วันที่ 9 ก.ค.65 เวลา 10.00 น., พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น., พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นิตินันท์
เพชรบรม รอง ผบช.น., พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.สำเริง
สวนทอง รอง ผบช.น. พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ รอง ผบช.น. แถลงผลการปฏิบัติที่น่าสนใจ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
คดีที่ 1 กรณีจับกุมคนร้ายก่อเหตุยิงผู้อื่นเสียชีวิต ผลงาน สน.คันนายาว บก.น.2
วันที่ 7 ก.ค.65 เวลา 21.30 น. ฝ่ายสืบสวน สน.คันนายาว ได้รับแจ้ง เหตุชายถูกทำร้ายเสียชีวิต
บริเวณข้างถนนหน้าหอพักไม่มีชื่อ ภายในซอยสุเหร่าคลองหนึ่ง 13 แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ
เมื่อเจ้าพนักงานตำรวจไปตรวจสอบพบ นายสามพรานฯ อายุ 34 ปี นอนเสียชีวิตบริเวณสถานที่เกิดเหตุ จากการสอบถามพยานผู้พบเห็นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายสามพรานฯ พร้อมพยานนั่งดื่มสุราภายในร้านค้าตรงสถานที่เกิดเหตุ ได้มีกลุ่มชาย 3 คน ได้แก่นายรัฐธิชัย หรือเมฆ, นายณรงค์ฤทธิ์ หรือโอปอ และนายโชคชัย หรือป๊อด ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาหากลุ่มนายสามพรานฯ จากนั้นได้มีปากเสียงกัน ต่อมา นายณรงค์ฤทธิ์ หรือโอปอ ได้ใช้อาวุธมีดแทง
นายสามพรานฯ จนล้มลง จากนั้นนายโชคชัย หรือป๊อด ได้ใช้ขวดแก้วปาใส่นายสามพรานฯ จากนั้นผู้ก่อเหตุทั้งสาม
ได้หลบหนีไป ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นเหตุให้ นายสามพรานฯ เสียชีวิต
ต่อมาวันที่ 8 ก.ค.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันฆ่าผู้อื่น และร่วมกันพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” จากนั้นนำส่งพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
คดีที่ 2 กรณีจับกุมผู้ต้องหา “ปล้นทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธปืน” ผลงาน สน.โคกคราม บก.น.2
วันที่ 6 ก.ค.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.โคกคราม ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหา 3 ราย ดังนี้
1.น.ส.ธนภร อายุ 31 ปี
2.นายดนุสรณ์ อายุ 23 ปี
3.นายณัฐพล อายุ 19 ปี
พร้อมของกลาง
1.อาวุธปืนพกสั้นแบบกึ่งอัติโนมัติ ยี่ห้อ SIG SAUER สีดำ ขนาด 9 มม.จำนวน 1 กระบอก
2.ซองบรรจุกระสุนปืน (แม็กกาซีน) ขนาด 9 มม.จำนวน 1 อัน
3.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นคลิ๊ก จำนวน 1 คัน (ของผู้เสียหาย)
4. กระเป๋าสตางค์ (ของผู้เสียหาย) จำนวน 1 ใบ
โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันพยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน,ปล้นทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธปืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม,ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมชน,มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครองครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว,พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร”
