ส่วนราชการอำเภอเบตง ร่วมกิจกรรมต้อนรับวันฮารีรายออิดิ้ลฟิตรี ประเทศมาเลเซีย กระชับความสัมพันธ์


ยะลา – ส่วนราชการใน อ.เบตง จ.ยะลา ร่วมกิจกรรมต้อนรับวันฮารีรายออิดิ้ลฟิตรี ประจำปี 2565 ณ อำเภอฮูลูเปรัค รัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย กระชับความสัมพันธ์ให้มีความแน่น แฟ้นมาก ยิ่งขึ้นหลังจากมีการเปิดด่านทางบกของทั้ง 2 ประเทศ อย่างเป็นทางการ
วันนี้ 14 พฤษภาคม 2565 ที่บ้านพักนายอำเภอฮูลูเปรัค รัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง พร้อมด้วยนางมุกดา ยังอภัย ณ สงขลา นายกกิ่งกาชาดอำเภอเบตง นำหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่อำเภอเบตง นายก อปท. กำนัน กรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลาสาขาเบตง สมาชิกกิ่งกาชาดอำเภอเบตง ภาคเอกชนเบตง ร่วมกิจกรรมต้อนรับวันฮารีรายออิดิ้ลฟิตรี ประจำปี 2565 ณ บ้านพักนายอำเภอฮูลูเปรัค รัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย โดยมี ต่วนซัยราซาลีซะห์ เบ็ญซาการียา นายอำเภอฮูลูเปรัคพร้อมด้วย นายกเทศบาลกริ๊ก และ ส่วนราชการอำเภอฮูลูเปรัค รัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย ให้การต้อนรับ
โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น หัวหน้าราชการของทั้ง 2 ประเทศ ได้กระชับความสัมพันธ์ไทยและมาเลเซีย ในระดับท้องถิ่น และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันเพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวหลังจากได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เกือบ 3 ปี
นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง กล่าวว่า หลังจากที่มีการเปิดด่านทางบกของทั้ง 2 ประเทศ อย่างเป็นทางการ จึงได้นำส่วนราชการในพื้นที่ เดินทางร่วมวันฮารีรายออิดิ้ลฟิตรี ณ อำเภอฮูลูเปรัค รัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย
เพื่อมาเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องประชาชนและ ชุมชนท้องถิ่น ถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสสำคัญในการกระชับความสัมพันธ์ของมาเลเซียกับอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ให้มีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น

ภาพ / ข่าว เจษฎา สิริโยทัย อ.เบตง จ.ยะลา
ทีมข่าว ปรีชา สถิตเรืองศักดิ์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

ชาวสวนยางสงขลา เฮ ราคายาง 64 บาท ขอพรรคประชาธิปัตย์ทำต่อเนื่องนโยบายประกันรายได้ นิพนธ์ ยัน จะดูแลพี่น้องเกษตรกรทุกกลุ่ม และ มหาดไทยเดินหน้าแก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน


วันนี้(13 พ.ค.65) นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางไปเยี่ยมจุดรับซื้อน้ำยางสดในพื้นที่อำเภอจะนะ และอำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา เพื่อสอบถามเรื่องราคาน้ำยางสด ปัญหาจากการรับซื้อ การขนส่ง รวมถึงผลกระทบจากการที่ต้นยางพาราในพื้นที่ภาคใต้เข้าสู่ฤดูกาลผลัดใบ

โดยพ่อค้ารับซื้อน้ำยางสดในตำบลคลองเปียะ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ได้ให้ข้อมูลว่า ในจุดที่ตนรับซื้อนั้น จะมีชาวสวนยางในหมู่บ้านและละแวกใกล้เคียงนำน้ำยางสดขึ้นรถมอเตอร์ไซด์มาจำหน่าย โดยจุดนี้จะรับซื้อตั้งช่วงเช้าจนถึงเวลาประมาณ 11.00 น.ของทุกวัน โดยการรับซื้อจะใช้ราคาอ้างอิงจากสหกรณ์สวนยางอำเภอจะนะ และรวบรวมน้ำยางสดไปจำหน่ายยังสหกรณ์ฯอีกครั้งหนึ่ง และในเช้าวันนี้ราคาน้ำยางสดรับซื้ออยู่ที่กิโลกรัมละ 64 บาท แต่ช่วงนี้เป็นช่วงฤดูกาลผลัดใบของต้นยางพาราทำให้ไม่สามารถกรีดยางได้ ส่งผลให้ปริมาณน้ำยางสดในช่วงนี้มีน้อย

