นิคมสหกรณ์ดอนตาล
อุทยานกับประชาชน
เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2565
เวลา 11:00 น นายอภิชาติ ศรีสุนทร ประธานคณะกรรมาธิการที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร พร้อมคณะลงพื้นที บ้านภูผาหอมหมู่ที่ 8 ตำบลนาสะเม็ง อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร เมื่อเดินทางมาถึงยังพื้นที่บ้านภูผาหอม นายบุญนาม อินทปัญญา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาสะเม็งพร้อมด้วย นายสรศักดิ์ เปี่ยมสง่า สอ.บจ. อำเภอดอนตาลเขต 1
และนายปราโมทย์ เพชราเวช สอ.บจ
อำเภอดอนตาลเขต 2 และนายรัฐศาสตร์ พรหมวาส สอ.บจ.อำเภอดอนตาลเขต 3 กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในเขตพื้นที่อำเภอดอนตาล มาให้การต้อนรับ ประธานคณะกรรมาธิการที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อถึงสถานที่ ประธานกรรมาธิการและคณะได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบแนวหลักเขตของกรมอุทยานที่เป็นข้อพิพาทระหว่างประชาชนกับกรมอุทยาน และนิคมสหกรณ์ดอนตาล เพื่อตรวจ สอบหาความชัดเจนระหว่างข้อพิพาทดังกล่าว เพื่อหาทางออกและทางแก้ไขให้กับพี่น้องผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยบ้านภูผาหอมหมู่ที่ 8 เนื่องจากเป็นที่ดินทำกินมาตั้งแต่ปี 2511 จนมาถึงปี 2565 ซึ่งชาวบ้าน ที่ยื่นขอเอกสารสิทธิ์ไม่สามารถที่จะยื่นเอกสารเสร็จเป็นโฉนดได้เนื่องจากกรมอุทยานไปปักแนวเขตรุกล้ำเข้ามาในเขตพื้นที่ทำกินเดิมของพี่น้องประชาชนบ้านภูผาหอมหรือบ้านผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ซึ่งในกรณีดังกล่าว ประธานกรรมาธิการที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสภาผู้แทนราษฎร จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าไปตรวจสอบเพื่อหาหนทางแก้ไขกรณีข้อพิพาทดังกล่าวให้กับพ่อแม่พี่น้องประชาชนในเขตพื้นที่อำเภอดอนตาลต่อไปภาพโดย อภิศักดิ์ ศรีเฉลียว เรียบเรียงโดย สุดารัตน์ คนไว เหยี่ยวข่าวยอดพญายมรายงาน