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 ก.ค.๖๕ เวลาประมาณ 05.30 น. ได้มีผู้เสียหายแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม ว่า เมื่อเวลาประมาณ 02.30 น. ผู้เสียหายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอดตรงบริเวณจุดกลับรถใต้สะพานข้ามมอเตอร์เวย์ ถ.รัชดา-รามอินทรา แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กรุงเทพฯ จากนั้นได้มี น.ส.ธนภร อายุ 31 ปี ได้ดึงกุญแจรถแล้วชักอาวุธปืนออกจากเอว แล้วใช้อาวุธปืนยิงใส่ จากนั้นผู้เสียหายจึงวิ่งหลบหนีไปพบกับนายดนุสรณ์ อายุ 23 ปี และนายณัฐพล อายุ 19 ปี (ทราบชื่อต่อมาภายหลัง) วิ่งเข้ามารุมทำร้ายร่างกายโดยใช้ไม้และเหล็กทุบตี เป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บ จากนั้นกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งสามคน ได้ทำการลักทรัพย์สินของผู้เสียหายจำนวน 4 รายการ คือ 1.รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก สีฟ้า ไม่ทราบทะเบียน ราคาประมาณ 19,000 บาท 2. สร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท ราคาประมาณ 90,000 บาท 3. กระเป๋าเงินไม่ทราบยี่ห้อ ราคาประมาณ 4,000 บาท 4. เงินสด 5,000 บาท แล้วได้ขับรถหลบหนีไป
ต่อมาวันที่ 6 ก.ค.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.โคกคราม ได้ติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสามคนได้ และได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ จากการสอบถามเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งสามให้การว่าได้ร่วมกันก่อเหตุจริง จึงได้นำส่งพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
คดีที่ 3 กรณีจับกุมคนร้ายลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ ผลงาน สน.สายไหม บก.น.2
เมื่อวันที่ 7 ก.ค.65 เวลาประมาณ 17.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.สายไหม ได้ทำการจับกุมตัวนายปรมินทร์ หรือ บิ๊ก อายุ 38 ปี ที่หน้าห้องพักเลขที่ A4-13 ชั้น 4 อาคารไพรินทร์ อพาร์ทเม้นท์ ซอยพหลโยธิน 52 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี
โดยกล่าวหาว่า “ลักทรัพย์ของผู้อื่นในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม”
พร้อมยึดของกลาง ภายในห้องพักของนายปรมินทร์ฯ ดังนี้
1. เสื้อแขนยาว สีน้ำเงินเข้มลายขาว จำนวน 1 ตัว
2. กระเป๋าสะพายข้าง สีน้ำตาล จำนวน 1 ใบ
3. หมวกแก็ป สีขาว ลายสีดำตัวอักษร Supreme จำนวน 1 ใบ
4. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นกาแล็กซี่ A 520 5G จำนวน 1 เครื่อง
สืบเนื่องจากมีผู้เสียหาย แจ้งความที่ สน.สายไหมว่า เมื่อวันที่ 5 ก.ค.65 เวลาประมาณ 06.40 น. รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า สกู๊ปปี้ไอ สีขาวแดง ทะเบียน 1 กส 4336 สกลนคร ได้หายจากหอพักบ้านบารมี อพาร์ทเม้นท์ เลขที่ 47/32 ระหว่าง ซอยสายไหม 34-36 ถ.สายไหม แขวง-เขตสายไหม กรุงเทพฯ
ต่อมา เมื่อวันที่ 7 ก.ค.65 เวลา 17.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.สายไหม เข้าทำการจับกุม นายปรมินทร์ฯ โดยจากการซักถาม นายปรมินทร์ฯ รับว่าได้ทำการก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ ในพื้นที่ใกล้เคียง ทั้งเขตนครบาลและเขตภูธรภาค 1 ตั้งแต่เมื่อประมาณเดือน พ.ค.2564 – ปัจจุบัน รวมทั้งสิ้น จำนวน 23 คัน
ทั้งนี้หลังจากลักรถจักรยานยนต์แล้ว นายปรมินทร์ฯ จะนำไปขายให้กับผู้รับซื้อ ที่บ้านไม่มีเลขที่กลางซอยรามคำแหง 68 ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานครโดยติดต่อทางเฟสบุ๊ค
ชื่อ “ตี๋หิด รับรถหลุด” ราคาที่ขาย รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า รุ่น PCX ประมาณ 20,000 – 30,000 บาท
ส่วนรถจักรยานยนต์รุ่นอื่นราคาประมาณ 10,000 – 20,000 บาท