ด้านจุดรับซื้อน้ำยางในพื้นที่อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา ผู้ประกอบการรับซื้อน้ำยางก็ได้เปิดเผยต่อเช่นเดียวกันว่า วันนี้ราคาน้ำยางสดปริมาณความเข้มข้น(30%) รับซื้ออยู่ที่กิโลกรัมละ 63 บาท โดยเฉลี่ยจะรับซื้อน้ำยางสดจากชาวสวนในพื้นที่ได้ประมาณวันละ 1,000 -1,500 กิโลกรัม ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงต้นยางพาราผลัดใบทำให้ปริมาณน้ำยางในพื้นที่มีน้อย แต่ราคายางพาราในปัจจุบันนี้ก็ทำให้ชาวสวนยางมีรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น สามารถมีเงินหมุนเวียนนำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และได้ใช้จ่ายเป็นค่าเล่าเรียนบุตรได้ทันในช่วงเปิดภาคเรียน

นายนิพนธ์ รมช.มท. กล่าวว่าราคาน้ำยางสดพาราเฉลี่ยในช่วงเดือนพฤษภาคมตั้งแต่วันที่ 1-12 พ.ค.65 ข้อมูลจากสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรนั้นอยู่ที่ กิโลกรัมละ 60 – 62 บาท ซึ่งจากการสอบถามพี่น้องชาวสวนยางในพื้นที่ต่างพึงพอใจในราคาดังกล่าวและต้องการให้พรรคประชาธิปัตย์ ได้ทำเรื่องราคายางพารา ปาล์มน้ำมันให้คงราคาเช่นปัจจุบันนี้ต่อไป ซึ่งราคาดังกล่าวสูงกว่าราคาประกันที่กระทรวงพาณิชย์ประกันไว้ รวมถึงราคาพืชผลทางการเกษตรทั้ง 5 ชนิดประกอบด้วย ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง และข้าว ล้วนแต่ราคาดีกว่าช่วงที่ผ่านมาและสูงกว่าราคาประกันทุกตัว สิ่งนี้นอกจากจะช่วยให้พี่น้องเกษตรกรมีรายได้เพิ่มมากขึ้นแล้ว ยังไม่ได้เป็นภาระงบประมาณของรัฐบาลอีกด้วย ซึ่งยืนยันว่ารัฐบาลและพรรคประชาธิปัตย์จะดำเนินการในเรื่องราคาพืชผลทางการเกษตรให้สูงขึ้นต่อเนื่อง และจะดูแลพี่น้องเกษตรกรให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเพื่อให้ครัวเรือนเกษตรกรในประเทศไทยกว่า 14 ล้านครัวเรือนได้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งจะมีส่วนช่วยฟื้นตัวเศรษฐกิจของประเทศหลังสถานการณ์โควิดได้อีกทางหนึ่ง”

“ในส่วนกระทรวงมหาดไทยเองก็ได้มีการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง หรือ ศจพ. ซึ่งมีเป้าหมายคือ การแก้ปัญหาความยากจนแบบพุ่งเป้าแต่ละครัวเรือน โดยใช้ข้อมูลจากระบบบริหารจัดการข้อมูลการพัฒนาคนแบบชี้เป้า (Thai People Map and Analytics Platform) หรือ TPMAP เป็นฐานข้อมูลในการขับเคลื่อนดังกล่าว ซึ่งการที่เกษตรกรชาวสวนยางมีรายได้เพิ่มมากขึ้นจากราคายางพาราที่สูงขึ้น รวมทั้งเกษตรกรในรายครัวเรือนทั้งประเทศ ก็มีส่วนในการการยกระดับฐานรายได้ภาคครัวเรือนให้สูงขึ้น ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยในการขจัดความยากจนได้อย่างยั่งยืน”นายนิพนธ์กล่าว

นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

“สมาคมแม่บ้านตำรวจ” มอบทุนการศึกษา ร่วม 2 ปี จ่ายแล้ว 45 ล้านบาท ช่วยเหลือ ลดภาระ ครอบครัวตำรวจ

“พล.ต.อ.สุวัฒน์ฯ ผบ.ตร.” ประธานพิธีมอบทุนให้ทายาทตำรวจกล้า ผู้สละชีพ – ทุพพลภาพ ให้ทุนลูกตำรวจประพฤติดีแต่ขาดทุนทรัพย์ รวม 2,283 ราย พร้อมให้โอวาท ครอบครัวตำรวจต้องเป็นตัวอย่างสังคม เชื่อมั่นหากครอบครัวดี ตำรวจดี สังคมดี

เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2565 เวลา 10.30 น. ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร สมาคมแม่บ้านตำรวจ โดย คุณรัตนาภรณ์ สีวลีพันธ์ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ จัดพิธีมอบทุนการศึกษา ตามโครงการมอบทุนการศึกษาให้บุตรข้าราชการตำรวจ ของสมาคมแม่บ้านตำรวจ ประจำปี 2565 โดยมี พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีมอบทุนการศึกษา

ทั้งนี้ สมาคมแม่บ้านตำรวจ ได้พิจารณาคัดเลือกบุตรข้าราชการตำรวจที่มีคุณสมบัติเหมาะสม เข้ารับมอบทุนการศึกษาในวันนี้ ในประเภททุนการศึกษามอบให้กับบุตรข้าราชการตํารวจที่เสียชีวิตและบาดเจ็บ ทุพพลภาพ จากการปฏิบัติหน้าที่ และประเภททุนการศึกษาบุตร ข้าราชการตํารวจประพฤติดี ขาดแคลนทุนทรัพย์ รวม 2,283 ทุน รวมเป็นเงินกว่า 10,750,000 บาท โดยมีบุตรข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิต และบาดเจ็บฯ เดินทางมารับทุนด้วยตัวเอง 73 ราย จากผู้ได้รับทุน 83 ราย ส่วนประเภททุนการศึกษาบุตร ข้าราชการตํารวจประพฤติดี ขาดแคลนทุนทรัพย์ ผู้แทนกองบัญชาการต่างๆ เป็นตัวแทนรับมอบ เพื่อนำไปมอบต่อแก่บุตรข้าราชการตำรวจในสังกัดต่อไป

โครงการมอบทุนการศึกษาให้บุตรข้าราชการตำรวจ ของสมาคมแม่บ้านตำรวจ ประจำปี 2565 มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นสวัสดิการ ช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน และแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับครอบครัวข้าราชการตำรวจ

คุณรัตนาภรณ์ฯ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ กล่าวว่า นับแต่เดือนตุลาคมปี 2563 เป็นต้นมา สมาคมแม่บ้านตำรวจ ดำเนินกิจกรรมโดยอ้างอิงผลการสำรวจความต้องการของข้าราชการตำรวจกว่า 12,000 นาย พบว่าครอบครัวตำรวจ เป็นห่วงการศึกษาของบุตร และต้องการการสนับสนุนด้านการศึกษา สมาคมแม่บ้านตำรวจจึงดำเนินโครงการมุ่งส่งเสริมให้โอกาสทางการศึกษาของบุตรข้าราชการตำรวจ ที่ยังเป็นการสร้างความภาคภูมิใจให้ครอลครัวตำรวจด้วย โดยนับแต่ปี 2563 สมาคมแม่บ้านตำรวจสนับสนุนทุนการศึกษาแก่บุตรข้าราชการตำรวจรวม 45 ล้านบาท ในประเภททุนต่างๆ ให้ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งกลุ่มบุตรข้าราชการตำรวจที่มีความสามารถโดดเด่น เรียนดี ประพฤติดี โดยเฉพาะครอบครัวของข้าราชการตำรวจที่ทุ่มเท ปฏิบัติหน้าที่ สละชีวิต ได้รับบาดเจ็บทุพพลภาพ เพื่อรักษาความปลอดภัย ความสงบสุขของประชาชน

“การมอบทุนในวันนี้สมาคมแม่บ้านตำรวจ ได้รับความร่วมมือจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อนข้าราชการตำรวจ ช่วยสืบเสาะหาครอบครัวของข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิตตั้งแต่ปี 2558 เพื่อจัดสรรมอบทุนการศึกษาในบุตร อย่างไรก็ตามสมาคมแม่บ้านตำรวจ ขอบคุณภาคเอกชนที่ให้สนับสนุนทุนการศึกษาครั้งนี้ ประกอบด้วย หอการค้าไทย – จีน, สมาคมวิเทศพาณิชย์ไทย-จีน, คุณอรสา วงศ์อุไร, คุณดวงทิพย์ ชลารักษ์ และ บริษัททีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)” นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ กล่าว
พล.ต.อ.สุวัฒน์ฯ ให้โอวาท ใจความว่า ครอบครัวตำรวจคือครอบครัวเดียวกันตลอดไปทั้งที่ยังอยู่ในราชการ เกษียณอายุราชการไปแล้ว หรือต้องสูญเสียไปก่อนเวลา ก็ยังดูแลกันตลอดไป โครงการนี้เพื่อเป็นการดูแลครอบครัวตำรวจผ่านสมาคมแม่บ้านตำรวจ ที่จดทะเบียนเป็นมูลนิธิฯ ตามกฎหมาย สามารถขับเคลื่อนช่วยเหลือครอบครัวตำรวจได้อย่างเต็มที่