ในขณะเดียวกันก็มีเอเย่นต์ทัวร์จากมาเลเซียเข้ามาดูในพื้นที่จังหวัดสงขลาหลังประเทศไทยเปิดประเทศเพื่อจะนำไปโปรโมทลงในโปรแกรมทัวร์ หลังปลดล็อค thailand pass ทำให้ขายทัวร์ได้ง่ายขึ้น ตอบโจทย์ได้ง่ายขึ้น และแม่ค้าชายหาดสมิหลาเริ่มรับเงินต่างประเทศทั้งเงินดอลล่าสิงคโปร์ เงินริงกิตมาเลเซีย เงินรูเปียอินโดนีเซีย วันนี้เงินริงกิตมาเลเซีย 1 ริงกิตแลกเป็นเงินไทยได้ 8 บาท
สถานการณ์ท่องเที่ยวในจังหวัดสงขลา หลังมีการเปิดประเทศไปแล้วกำลังเข้า 3 เดือน ณ วันนี้มีชาวมาเลเซียเริ่มทยอยเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น ในขณะเดียวกัน วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 นี้ ทางรัฐบาลได้มีการยกเลิกระบบไทยแลนด์พาส (Thailand Pass) ไม่บังคับให้นักท่องเที่ยวซื้อและแสดงเอกสารการทำประกันสุขภาพ รวมถึงมาตราการผ่อนคลายต่างๆ ในการผ่านด่านศุลกากรข้ามพรมแดนเข้ามา ซึ่งส่งผลดีต่อการกระตุ้นยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มมากขึ้น ทำให้มีจำนวนผู้เดินทางเข้าไทยเพิ่มขึ้น เศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดสงขลาก็จะดีขึ้นเช่นกัน
ในขณะเดียวกันก็มีเอเย่นต์ทัวร์จากมาเลเซีย เดินทางเข้ามาดูพื้นที่ในจังหวัดสงขลาหลังประเทศไทยเปิดประเทศเพื่อจะนำไปโปรโมทลงในโปรแกรมทัวร์ หลังปลดล็อค thailand pass ทำให้ขายทัวร์ได้ง่ายขึ้น ตอบโจทย์ได้ง่ายขึ้น และผู้ประกอบการร้านขายเสื้อผ้าชายหาดสมิหลาก็เริ่มรับเงินต่างประเทศ ทั้งเงินดอลล่าสิงคโปร์ เงินริงกิตมาเลเซีย เงินรูเปียอินโดนีเซีย สำหรับค่าเงินของมาเลเซีย ณ วันนี้1 ริงกิตแลกเป็นเงินไทยขึ้นไปเป็น 8 บาท ทำให้ชาวมาเลเซียตัดสินใจซื้อของได้มากขึ้น
โดยร้านค้าที่รับเงินต่างประเทศ ตอนนี้จะเป็นเงินดอลลาร์สิงคโปร์เงินริงกิตมาเลเซียและเงินรูเปียอินโดนีเซีย สำหรับเงินรูเปียอินโดนีเซียรับอยู่ 100,000 รูปีเท่ากับ 200 บาทไทย เวลานักท่องเที่ยวอินโดนีเซียเข้ามาซื้อสินค้า ในส่วนค่าเงินของมาเลเซีย ณ วันนี้ขึ้นไปเป็น 8 บาท แต่ละวันมีความเสี่ยง เพราะค่าเงินขึ้นลงไม่เท่ากัน ก็ต้องมาตกลงกันก่อนอันนี้หมายถึงเงินริงกิตของมาเลเซีย
ผู้ประกอบการร้านค้าชายหาดสมิหลาสงขลา ดีใจและตื่นเต้นที่มีการยกเลิก thailand pass ประเทศไทยทำถูกต้องและก็คุ้มมากๆ เพราะรู้ว่าอะไรต่อไปที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทยและจังหวัดสงขลาขอบคุณรัฐบาล ขอบคุณมากๆ ตอนนี้ยังไม่ได้คาดหวังอะไร แค่ปลดล็อคประเทศก็โอเคแล้ว ขอไปหลายๆสิ่งหลายๆอย่าง รัฐบาลรับฟังเสียงประชาชน ทำให้ ก็โอเคแล้ว
คุณณิชามล ชูมนุษย์ เจ้าของร้านณัชชาของฝาก กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่มีการยกเลิก thailand pass และเชื่อว่าแม่ค้าที่ติดชายแดน ไม่ว่าหาดใหญ่ สงขลา พัทลุง กระบี่ พังงาดีใจหมด ดีใจแล้วก็ตื่นเต้น เพราะเรารู้ว่าอะไรต่อไปที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทยเราและก็จังหวัดสงขลาของเรา
ทราบว่ามีผู้ประกอบการทัวร์ของมาเลเซียเดินทางเข้ามา ใช่ค่ะ ก็คือเอเย่นต์ทัวร์หมายถึงผู้ที่ขายทัวร์ เขาจะมาโปรโมทว่า ตอนนี้ประเทศไทยกี่เปอร์เซ็นต์แล้วที่ได้ทำการเปิดประเทศและได้อะไรบ้าง ที่เขาสามารถขายได้ในประเทศของเรา เขาก็จะเอาไปลงในโปรแกรมทัวร์ของเขา โดยเขาเดินทางมาดู มาเยี่ยมรวมทั้งมาสอบถามเราบ้างว่า ตรงไหน ที่ไหน อะไรแบบนี้ แต่จริงๆพื้นฐานเขามีอยู่แล้วเพราะเขาเป็นบริษัททัวร์เก่าอยู่แล้ว แต่เขาต้องการเปิดให้มันกว้างกว่านี้ ก็คือหลักๆเลย thailand pass พอปลดล็อค ทำให้พวกเขาขายทัวร์ได้ง่ายขึ้น ตอบโจทย์ได้ง่ายขึ้น
ในส่วนของที่ร้านณัชชาสมิหลา เขามาดูสินค้า มาดูงานมัดย้อมของเรา ที่เราทำ ว่าเราทำจริงไหม คือตัวนี้เป็นตัวชูโรงของเรา ซึ่งชาวมาเลเซียเขาชอบงานมัดย้อมของเราเขาชอบมาก ยิ่งเขามาเจอสถานที่ที่เราทำ ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอน แต่ละขั้นตอน นั่นเป็นจุดขายจุดแรกของเขาเลย คือเหมือนกับว่า เขาขายส่วนตรงนี้ ให้มาดูสถานที่ทำของเราและก็ได้ทำ และได้ซื้อกลับ
แต่เราเชื่อว่าปลดล๊อค thailand pass คุ้มค่ะ ประเทศไทยทำถูกต้องและก็คุ้มมากๆ อยากจะขอบคุณรัฐบาล ขอบคุณหลายๆเรื่อง ที่รับฟังเสียงประชาชนโดยเฉพาะแม่ค้าตัวเล็กๆตาดำๆที่พูดออกไปและตอบโจทย์แม่ค้า ก็คือ ที่ผ่านมาเรายอมรับเลย ไม่ใช่แต่หนู แต่หลายๆท่าน แม่ค้าที่เขาอยู่กับชาวต่างชาติลำบากมาก พูดเลยว่า ลำบากจริงๆ ต่อให้มีเงินเก็บ มีที่ดิน ยังไงก็หมด แต่พอรัฐบาลปลดล็อคตรงนี้ ฟังเสียงเล็กๆของเราตรงนี้ มันทำให้เรามีกำลังใจในการสู้ สู้กับสภาวะที่จะเกิดขึ้น แต่เราไม่สนใจเพราะเรามีรายได้เข้ามาแล้ว ขอบคุณรัฐบาลขอบคุณมากๆ ถ้าถามว่า ตอนนี้คาดหวังอะไรบ้าง ยังไม่ได้คาดหวังอะไรเลย แค่ปลดล็อคประเทศก็โอเคแล้ว แค่เราขอไปหลายๆสิ่ง หลายๆอย่าง ที่ท่านทำให้ก็โอเคแล้วค่ะ

นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

(Integrity and Transparency Assessment: ITA) ชาวสพป.สงขลา 2
ขยับ ระดับ AA พร้อมตอบไม่เอาทุจริต
วันนี้ 20 มิถุนายน 2565 ณ ห้องประชุมราชพฤกษ์ สพป.สงขลา เขต 2 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายอุทัย กาญจนะ ผอ.สพป.สงขลา เขต 2 เป็นประธาน เปิดโครงการเสริมสร้างคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของ สพป.สงขลา เขต 2 ประจำปี 2565 เป็นแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี(พ.ศ.2561- 2580) การต่อต้านการทุจริตประพฤติมิชอบ ภายใต้ความจำเป็นในการแก้ไขสถานการณ์ปัญหาการทุจริตของประเทศ ช่วงที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปราม การทุจริต แก้ไขปัญหาการทุจริตของประเทศ โดยได้ร่วมกันสร้างเครื่องมือ กลไกและกำหนดเป้าหมายสำหรับการปฏิบัติงาน ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ส่งผลให้ทุกภาคส่วนเกิดความตื่นตัว มีส่วนร่วมในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ตามบทบาทและภาระหน้าที่ของตนเองเพิ่มมากขึ้น
เพื่อร่วมกันลดความรุนแรงในการทุจริต สืบเนื่องมาจากวิวัฒนาการของการทุจริต ที่มีรูปแบบ สลับซับซ้อน ขาดจิตสำนึกในการแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตนและส่วนรวม ปัจจุบันยังมีการร่วมกระทำการทุจริต ร่วมกันฉ้อโกงรัฐ โดยเฉพาะในโครงการขนาดใหญ่ที่ต้องใช้งบประมาณมาก ทำให้รัฐและประเทศชาติได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง จากการสูญเสียงบประมาณแผ่นดินไปกับการทุจริต
จึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีการกำหนดแนวทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหาโดยการดำเนินการขับเคลื่อนโครงการเสริมสร้างคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 2 ประจำปี 2565 ขึ้น เพื่อยกระดับการการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 2 (Integrity and Transparency Assessment: ITA) ให้สูงขึ้น ,สร้างการรับรู้ความเข้าใจให้บุคลากรมีความรู้ความเข้าใจ เกิดความตระหนักรู้ ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต มีค่านิยมร่วมต้านทุจริต มีจิตสำนึกสาธารณะ และสามารถแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม และสอบทานตนเอง พร้อมทั้งปรับปรุงการทำงานให้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลในส่วนที่ยังขาดตกบกพร่อง มีการพัฒนาระบบงานให้เกิดความโปร่งใส มีการปรับปรุงการบริหารงานอย่างเป็นธรรม ทั้งต่อบุคลากรในหน่วยงาน และมีต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของหน่วยงานได้เป็นอย่างดี ซึ่งมีบุคลากร ในสังกัด สพป.สงขลา เขต 2 จำนวน 60 คนเป็นเวลา 1 วัน

สร้างความรู้ความเข้าใจ และแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากคณะวิทยากร และบุคลากรในสังกัด ที่สอดรับ รวดเร็ว โปร่งใส ใส่ใจบริการ มีมาตรฐาน สานฝันสู่ความเป็นเลิศ

นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

“อลงกรณ์”เผยข่าวดีจีนเปิดด่าน”ตงชิง”ต้อนรับฤดูกาลผลไม้ภาคเหนือและภาคใต้ พร้อมจับมือเครือค้าปลีกกลุ่มอาลีบาบาและกลุ่มเรนโบว์เร่งโหมตลาด33เมืองใหญ่ในแดนมังกรและญี่ปุ่น

ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) เปิดเผยวันนี้(18 มิ.ย.)ว่า การส่งออกทุเรียนไทยไปจีนยังเป็นไปตามแผนปฏิบัติการผลไม้ปี2565 โดยสามารถส่งออกทุเรียนจากภาคตะวันออกไปจีน ณ วันที่ 16 มิถุนายน เป็นจำนวน 485,866 ตัน และคาดว่าจะสามารถส่งออกไปจีนทะลุตัวเลข 500,000 ตันภายในสัปดาห์หน้าซึ่งนอกจากจะทำลายสถิติการส่งออกทุเรียนในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2564ซึ่งมีปริมาณ 4.2 แสนตันแล้วยังเป็นการทำลายสถิติโลกที่ไทยสามารถส่งออกผลไม้สดชนิดเดียวเกินครึ่งล้านตันภายในเวลา6เดือนและยังเป็นผลไม้ที่มาจากสวนทุเรียนและล้งที่มีมาตรฐานการเกษตรที่ดีคือGAPและGMP ทั้งหมด

