับการสืบสวน ฯ เสนอพยานหลักฐานต่อศาลเพื่อออกหมายจับคนร้ายทั้ง 2 คน มาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ต่อมา เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัว ผู้ต้องหา 2 คน ดังนี้

  1. นายประเวชฯ ตามหมายจับ ศาลอาญาที่ 1383/2565 ลง 7 ก.ค. 2565 ข้อหาวิ่งราวทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ และได้ตรวจยึดโทรศัพท์มือถือเสื้อผ้า , รองเท้าแตะสีดำ , หมวกกันน๊อค
    อาวุธปืน รถจักรยานยนต์ PCX สีน้ำเงิน ทะเบียน 6 กง 3407 กทม. ( ใช้ในการก่อเหตุ ) ไว้ของกลางประกอบคดี

จับกุมที่บริเวณ : บ้านพัก ต.บ้านคลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ แต่ปรากฏว่า
ขณะจับกุมตัวนั้น นายประเวชฯ ไม่ได้สวมใส่กำไลอีเอ็ม และ จากการตรวจค้น พบกำไลดังกล่าวอยู่ที่บ้านเลขที่ 226/2 ตรอกบางอุทิศ แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กทม. ในลักษณะชาร์จแบตเตอรี่ทิ้งไว้ จึงได้จับกุมตัวพร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร

  1. นายศตวรรษฯ ตามหมายจับ ศาลอาญาที่ 1401/2565 ลง 8 ก.ค. 2565 ข้อหา ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะฯ และ ได้ตรวจยึดโทรศัพท์มือถือ , เสื้อผ้า , รองเท้าแตะสีแดง ของนายศตวรรษฯขณะจับกุม ส่วนรถจักรยานยนต์ PCX สีขาวแดง ทะเบียน 2 ขฆ 7405 กทม. ที่ใช้ก่อเหตุ ได้ตรวจยึดจาก นายวีรยุทธ หรืออ้น พึ่งเดช (เจ้าของรถ) ซึ่งยืนยันว่า นายศตวรรษฯ ได้ยืมไปใช้ในการก่อเหตุ
    (โดยยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจยึดมาเพื่อใช้ประกอบในการดำเนินคดี)

จับกุมที่บริเวณ : ที่พักถนนพระราม 3 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กทม. แม้นายศตวรรษ ฯ
จะมีคำสั่งศาลให้ติดกำไลอีเอ็มแต่ปรากฏจากการสืบสวนพบว่านายศตวรรษฯ บางครั้ง ไม่ได้สวมใส่กำไลอีเอ็ม
จึงได้จับกุมตัวพร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท

ในชั้นนี้ นายประเวชฯ รับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุที่ใช้รถจักรยานยนต์ PCX สีน้ำเงิน ส่วนนายศตวรรษฯยังไม่ขอให้การ และ ปฏิเสธเกี่ยวกับการกระทำผิด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบในคดีนี้ จะได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อใช้ในการสอบสวนพิสูจน์ความผิดของ นายประเวชฯ และ นายศตวรรษฯ ต่อไป

อนึ่ง ในการสืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาในคดีนี้ ฝ่ายสืบสวนได้ทำการสืบสวนจากกล้องวงจรปิดเป็นกล้อง กรุงเทพมหานคร กว่า 100 ตัว กล้องเอกชนกว่า 50 ตัว และ กล้องวงจรปิดตามโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการสืบสวนและการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ของผบ.ตร. ที่ติดตั้งบริเวณจุดเสี่ยงและจุดล่อแหลมกว่า 90 ตัว ในเส้นทางที่คนร้ายขับเข้ามาก่อเหตุ และ หลบหนี จำนวน 9 คดี ระยะทางกว่า 100 กม. ในพื้นที่รับผิดชอบของสถานีตำรวจ 15 แห่งทั่วกรุงเทพมหานคร
บช.น. ขอเรียนพี่น้องประชาชนว่า ถึงแม้ว่าช่วงนี้จะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19
แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและยาเสพติดอย่างเคร่งครัด พบเห็นหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิด โปรดแจ้งสายด่วน 191 หรือสถานีตำรวจท้องที่

ของกลางการกระทำความผิดวิ่งราว
ค้นบ้านนายประเวช พื้นที่สน.วัดพระยาไกร เจอ กำไล EM ถูกถอดไว้
Design a site like this with WordPress.com
Get started