จากนั้น วันที่ 8 ก.ค.65 เวลาประมาณ 14.30 น. ฝ่ายสืบสวน สน.สายไหม นำหมายค้นศาลอาญา เข้าทำการตรวจค้น เพื่อขยายผลหาเครือข่ายแก็งลักรถจักรยานยนต์ บริเวณเพิงพักไม่เลขที่ ซอยรามคำแหง 68 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น เวฟ 125 สีเทา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จอดอยู่บริเวณลานหน้าชุมชนไม่มีชื่อ ซอยรามคำแหง 68 ไม่ทราบว่าผู้ใดนำมาจอดไว้ จากการตรวจสอบรถคันดังกล่าวได้แจ้งความร้องทุกข์รถหายไว้ที่ สภ.ปากน้ำ จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 8 ก.ค.65 จึงประสานพนักงานสอบสวน
สภ.ปากน้ำ เพื่อดำเนินการต่อไป
คดีที่ 4 ภาพรวมผลการจับกุม ของ สน.แสมดำ บก.น.9
4.1 วันที่ 8 ก.ค.65 เวลา 12.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.แสมดำ ได้รับแจ้งว่าพบกลุ่มวัยรุ่นรวมตัวกันเกรงจะก่อเหตุทะเลาะวิวาท บริเวณสถานีรถไฟพรมแดน (หลังโรงเรียนฐานเทคโนฯ) แขวงบางบอนใต้ เขตบางบอน กรุงเทพฯ จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบพบของกลางที่สามารถตรวจยึดได้ ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นของผู้ใดอยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุ ดังนี้
1. วัดถุระเบิด (แบบลูกกระทบ) จำนวน 9 ลูก
2. วัดถุระเบิด (แบบจุด) จำนวน 1 ลูก
3. วัตถุระเบิด (แบบลูกปิงปองขนาดใหญ่) จำนวน 3 ถูก
4. วัตถุระเบิด (แบบลูกปิงปองขนาดเล็ก) จำนวน 14 ลูก
5. กระเป๋าสะพายข้าง ชนิคผ้าสีดำ จำนวน 1 ไบ
นอกจากนี้ยังพบกลุ่มวัยรุ่นซึ่งบางส่วนได้หลบหนีไป เหลือเพียง 3 รายจึงได้ทำการจับกุม ดังนี้
1.นายสุรยุทธิ์ อายุ 19 ปี
พร้อมของกลาง
– วัตถุระเบิด (แบบจุด) จำนวน 1 ลูก
– วัตถุระเบิด (แบบลูกระทบ) จำนวน 1 ลูก
โดยกล่าวหาว่า “มีวัตถุระเบิดไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย”
2. เยาวชนชาย อายุ 17 ปี พร้อมของกลาง มีดปลายแหลม 1 ด้าม โดยกล่าวหาว่า “พกพาอาวุธมีด
ไปในเมืองหรือทางสาธารณะ”
จากการสอบถามผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย รับว่าของกลางดังกล่าวเป็นของตนจริง จึงนำผู้ต้องหาและของกลางที่ตรวจยึดได้ส่งพนักงานสอบสวน สน.แสมดำ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
4.2 เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.65 เวลาประมาณ 02.30 น. ได้เกิดเหตุเยาวชนชายอายุ 16 ปี และ 17 ปี ถูกกลุ่มวัยรุ่นจำนวนประมาณ 7 คน ร่วมกันทำร้ายร่างกาย เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส บริเวณหน้าร้านโรงรับจำนำสะแกงาม ซ.สะแกงาม 25 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร แล้วกลุ่มคนร้ายได้หลบหนีไป
หลังเกิดฝ่าย สืบสวนสน.แสมดำ และ กก.สส.บก.น.9 สืบสวนหาเบาะแสคนร้าย โดยการลงพื้นที่เกิดเหตุตรวจสอบกล้องวงจรปิดตั้งแต่สามแยกบางบอนจุดเกิดเหตุ ต่อมาวันที่ 6 ก.ค.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 7 ราย โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส ,ร่วมกันทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับอันตรายแก่กาย หรือจิตใจ ,ร่วมกันพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร ,ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์” จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาที่ 1 ไปขออำนาจศาลอาญาธนบุรีฝากขัง ในวันที่ 6 ก.ค.65 ในส่วนผู้ต้องหาที่ 2-7 เป็นเยาวชนได้นำส่งศาลเยาวชนและครอบครัวตามกฎหมาย
ทั้งนี้สามารถยึดของกลางที่ใช้ก่อเหตุ เป็นอาวุธมีดจำนวน 3 เล่ม เสื้อผ้าอุปกรณ์แต่งกายของ
ผู้ก่อเหตุ จำนวน 15 รายการ รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นพีซีเอ็กซ์ ทะเบียน 4ขอ4358 กรุงเทพฯ จำนวน 1 คัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
คดีที่ 5 กรณีจับกุมยาเสพติดรายสำคัญ ผลงาน กก.2 บก.สส.