“อย่างไรก็ตามเชื่อว่าหากครอบครัวตำรวจดี ตำรวจก็จะดี เมื่อตำรวจดี สังคมก็ดีด้วย อย่างไรก็ตามขอให้บุตรหลาน สมาชิกครอบครัวตำรวจประพฤติปฏิบัติอยู่ในกรอบกฎหมาย ไม่ออกนอกลู่นอกทาง เฝ้าระวังภัยอาชญากรรมออนไลน์ ไม่ตกเป็นเหยื่อ ไม่เป็นผู้กระทำเสียเอง เป็นตัวอย่างที่ดีของสังคม โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมสนับสนุนช่วยเหลือ และให้สิทธิเข้ารับราชการตำรวจ พร้อมต้อนรับครอบครัวตำรวจกลับมาร่วมงานกัน” ผบ.ตร.กล่าว

อย่างไรก็ตามในปี 2565 สมาคมแม่บ้านตำรวจมอบทุนการศึกษา ตามโครงการมอบทุนการศึกษาแก่บุตรข้าราชการตำรวจ 4 ประเภททุนการศึกษา รวมเป็นเงินกว่า 20 ล้านบาท จำแนกแต่ละประเภท ดังนี้

ประเภทที่ 1 ทุนการศึกษาบุตรข้าราชการตํารวจ ที่เสียชีวิตและบาดเจ็บทุพพลภาพจากการปฏิบัติหน้าที่ ปีนี้พิจารณาจากข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิต หรือทุพพลภาพ ในห้วงตั้งแต่ 1 มกราคม 2558 ถึง 31 มกราคม 2560 และระหว่าง 1 พฤษภาคม 2564 ถึงปัจจุบัน ทุนละ 50,000 บาท สำหรับทายาทที่อายุ ไม่เกิน 25 ปีบริบูรณ์ และอยู่ระหว่างการศึกษาไม่เกินระดับปริญญาตรี ปีนี้บุตรข้าราชการตำรวจผ่านการพิจารณา 83 ราย อาทิ บุตรสาว ของ ด.ต.อนุสรณ์ มะโนเล็ก ผู้บังคับหมู่ งานสายตรวจ 1 กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจจราจร (ยศขณะปฏิบัติหน้าที่) ที่เสียชีวิตจากเหตุรถเก๋งพุ่งชนด่านตรวจ ในปี 2559, บุตรชาย ของ พ.ต.ต.พิบูลย์พัน สุขุมานนท์ สว.สส.สภ.ฝาง จว.เชียงใหม่ (ยศขณะปฏิบัติหน้าที่) ที่เสียชีวิตจากการถูกยิง ในระหว่างปะทะ ไล่ล่าคนร้ายขบวนการยาเสพติด เมื่อปลายปี 2564 และบุตรชาย ของ ด.ต.อนันต์ มีแสง ผบ.หมู่ กก.6 กองบังคับการปราบปราม (ยศขณะปฏิบัติหน้าที่) ที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ไล่ล่ามือปืนรายสำคัญของภาคใต้ เมื่อเดือนมีนาคม 2565 เป็นต้น

ประเภทที่ 2 ทุนการศึกษาบุตรข้าราชการตํารวจประพฤติดี ขาดแคลนทุนทรัพย์ สำหรับทายาทที่อายุ ไม่เกิน 25 ปีบริบูรณ์ และอยู่ระหว่างการศึกษาไม่เกินระดับปริญญาตรี มีเกรดเฉลี่ยในภาคการศึกษาที่ 1 ประจำปี 2564 ไม่ต่ำกว่า 2.50 จำนวน 2,200 ทุน ทุนละ 3,000 บาท โดยในปีนี้คัดเลือกบุตรข้าราชการตำรวจจาก 32 หน่วย พบว่าบุตรข้าราชการตำรวจสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้รับทุนมากที่สุด 329 ทุน รองลงมาสังกัดกองบัญชาการตำรวจตระเวนชานแดน 282 ทุน และตำรวจภูธรภาค 4 จำนวน 272 ทุน ฯลฯ

ประเภทที่ 3 ทุนการศึกษาบุตรข้าราชการตำรวจเรียนดี สายวิชาชีพ หรือ อนุปริญญา (ทุนต่อเนื่อง 2 ปี ) จำนวน 20 ทุน ทุนละ 50,000 บาท โดยแบ่งจ่ายปีละ 25,000 บาท โดยมีเงื่อนไขด้านผลการเรียน