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า ได้รับรายงานจากนายสมชวน รัตนมังคลานนท์ รองปลัดกระทรวงเกษตรฯ.ว่า จีนได้เปิดด่านตงซิงแล้วเมื่อวานนี้( 17 มิถุนายน)โดยมีเวลาทําการ 08.00-18.00 น. ซึ่งทำให้ขณะนี้จีนได้เปิดทุกด่านนำเข้าผลไม้ไทยแล้วทั้งด่านรถด่านเรือด่านเครื่องบินและด่านรถไฟซึ่งถือเป็นช่วงจังหวะดีในการเปิดรับฤดูกาลผลไม้ภาคเหนือและภาคใต้ของเรา การเปิดด้านตงชิงเกิดขึ้นหลังจากเอกอัครราชทูตจีนเดินทางไปเยี่ยมชมสวนทุเรียน ล้งและสหกรณ์ผลไม้ที่จังหวัดจันทบุรีเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการยังต้องติดตามสถานการณ์ด่านอย่างใกล้ชิด และต้องป้องกันการปนเปื้อนเชื้อโควิด และฆ่าเชื้อสินค้าอย่างเคร่งครัด
นอกจากนี้ทีมไทยแลนด์ในจีนยังโหมทำการตลาดโปรโมทผลไม้ไทยอย่างต่อเนื่อง
โดยล่าสุดฝ่ายเกษตร ประจำสถานกงสุลใหญ่ ณ นครกว่างโจว ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองเซี่ยเหมิน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานกว่างโจว และห้างสรรพสินค้าเรนโบว์ จัดกิจกรรม Thai Products Festival, Xiamen 2022 ระหว่างวันที่ 10 – 23 มิถุนายน 2565 เพื่อส่งเสริมการจำหน่ายสินค้าไทยผ่านช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ในตลาดจีน ผลักดันการเพิ่มส่วนแบ่งตลาดสินค้าไทยในตลาดจีน ผ่านห้างสรรพสินค้าเรนโบว์ในเมืองเซี่ยเหมิน 6 สาขา ทั้งนี้ เครือเรนโบว์ดำเนินธุรกิจด้านการค้าปลีกติด 1 ใน 100 บริษัทชั้นนำด้านการค้าปลีกของจีน โดยมีห้างสรรพสินค้าและซุปเปอร์มาเก็ตใน 33 เมืองของจีน จำนวนรวมกว่า 120 สาขา อาทิ กรุงปักกิ่ง เมืองเซินเจิ้น เมืองตงก่วน นครฝูโจว เมืองเซี่ยเหมิน เป็นต้นและสัปดาห์ที่แล้วฝ่ายเกษตร ประจำสถานกงสุลใหญ่ ณ นครกว่างโจว ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองกวางโจว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานกว่างโจว บริษัท HONGJIU FRUIT และบริษัท Shenzhen HEMA Network Technology Co.,Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทในเครืออาลีบาบา จัดงานส่งเสริมการขายสินค้าผลไม้ไทย (Thai Fruits Golden Months @ Shenzhen) ระหว่างวันที่ 8 – 15 มิถุนายน 2565 เพื่อประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการตลาดผลไม้ไทยทั้งในแพลตฟอร์มออนไลน์และออฟไลน์ผ่านซุปเปอร์มาเก็ตเหอหม่าจำนวน 25 สาขาในเมืองเซินเจิ้น ทั้งนี้ ซุปเปอร์มาเก็ตเหอหม่าเป็นการดำเนินการในเครือธุรกิจของอาลีบาบา มีการจำหน่ายสินค้าคุณภาพทั้งสินค้าของจีนและสินค้านำเข้า ทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ผสมผสานกัน โดยมีสาขาทั่วจีนกว่า 330 สาขา
เป็นการจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์คุณภาพมาตรฐานของผลไม้ไทยที่ส่งออกมายังประเทศจีน เพื่อสร้างภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภคชาวจีน เป็นการบูรณการการทำงานภายใต้นโยบาย “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” ของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน) เพื่อส่งเสริมการขยายตลาดสินค้าผลไม้ไทย และสร้างความเชื่อมั่นในผลไม้ไทยที่มีคุณภาพและสอดคล้องกับมาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหารของจีน
ส่วนสำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำกรุงโตเกียวได้จัดทำคลิปประชาสัมพันธ์มะม่วงไทย Exotic Thai Mango (Nam Dok Mai) เพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์คุณภาพของผลไม้ไทย เผยแพร่ในประเทศญี่ปุ่น โดยบูรณาการร่วมกับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว และ สคต. ทั้งนี้ ท่านเอกอัครราชทูตให้เกียรติร่วมบันทึกคลิปและเอื้อเฟื้อใช้ทำเนียบฯ เป็นสถานที่ถ่ายทำ.

พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น./โฆษก บช.น. และ พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์
รอง ผบช.น./ รองโฆษก บช.น. เผยข่าวสารให้ประชาชนได้รับทราบกรณี กองบัญชาการ
ตำรวจนครบาล มีแนวทางในการบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำความผิดตามกฎหมายจราจร และไม่มาชำระ
ค่าปรับภายในระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งที่ผ่านมาพบว่ามีผู้ที่กระทำความผิดตามกฎหมายจราจรแล้วไม่ไปชำระ
ค่าปรับจำนวนมาก และยังคงมีพฤติการณ์ที่ฝ่าฝืนกฎหมายจราจซ้ำ ๆ เป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนและเกิดปัญหาการจราจร สร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินรวมถึงภาพลักษณ์ของประเทศ อย่างต่อเนื่อง

กองบัญชาการตำรวจนครบาล จึงได้กำหนดมาตรการในการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว
เพื่อส่งเสริมให้ผู้ขับขี่มีวินัยจราจร ซึ่งจะช่วยลดปัญหาอุบัติเหตุและปัญหาจราจรในกรุงเทพมหานครได้
ในระดับหนึ่ง โดยมีขั้นตอนการปฏิบัติ ดังนี้

1. เจ้าพนักงานจราจรออกใบสั่งให้กับผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522
   ทั้งแบบความผิดซึ่งหน้าและความผิดที่ตรวจจับด้วยกล้องตรวจจับการกระทำความผิด ระยะเวลาเป็นไป
   ตามที่กฎหมายกำหนด
2. กรณีผู้กระทำความผิดไม่มาชำระค่าปรับ เมื่อพ้นระยะเวลาที่กำหนดไว้ในใบสั่งแต่ละประเภท เจ้าพนักงานจราจรจะออกหนังสือแจ้งการไม่ปฏิบัติตามใบสั่ง (ใบเตือน) โดยจัดส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับภายใน 15 วัน นับแต่วันครบกำหนดชำระค่าปรับในใบสั่ง โดยให้ถือว่าเจ้าของผู้ครอบครอง ได้รับแจ้งเมื่อพ้นกำหนด 15 วัน นับแต่วันส่ง และต้องชำระค่าปรับภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งซึ่งในขั้นตอนที่ 1. และ 2. ผู้กระทำความผิดสามารถเลือกชำระค่าปรับ ได้ที่สถานีตำรวจ
   ทุกสถานีทั่วประเทศ, ช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ของธนาคารกรุงไทย, เคาน์เตอร์เซอร์วิสที่มีสัญลักษณ์ PTMและทางไปรษณีย์
3. กรณีพ้นระยะเวลาที่กำหนดไว้ในใบเตือน และผู้กระทำความผิดยังไม่มาชำระค่าปรับ
   นอกจากการส่งข้อมูลไปยังกรมการขนส่งทางบกเพื่อดำเนินการตามมาตรการงดออกเครื่องหมายการเสีย
   ภาษีประจำปีแล้ว พนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกผู้ต้องหาเพื่อให้มาชำระค่าปรับ หากไม่มาพบตาม
   หมายเรียกทั้ง 2 ครั้ง พนักงานสอบสวนจะ ยื่นคำร้องขออนุมัติศาลในเขตพื้นที่เพื่อออกหมายจับ
4. กรณีถูกออกหมายเรียก หรือหมายจับ ผู้ต้องหาจะถูกแจ้งข้อกล่าวหา ตามข้อหาที่ผู้ต้องหากระทำผิดตามใบสั่ง และความผิดข้อหาตามมาตรา 155 “ผู้ใดไม่ปฏิบัติตาม ม. 141 (ชำระค่าปรับในเวลาที่กำหนดในใบสั่ง) โดยไม่มีเหตุอันสมควร ต้องระวางโทษ ปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท ซึ่งในขั้นตอนนี้ผู้ต้องหาต้องเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนด้วยตนเอง ณ สถานีตำรวจที่ออกหมายเรียก หมายจับไม่สามารถชำระผ่านช่องทางต่างๆ ตามข้อ 2. ได้
5. ผลของการถูกออกหมายจับในคดีอาญา เมื่อถูกออกหมายจับแล้ว จะถูกบันทึกในระบบฐานข้อมูลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

• เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวบุคคลที่มีหมายจับได้ทั่วราชอาณาจักร โดยใช้เทคโนโลยี
  ในการเชื่อมฐานข้อมูล
• หากบุคคลที่มีหมายจับเดินทางออกนอกประเทศจะถูกจับ และเกิดความยากลำบากในเรื่องการเดินทาง
• ถูกบันทึกในทะเบียนประวัติซึ่งอาจส่งผลต่อการประกอบอาชีพการทำงาน กรณีที่หน่วยงานสอบถามประวัติคดีอาญาว่าเป็นบุคคลที่มีหมายจับ
• เกิดความยากลำบากและความน่าเชื่อถือในการทำนิติกรรม

1. กรณีผู้ต้องหามาพบพนักงานสอบสวนด้วยตนเองหรือถูกจับกุม และยินยอมเปรียบเทียบปรับให้คดีอาญาเลิกกัน