เมื่อวันที่ 6 ก.ค.65 เวลาประมาณ 22.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.บช.น. ได้ทำการตรวจค้นจับกุมห้องเช่าเปิดเป็นร้านเสริมสวยและรับต่อขนตา (Angle Eyelash) อาคารคิงวันอพาร์ทเม้นต์ เลขที่ 789 ซอยลาดกระบัง 14/1 (ซอยย่อย ราชา 1) ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 3 ราย คือ
1.นายเอกชัยฯ อายุ 26 ปี
2.นายชินกรฯ อายุ 22 ปี
3.นายนัฐพงษ์ฯ อายุ 27 ปี
พร้อมด้วยของกลาง
1.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวนประมาณ 188,000 เม็ด
2.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) น้ำหนักรวมประมาณ 980 กรัม
3.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน ) น้ำหนักรวมประมาณ 380 กรัม
4.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) แบบผงบรรจุซองสีทอง จำนวน 26 ถุง น้ำหนักรวมประมาณ 54 กรัม
5.โทรศัพท์มือถือ จำนวน 4 เครื่อง ,ตรวจยึดรถยนต์ 1 คัน รถจักรยานยนต์ 2 คัน
โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1(เมทแอมเฟตามีน) อันเป็นการมีไว้เพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป”
สืบเนื่องจากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.บช.น.ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่ จำนวนหลายคดีอย่างต่อเนื่อง ในพื้นที่กรุงเทพมหานครตลอดจนพื้นที่ใกล้เคียง และสืบสวนขยายผลเรื่อยมา
จนทราบว่ามีกลุ่มผู้ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดย่านลาดกระบัง-ราชาเทวะ ซึ่งใช้รถยนต์ฟอร์ดโฟกัส สีขาว ติดแผ่นป้ายทะเบียน 4กษ-3563 กรุงเทพมหานคร และอาศัยภายในห้องเช่า ซึ่งด้านหน้าเปิดเป็นร้านเสริมสวยและรับต่อขนตา (Angle Eyelash) อาคารคิงวัน อพาร์ทเม้นต์ เลขที่ 789 ท้ายซอยลาดกระบัง 14/1 (ซอยย่อย ราชา 1) ต.ราชาเทวะ
อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ซึ่งมีพฤติกรรมไปรับยาเสพติดย่านจังหวัดนนทบุรี จังหวัดนครปฐม เพื่อนำมาพักไว้ในห้องพักด้านหลังร้านเสริมสวย ก่อนที่ส่งให้กับลูกค้าในหลายพื้นที่
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2565 เวลาประมาณ 18.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่ารถยนต์ของกลุ่มดังกล่าวเดินทางออกจากบ้านพักในซอยลาดกระบัง 14/1 ขึ้นด่วนพระราม9 มุ่งหน้าจังหวัดนนทบุรี ซึ่งเชื่อว่าน่าจะไปรับยาเสพติด ซึ่งกลุ่มดังกล่าวจะทำเช่นนี้เป็นประจำ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและได้สั่งการให้นำกำลังไปเฝ้าสังเกตุการณ์บริเวณห้องพักภายในซอยลาดกระบัง 14/1 จนกระทั่งเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2565 เวลาประมาณ 22.00 น.พบรถยนต์ฟอร์ดโฟกัส สีขาว ติดแผ่นป้ายทะเบียน 4กษ-3563 กรุงเทพมหานคร ขับรถเข้ามาวนบริเวณลานจอดรถอาคารคิงค์วัน และกลับมาจอดบริเวณหน้าร้านเสริมสวย ซึ่งเจ้าหน้าที่เห็นเหตุการณ์โดยตลอด พบชายวัยรุ่น
2 คน ช่วยกันยกกระสอบกระสอบปุ๋ยสีขาว ลักษณะมีน้ำหนัก ซึ่งเชื่อว่าเป็นยาเสพติดอย่างแน่นอน เข้าไปในร้านและปิดประตูรูดม่านหน้าร้าน จนกระทั่งเวลาประมาณ 22.30 น. พบชายวัยรุ่นอีก 1 คน ขับรถจักรยานยนต์มาจอดหน้าร้านและเปิดประตูเดินเข้าไปในร้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าแสดงตัวตรวจค้นจับกุมพบของกลางดังกล่าว จากการสอบถามผู้ต้องหาทั้ง 3 รายให้การรับสารภาพ โดยนายเอกชัยฯ และนายชินกรฯ ซึ่งเป็นพี่น้องกันรับว่าพึ่งไปรับยาเสพติดจากย่านจังหวัดนนทบุรี ส่วนนายนัฐพงษ์ฯรับว่ากำลังจะมารับยาเสพติดที่สั่งซื้อจากนายเอกชัยฯ ซึ่งนายเอกชัยฯ รับว่าตนเองทำมาแล้ว 7-8 เดือน ได้ค่าจ้าง ลูกละ 1500 บาท(1ลูก/20,000 เม็ด) จึงได้จับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหา
– นายเอกชัยฯ ข้อหา ลักลอบเล่นการพนัน พื้นที่ สน.อุดมสุข โทษปรับ
– นายชินกรฯ ข้อหา ครอบครองยาเสพติด พื้นที่ สน.อุดมสุข ปี 2563
– นายนัฐพงษ์ฯ ข้อหา ทำให้เสียทรัพย์ , พ.ร.บอาวุธปืน สภ.สมุทรปราการ ปล่อยตัว ปี 2561
พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. ได้เน้นย้ำเพื่อให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนว่า จะมุ่งเน้น
การป้องกันอาชญากรรม ให้กับพี่น้องประชาชน และเมื่อเกิดเหตุแล้วจะเร่งทำการ สืบสวน ติดตามจับกุม คนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วทุกคดีและจะดำเนินการกวาดล้างอาชญากรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครมีความปลอดภัยมากที่สุด
บช.น. ขอเรียนพี่น้องประชาชนว่า ถึงแม้ว่าช่วงนี้จะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19
แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและยาเสพติดอย่างเคร่งครัด พบเห็นหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิด โปรดแจ้งสายด่วน 191 หรือสถานีตำรวจท้องที่