และประเภทที่ 4 ทุนการศึกษาบุตรข้าราชการตำรวจ เรียนดี ระดับอุดมศึกษา มีทั้งทุนต่อเนื่อง 4 ปี จำนวน 40 ทุน ทุนละ 160,000 บาท และทุนต่อเนื่อง 6 ปี จำนวน 10 ทุน ทุนละ 240,000 บาท ซึ่งสมาคมแม่บ้านตำรวจ แบ่งย่อยทุนประเภทนี้ แบ่งเป็น 3 กลุ่มคือ กลุ่มสาขาหรือคณะ ด้านแพทย์ สาธารณสุข, กลุ่มสาขา หรือคณะ ด้านวิศวกรรมศาสตร์ สถาปัตยกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และกลุ่มสาขา หรือคณะ ด้านนิติศาสตร์ สังคมศาสตร์ ศิลปะศาสตร์ บริหาร เศรษฐศาสตร์ โดยกลุ่มนี้มีเงื่อนไขเรื่องผลการเรียนเช่นกัน

นอกจากนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ฯ นำคณะรองผบ.ตร. ที่ปรึกษาพิเศษตร.และสมาคมแม่บ้านตำรวจ ถ่ายภาพหมู่เป็นที่ระลึกกับบุตรข้าราชการตำรวจที่มารับทุนการศึกษาในวันนี้ ภายใต้มาตรการด้านสาธารณสุข เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา หรือ โควิด – 19

นิพนธ์ นำทีม องค์การจัดการน้ำเสีย โยธาฯ อปท เร่งฟื้นฟูคลองสำโรงสงขลา ช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมขังเมืองสงขลาและน้ำเน่าเสีย



วันนี้ 12 พฤษภาคม 2565 นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่เพื่อติดตามการแก้ปัญหาน้ำเสียคลองสำโรง เขตเทศบาลนครสงขลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา โดยมีนายชีระ วงศบูรณะ ผู้อำนวยการองค์การจัดการน้ำเสีย นายผดุงเดช ลือปิยะพาณิชย์ ผู้ตรวจกรมโยธาธิการและผังเมือง นายสรรเพชญ บุญญามณี ผู้ช่วยดำเนินงานประธานรัฐสภา นายภูรินทร์ ทิพย์มณี รองนายกเทศบาลมนตรีนครสงขลา นายธนรัตน์ ตุละธน รองนายกเทศมนตรีเมืองเขารูปช้าง ผู้แทนกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พมจ.จังหวัดสงขลา หัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมรายงานข้อมูล ณ บริเวณสะพานแยกสำโรง

ทั้งนี้ นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มท.ได้ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาคลองสำโรงในการที่จะหาแนวทางแก้ไขเพื่อฟื้นฟูคลองสำโรงให้มีความสะอาดมีศักยภาพในการระบายน้ำให้ได้ดีขึ้น ซึ่งจากการสำรวจพบว่าคลองมีปัญหาตื้นเขินคันคลองบางช่วงมีระดับต่ำและมีผู้อาศัยอยู่บริเวณแนวคลองสำโรงอย่างหนาแน่น ซึ่งส่งผลต่อการระบายน้ำ ทั้งยังมีขยะและสิ่งปฏิกูลจำนวนมากที่ถูกนำมาทิ้งลงคลอง จนทำให้น้ำมีคุณภาพต่ำ มีสีดำ เน่าเสียและส่งกลิ่นเหม็น ซึ่งรมช.มท.ได้มอบหมายให้ทางองค์การจัดการน้ำเสีย(อจน.)หาแนวทางแก้ไขปัญหาคลองสำโรงให้ได้เพราะเป็นปัญหาที่เรื้อรังมานาน

สำหรับคลองสำโรงเป็นคลองที่เชื่อมระหว่างเทศบาลนครสงขลากับเทศบาลเมืองเขารูปช้างเป็นเส้นทางสัญจรมาตั้งแต่สมัยโบราณ และเชื่อมระหว่างทะเลอ่าวไทยกับทะเลสาบสงขลา และเมื่อมีชุมชนมากขึ้น เส้นทางแห่งนี้ก็เริ่มมีปัญหาในเขตชุมชน จึงต้องมีการวางแผนเรื่องการบำบัดน้ำเสีย ควบคู่ไปกันไป