หากประชาชนมีข้อสงสัยว่ามีใบสั่งค้างชำระหรือไม่ สามารถตรวจสอบได้ผ่านช่องทางใบสั่ง
จราจรออนไลน์สำหรับประชาชน https://ptm.police.go th/eTicket/#/ จึงขอแจ้งประชาสัมพันธ์
ให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบ และขอความร่วมมือทุกท่านในการปฏิบัติตามกฎหมายจราจร เพื่อช่วยกัน
ลดปัญหาการเกิดอุบัติเหตุ และปัญหาการจราจรที่เกิดจากการไม่เคารพกฎหมายจราจรและไม่มีวินัย เพื่อให้
สังคมไทยเป็นสังคมที่ปลอดภัยและน่าอยู่ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่
ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร (บก.02) หมายเลขโทรศัพท์ 1197 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือทาง Facebook
และ Twitter 1197
นครบาลใส่ใจเพื่อความปลอดภัยของประชาชน ทีมโฆษก กองบัญชาการตำรวจนครบาล

จากกรณีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติตะรุเตาออกลาดตระเวนพบชาวโรฮีนจา จำนวน 59 คน ที่บริเวณเกาะดง (ห่างจากเกาะหลีเป๊ะประมาณ 20 กม.) ซึ่งถูกนายหน้าลักลอบพาเข้ามายังประเทศไทยแล้วนำทิ้งไว้บนเกาะดง โดยหลอกลวงว่าได้เดินทางมาถึงประเทศมาเลเซียแล้ว มีสภาพอดข้าวอดน้ำอยู่ที่บริเวณดังกล่าวมาไม่ต่ำกว่า 5-7 วัน ซึ่งขณะนี้ได้รับการช่วยเหลือเบื้องต้นจากเจ้าหน้าที่ฝั่งไทย ตามที่สื่อมวลชนและสื่อโซเชียลนำเสนอแล้ว นั้น

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันเสาร์ที่ 18 มิ.ย.65 เวลาประมาณ 12.00 น. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศพดส.ตร. พร้อมด้วย Ms.Nivene Albert ผู้แทนจาก UNHCR และ Mr. Phil Robertson ผู้แทนจากฮิวแมนไรท์วอทช์ (Human Rights Watch) และคณะเดินทาง รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่จังหวัดสตูลเพื่อตรวจสอบติดตามความคืบหน้า ที่บริเวณกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 436 จ.สตูล ซึ่งได้จัดให้เป็นที่พักชั่วคราวของชาวโรฮีนจากลุ่มนี้

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ฯ ได้พาคณะผู้แทนจากหน่วยต่างๆ เข้าไปสังเกตการณ์ในภาพรวมเกี่ยวกับการดูแลความเป็นอยู่ และที่พักของชาวโรฮีนจา โดยทางคณะผู้แทนฯ เข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลช่วยเหลือร่วมกับทางการไทยดำเนินการให้เป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน และเข้าประชุมรับฟังบรรยายสรุป ความคืบหน้าคดีในการสืบสวนสอบสวนติดตามผู้กระทำผิด และขบวนการนำพาชาวโรฮีนจามาปล่อยทิ้งไว้
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ฯ กล่าวว่า ชาวโรฮีนจากลุ่มนี้ ได้ถูกนำมาปล่อยทิ้งไว้จริง ซึ่งมีการประสานกับตำรวจน้ำและ ศรชล.ของกองทัพเรือ ให้เข้าช่วยเหลือชาวโรฮีนจาทั้งหมดขึ้นฝั่ง เพื่อให้มีการช่วยเหลือตามหลักสิทธิมนุษยชน นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันตรวจสอบว่ามีการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์หรือไม่ และในวันนี้ได้พาคณะจากผู้แทน UNHCR และฮิวแมนไรท์วอทช์ (Human Rights Watch) มาติดตามดูแลสภาพความเป็นอยู่ของชาวโรฮีนจา และปรึกษาหารือกันว่า จะจัดส่งชาวโรฮีนจาไปประเทศที่ 3 อย่างไร และจะมีการประสานงานกับ ผบ.ตร.มาเลเซีย ขอความร่วมมือในการติดตามผู้ต้องหาตามหมายจับของเอเย่นชาวมาเลเซียทั้ง 5 คน เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ที่ผ่านมา พล.ต.ต.อรุษ แสงจันทร์ ผบก.ภ.จว.สตูล ได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีอาญา โดยการคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากคดีค้ามนุษย์เป็นเรื่องที่สำคัญ หลังจากดำเนินการคัดแยกเหยื่อแล้ว ผลปรากฏว่าไม่พบผู้ใดเป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์ โดยขั้นตอนต่อไปจะเป็นการสอบปากคำพยานเพื่อหาตัวผู้กระทำความผิดนำชาวโรฮีนจากลุ่มนี้เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ส่วนบุคคลที่มีบัตร UNHCR จะส่งต่อไปยังองค์การสหประชาชาติ (UN) เพื่อรับตัวไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง และบุคคลที่เหลือจะส่งต่อไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนตามระเบียบและกฎหมายไทยต่อไป
ในการนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอความร่วมมือพี่น้องสื่อมวลชน ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน ได้ทราบถึงการดำเนินการและการกระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบนำพาคนเข้าราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย หากประชาชนพบเห็นการกระทำผิดในลักษณะดังกล่าว สามารถแจ้งข้อมูลมายัง ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) โดยตรง ช่องทางสายด่วน 1599 หรือ http://www.humantrafficking.police.go.th หรือ ผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/TICAC2016 หรือ LineOA: @HUMANTRAFFICKTH หรือ TWITTER: @safe_dek หรือช่องทางใหม่ล่าสุดคือ การสแกน QRCODE เพื่อกรอกแบบฟอร์มในการแจ้งเหตุและเบาะแสการกระทำผิดดังกล่าวเพื่อแจ้งเบาะแสในการปราบปรามการกระทำผิดต่อไป