ทั้งนี้ผอ.อจน.ได้รายงานความก้าวหน้าของการดำเนินงานโครงการก่อสร้างและเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการคุณภาพน้ำในเขตพื้นที่จัดการน้ำเสีย ระยะที่ 1 เทศบาลนครสงขลา ตำบลบ่อยาง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา โดยจะเป็นการรวมน้ำเสียซึ่งปัจจุบันถูกระบายลงสู่คลองสำโรงโดยตรงเป็นปริมาณมาก เพื่อปรับปรุงคุณภาพน้ำให้เป็นไปตามมาตรฐานที่ทางราชการกำหนดไว้ ซึ่งโครงการดังกล่าวจะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาน้ำเสียคลองสำโรง รวมทั้งบรรเทาปัญหาด้านความเป็นอยู่ และสุขอนามัยของพี่น้องประชาชนในชุมชนริมคลองสำโรงอย่างเป็นระบบได้อย่างยั่งยืน ต่อจากนั้น รมช.มท.ได้ลงเรือเพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาน้ำเสียบริเวณคลองสำโรงอย่างใกล้ชิดบริเวณ ถนนสงขลา-นาทวี ซอย 2 พร้อมทั้ง ร่วมปล่อยจุลินทรีย์ชนิดน้ำ เพื่อเพิ่มจุลินทรีย์ในการบำบัดน้ำเสีย และลดการเกิดกลิ่นจากน้ำขังในคลองสำโรง

รมช.มท.กล่าวว่า วันนี้ได้เชิญส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสำรวจคลองสำโรงเพื่อแก้ไขปัญหาที่เรื้อรังมานาน โดยการดำเนินการแก้ไขนั้นจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องน้ำท่วมขังในเมืองสงขลา และแก้ปัญหาน้ำเน่าเสียในคลองสำโรง ในส่วนของกรมโยธาฯเองก็ได้ทำเขื่อนป้องกันการกัดเซาะไว้ระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งวันนี้ได้รับการยืนยันจากรองนายกเทศบาลเมืองเขารูปช้างว่า จะสามารถเคลียเรื่องพื้นที่ได้แล้วเสร็จ ถ้าสามารถเคลียเรื่องพื้นที่ได้ กรมโยธาธิการและผังเมืองก็สามารถตั้งงบประมาณต่อเนื่องจากโครงการเก่าที่สำเร็จไปแล้วได้ และเนื่องจากก่อนหน้านี้มีปัญหาในเรื่องของที่ดิน ซึ่งถ้าเทศบาลเมืองเขารูปช้างสามารถแก้ปัญหาตรงนี้ได้ ก็จะสามารถหางบประมาณมาทำการต่อไป อันนี้นอกจากจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวแล้ว ยังเป็นสถานที่พักผ่อนออกกำลังกาย และยังเป็นการป้องกันการกัดเซาะชายตลิ่ง ควบคู่ไปกับการทำท่อระบายน้ำเสีย เพื่อไม่ให้ปล่อยน้ำเสียลงไปในคลองสำโรง

นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

ผบ.ตร. นัดถกด่วน หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ร่วมมือออกมาตรการจัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์

วันนี้ (๑๒ พ.ค.๖๕) เวลา ๑๔.๓๐ น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
สารสนเทศ (ศปอส.ตร.) หรือ PCT, เชิญปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, เลขาธิการ ปปง, สำนักงาน
ศาลยุติธรรม, สำนักงานอัยการสูงสุด, กสทช., ก.ล.ต., กระทรวงการคลัง, ธนาคารแห่งประเทศไทย, สมาคมธนาคารไทย, สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ, ธนาคารกรุงไทย และผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ๔ เครือข่าย หารือแนวทางแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และ อาชญากรรมทางออนไลน์ ที่ขณะนี้กำลังระบาดอย่างหนัก

พล.ต.อ.สุวัฒน์ ฯ เปิดเผยว่า นับตั้งแต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดศูนย์รับแจ้งความออนไลน์เมื่อวันที่
๑ มี.ค.-๓๐ เม.ย.๖๕ ที่ผ่านมา มีผู้เสียหายแจ้งความผ่านระบบ ๒๐,๔๐๐ คดี ความเสียหายเฉลี่ยกว่า ๑,๕๐๐ ล้านบาทต่อเดือน มีการแจ้งความเฉลี่ยวันละ ๓๐๐ คดี ส่วนใหญ่เป็นการหลอกลวงด้านการเงิน มีคดีที่มีความเชื่อมโยงกันถึง ๓,๒๘๕ คดี ขออายัดเงินไปแล้ว ๖,๔๐๕ บัญชี จากยอดเงิน ๑,๒๒๙,๑๔๐,๑๗๓ บาท โดยสามารถอายัดเงินได้ทัน ๖๒,๕๑๗,๕๑๐ บาท อย่างไรก็ดี คนร้ายเปลี่ยนรูปแบบวิธีการอยู่ตลอดเวลา เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบหรือสะกดรอยจาก
เจ้าหน้าที่ โดยพบว่า คนร้ายมักใช้การโทรศัพท์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต (VOIP) ทำให้ยากต่อการสืบสวนติดตามและมีการจ้างให้บุคคลอื่นเปิดบัญชีเพื่อใช้ในการรับโอนเงินจากผู้เสียหาย หรือที่เราเรียกว่า “บัญชีม้า” จากนั้นจะทำการโอนเงินต่อไปอีกหลายบัญชี โดยบัญชีสุดท้ายจะมีการโอนเงินซื้อเหรียญ “คริปโตเคอเรนซี่ แบบ peer-to-peer” จากแอปแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัลต่างประเทศ ทำให้ยากต่อการอายัดเงิน และระบุตัวผู้กระทำผิด