นายแพทย์กฤษณ์ติพัฒน์ พิริยะกรเจริญกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายแพทย์และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารเวชศาสตร์ ประจำโรงพยาบาลราษฎร์นรา จ.นราธิวาส เปิดเผยว่า ในระยะนี้มีผู้ป่วยที่เป็นเด็กตั้งแต่อายุ 3 ปีจนถึง 12 ปี เข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาลราษฎร์นราอย่างต่อเนื่องใน 3 โรคคือ โรคมือเท้าปาก ,โรค RSV และโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A โดยมีสาเหตุจากอยู่ในช่วงฤดูฝน และการกลับมาเปิดเรียนหลังสถานการณ์โควิด-19 ทำให้เกิดการระบาดในกลุ่มเด็กที่มีการรวมตัวกัน และใช้ชีวิตประจำวันในโรงเรียน ทานอาหารร่วมกันจำนวนมาก ซึ่ง โรงเรียนและผู้ปกครองต้องช่วยกันเฝ้าระวัง ใช้มาตรการป้องกันในการล้างมือและสวมหน้ากาก และที่สำคัญเด็กทุกคนควรได้รับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เพื่อเป็นการป้องกันเบื้องต้น ผู้อำนวยการฝ่ายแพทย์ ประจำโรงพยาบาลราษฎร์นรา กล่าวถึงการดำเนินการของโรงพยาบาลราษฎร์นราหลังที่มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการว่าระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมาถือว่าได้รับผลตอบรับที่ดีมาก ทางโรงพยาบาลมีทีมแพทย์หมุนเวียนและประจำที่โรงพยาบาลจำนวน 6 ท่าน ซึ่งแต่ละท่านมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน โดยด้านสูตินารีเวช และกุมารเวชนั้นได้รับการตอบรับที่ดีมาก มีคุณแม่ที่เข้ามาคลอดแล้ว 10 ราย และมีเด็กเข้ามาตรวจโรคทั่วไปและพักรักษาตัวอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันโรงพยาบาลมีเตียงรองรับ 38 เตียง และในปีหน้าจะเพิ่มเป็น 100 เตียงและ 200 เตียงเต็มจำนวนที่ขอไว้ทันที

ผู้อำนวยการฝ่ายแพทย์ ประจำโรงพยาบาลราษฎร์นรา กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า สำหรับโรงพยาบาลราษฎร์นรานั้น ทางโรงพยาบาลมีการคาดการณ์ว่าจะสามารถรองรับกลุ่มผู้ป่วยจากต่างประเทศได้ด้วย โดยประเมินจากที่จังหวัดนราธิวาสเป็นเมืองชายแดน และมีสนามบินในการบินตรง ล่าสุดมีกลุ่มผู้ป่วยจากประเทศคูเวตเข้ามารักษา และคาดว่าหลังจากนี้จะมีกลุ่มผู้ป่วยที่มาจากประเทศทางฝั่งตะวันออกเข้ามารักษามากขึ้น เนื่องจากมีบริษัทที่ขายทัวร์ด้านการแพทย์เข้ามาเจรจาสอบถามข้อมูลอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ในพื้นที่นั้นเชื่อว่าหลังจากนี้จะมีผู้เข้ามารับการรักษาเพิ่มมากขึ้น เป็นการส่งเสริมสร้างรายได้เข้ามาในประเทศและเป็นทางเลือกให้กับประชาชนในพื้นที่อีกด้วย

นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

ที่ ห้องประชุมโกเมน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 2 เลขที่ 2 ถนนสาครมงคล อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นายอุทัย กาญจนะ ผอ.สพป.สงขลา เขต 2 ได้มอบหมายให้นางสาวชฎาพร เสนเผือก รอง ผอ.สพป.สงขลา เขต 2 เป็นประธานเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการยกระดับคุณภาพการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะการแก้ปัญหา สำหรับการเตรียมความพร้อมผู้เรียน ตามแนวทางการประเมินของ PISA รูปแบบออนไลน์ ระหว่างวันที่ 17-18 มิถุนายน 2565 ผู้เข้ารับการอบรมประกอบด้วยครูผู้สอนรายวิชาภาษาไทย, วิชาวิทยาศาสตร์, วิชาคณิตศาสตร์ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 และระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่1-3 วัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาครูผู้สอนให้มีความรู้ ความเข้าใจในการประเมินตามแนวทางการประเมิน PISA สามารถจัดการเรียนรู้โดยฝึกให้นักเรียนทำข้อสอบด้วยคอมพิวเตอร์และการฝึกแก้ปัญหาตามแนวทางการประเมิน PISA 2022 โดยใช้งานระบบ PISA Style ได้ และสามารถจัดการเรียนการสอนที่เน้นกระบวนการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา ตามแนวทางการประเมิน PISA 2022ได้ เพื่อเตรียมความพร้อมยกระดับสมรรถนะของผู้เรียนสู่การแข่งขันบนเวทีโลก วิทยากรบรรยายประกอบด้วย ผศ.นิดาริน จุลวรรณ อาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฎสงขลา/นายวีรพันธ์ เจริญลิขิตกวิน อาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฎสงขลา/ดร.เชิดศักดิ์ ภักดีวิโรจน์ ครูโรงเรียน ภ.ป.ร.ราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และคณะศึกษานิเทศก์ สพป.สงขลา เขต 2

นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2565 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะประธานกรรมการประเมินโครงการ สมาร์ท เซฟตี้ โซน 4.0 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สรเสริญ ใช้สถิตย์ ผบก.น.6, พ.ต.อ.กัมพล รัตนประทีป รอง ผบก.ภ.จว.พิจิตร/คณะกรรมการฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เดินทางมาตรวจโครงการฯ สน.จักรวรรดิ โดยมี พ.ต.อ.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์ ผกก.สน.จักรวรรดิ และภาคีเครือข่ายป้องกันอาชญากรรมในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ และบรรยายสรุปความคืบหน้าของโครงการฯ ภายในพื้นที่ สน.จักรวรรดิ

สำหรับ สน.จักรวรรดิ ได้ดำเนินการโครงการฯ ภายใต้ชื่อ เยาวราชสมาร์ทเซฟตี้โซน 4.0 มีพื้นที่ในโครงการ 0.16 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่สำคัญในย่านตลาดสำเพ็ง และเยาวราช และได้รับความร่วมมือจากภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะผู้ประกอบการร้านทอง เช่น มีการแชร์ภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าร้านของตนเองให้กับทาง สน.จักรวรรดิ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเฝ้าระวังพื้นที่ สามารถจับกุมคดีเกี่ยวกับทรัพย์ ลักทรัพย์ ล้วงกระเป๋า กว่า 18 คดี และสามารถติดตามของหายได้คืน จำนวน 8 คดี เป็นไปตามนโยบายของโครงการฯ ที่จะดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ลดความหวาดกลัวภัยอาชญากรรม และสร้างความพึงพอใจและความเชื่อมั่นของประชาชนต่อการปฏิบัติงานของตำรวจ

นอกจากนี้ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้ลงพื้นที่เยาวราช และสำเพ็ง เพื่อพูดคุยกับผู้ประกอบการบริเวณดังกล่าง อีกทั้งเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์โครงการฯ อีกด้วย

เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2565 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. (ปป.) และผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผอ.ศปทส.ตร.) เปิดเผยว่า จากกรณี เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2565 เวลา 06.30 น. ที่ผ่านมาได้เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานแวกซ์ กาเบ็จ รีไซเคิล เซ็นเตอร์ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 54/1 ม.8 ต.รางบัว จอมบึง ราชบุรี นั้น ในเบื้องต้นได้รับรายงานว่า เป็นโรงงานประเภทรีไซเคิลกากอุตสาหกรรม (106) ที่อยู่ระหว่างการปิดปรับปรุงโรงงาน เบื้องต้นบริเวณที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่โกดังเก็บกักกากอุตสาหกรรม ประเภทกากน้ำมัน และกากสี ประมาณ 1,000 ถัง ถังละ 200 ลิตร ซึ่งขณะนี้ยังไม่สารถดับได้ ยังมีเพลิงไหม้มีเสียงระเบิดเป็นระยะ ๆและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

พล.ต.อ.รอย ยังกล่าวอีกว่า กรณีนี้ได้ประชาชน ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.มานะ กลีบสัตบุศย์ ผู้บังคับการ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ผบก.ปทส) เร่งติดตามสถานการณ์และ ตรวจสอบพร้อมบังคับใช้กฎหมายสถานประกอบการดังกล่าว ซึ่งอาจมีความผิดตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย และกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

โดยให้ประสานกับ หน่วยปฏิบัติการพิทักษ์สิ่งแวดล้อม (ศปก.พล.ภาค8 )ราชบุรี พร้อมให้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์พร้อมตรวจสอบไอระเหยของสารเคมีและก๊าซพิษ บริเวณพื้นที่ชุมชนท้ายลมในระยะ 0.7 – 1 กิโลเมตร เบื้องต้นตรวจไม่พบสารอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) และก๊าไฮโดรเจนซัลไฟด์(H2S)
และจากข้อมูลการรายงานความเสียหายเบื้องต้น พบว่าอาคารโกดังจำนวน 2 หลังถูกไฟไหม้และโครงสร้างเสียหาย ยังไม่ได้รับรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากชุมชน ประมาณ 2 กม. ยังไม่มีการอพยพประชาชนใกล้เคียง ทั้งนี้ มีหน่วยปฏิบัติการฉุกเฉินมลพิษจากสารเคมี (UCER) ร่วมกับ ศปก.พล.ภาค 8 ติดตามสถานการณ์เฝ้าระวังคุณภาพสิ่งแวดล้อม และให้ข้อแนะนำอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งรายงานให้ทราบเพื่อสั่งการต่อไป

โดย นกสีเหลือง,, ข่าวสตช. 01