ผบ.ตร. กล่าวต่อว่า จากการหารือในวันนี้ เราได้ข้อสรุปในเบื้องต้นว่า

๑. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะออกหลักเกณฑ์เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาบัญชีม้า โดยการ กำหนดจำนวนบัญชีที่สามารถเปิดได้ การอายัดแบบจำกัดวงเงิน การจัดทำฐานข้อมูลกลางเพื่อ แลกเปลี่ยนข้อมูลบัญชีม้าระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ธนาคาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการอายัดเงินต่างบัญชี
ธนาคาร และ ระงับบัญชีม้าด้วยหมายเลขบัตรประชาชนหมายเลขโทรศัพท์, ออกประกาศเพื่อให้ธนาคารจัดทำช่องทางให้ประชาชนสามารถอายัดเงินได้เองผ่านทางแอปของธนาคารและเชิญคู่กรณีไกล่เกลี่ยภายใน ๓ วัน

๒. สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) จะยึดอายัดรัพย์สิน เงินดิจิทัล ติดตามเส้นทางการเงินที่เข้าข่ายเป็นความผิดมูลฐานอย่างรวดเร็ว และแลกเปลี่ยนข้อมูลกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

๓. ออกประกาศ โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการดำเนินคดีกับผู้ค้าขายเหรียญแบบ peer-to-peer และการวางแนวทางในการยึดเหรียญคริปโต
เคอร์เรนซี่จากผู้กระทำความผิด

  1. กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมร่วมกับ กสทช. สนับสนุนด้านงบประมาณเพื่อแก้ไขปัญหาและใช้อำนาจในการสร้างกลไกการระบุตัวตนตามกฎหมายโดยออกประกาศเพื่อให้ผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่
    ดำเนินการดังนี้
    ๔.๑ กำหนดจำนวนซิมสูงสุดที่สามารถลงทะเบียนต่อคนได้ไม่เกิน ๕ ชิม โดยให้ใช้วิธีการลงทะเบียนจากผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แต่ละค่ายโดยตรงเท่านั้น กรณีมีความจำเป็นต้องเปิดมากกว่าที่กำหนดให้ยื่นเรื่องเพื่อขออนุญาตจาก กสทช. พิจารณา
    ๔.๒ แก้ไขปัญหาคนร้ายส่งข้อความโฆษณา หรือการปลอมเบอร์โทรศัพท์ด้วยการโทรผ่านอินเตอร์เน็ตจะมีการบังคับให้แสดงเป็นเลขศูนย์ทั้งหมด เช่น ๐๐๐๐๐ หรือไม่ต้องแสดงหมายเลขโทรศัพท์ (No Number) เพื่อให้ง่ายต่อการสังเกตและประชาสัมพันธ์ พร้อมกับระงับเส้นทางการเชื่อมต่อกับตัวแทนเครือข่ายที่ไม่ได้รับ
    ความร่วมมือในการระบุตัวตนผู้กระทำผิด
    ๔.๓ จัดทำฐานข้อมูลกลางเพื่อให้สามารถตรวจสอบชื่อผู้ลงทะเบียนซิมโทรศัพท์และประวัติการรับส่งข้อความสั้นย้อนหลังเพื่อให้ช่วยในการระบุตัวตนผู้กระทำความผิด

๕. การแจ้งเตือนและเสริมภูมิคุ้มกันให้กับประชาชน (Cyber Vaccine) ผ่านแอปธนาคาร แอพเป๋าตังค์ และ ข้อความสั้นจากผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เช่น “ระวังถูกหลอก…ห้ามโอนเงินให้ทุกกรณี หากท่านยังไม่สามารถ
ติดต่อกับผู้รับโอนเงินได้ด้วยการขอเบอร์โทรศัพท์แล้วโทรไปคุยด้วย”, “เมื่อได้รับสายจากโทรศัพท์อัตโนมัติ..ให้ตัดสายทิ้งทันที” เป็นต้น

ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา คนร้ายมีพันธมิตรในการโยกเงินออกต่างประเทศ แต่ตำรวจต้องทำการสืบสวนอย่างโดดเดี่ยว คนร้ายใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย แต่ตำรวจต้องอยู่บนพื้นฐานของระเบียบกฎหมาย ทำให้การทำงานเป็นไปด้วยความยากลำบาก แต่วันนี้เราได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ที่จะกำหนดมาตรการที่เข้มงวดและ
รัดกุมมากขึ้น จึงเชื่อว่าจะทำให้อาชญากรรมทางออนไลน์ลดลง
จึงขอประชาสัมพันธ์พี่น้องประชาชนว่า อย่าตกเป็นเหยื่อหลงโอนเงิน หรือให้ข้อมูลส่วนตัวกับใครง่ายๆ ต้องตรวจสอบให้ดีก่อน หากมีข้อมูลสงสัยสอบถามได้ที่ สายด่วน บซ.สอท. ๑๔๔๑ หรือ ศูนย์ PCT ๐๘๑-๘๖๖๓๐๐๐
ตลอด ๒๔ ชม. หรือ ผู้เสียหายสามารถแจ้งความออนไลน์ได้ที่ http://www.thaipoliceonline.com

ทหาร จับมือ การศึกษา พร้อมนำพระราชดำริ เกษตรทฤฎีใหม่ สร้างคุณภาพชีวิตผู้เรียนในถิ่นทุรกันดาร


วันนี้ 12 พ.ค.65 ที่ สพป.สงขลา เขต 2 เลขที่ 2 ถ.สาครมงคล อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นายอุทัยกาญจนะ ผอ.สพป.สงขลา เขต 2 มอบหมาย ว่าที่ ร.ต. อนุชาติ จูวัตร์ ผู้อำนวยการกลุ่มนโยบายและแผน สพป.สงขลา เขต 2 ต้อนรับและรายงานข้อมูลโรงเรียนในแต่อำเภอในสังกัดแก่รัอยตรี สิทธิโชคิ คงการ ผู้บังคับหมวดปืนเล็กร้อยอาวุธเยา กองพันทหารรายที่ 1 กรมทหารราบที่ 5 ค่ายเสนาณรงค์ จังหวัดสงขลา เพื่อร่วมหารือการค้นหา เพื่อพิจารณา การคัดเลือก รร.ในสังกัด
ทั้ง 5 อำเภอๆละ 1 โรง คือ อำเภอหาดใหญ่ ,อำเภอควนเนียง,อำเภอรัตภูมิ,อำเภอคลองหอยโข่ง, ,อำเภอบางกล่ำ เพื่อสนับสนุนการจัดกิจกรรมเกษตรทฤษฎีใหม่ ตามแนวพระราชดำริ
โดยเน้น โรงเรียนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ทุรกันดารชุมชน มีรายได้น้อย โรงเรียนมีพื้นที่เพียงพอในการรองรับสนับสนุนกิจกรรม ที่ครบวงจรด้านเกษตรพืช ประมง เลี้ยงสัตว์ ผลผลิตปุ๋ย และอื่นๆที่โรงเรียนสามารถรองรับและร่วมกิจกรรมในโรงเรียน นำผลผลิต สู่โครงการอาหารกลางวัน และนำองค์ความรู้ สู่ครอบครัว ชุมชน สร้างทักษะอาขีพ สร้างรายได้ สามารถส่งต่อขุมชนด้วยที่สำคัญสนับสนุนโครงการอาหารกลางวัน เพื่อสร้างความสมบูรณ์ในการพัฒนารอบด้าน และมีคุณภาพที่ดีขึ้น อย่างยั่งยืน
นายอุทัยฯ กล่าวว่า โรงเรียนในสังกัด สพป.สงขลาเขต 2 ได้น้อมนำพระราชดำริเกษตรทฤษฎีใหม่ จัดการเรียนรู้แก่ นักเรียน ครอบคลุมเพื่อสร้างองค์ความรู้ ทักษะอาชีพ มีรายได้ นอกเหนือจากการรับประโยชน์ในโครงการอาหารกลางวัน ที่สร้างความสมบูรณ์ต่อการพัฒนาร่างการ จิตใจ คุณภาพการศึกษา ทางโภชนาการ

นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

รอง ผบ.ตร. เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมด้านการรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกการจราจร การประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปค

วันที่ 11 พ.ค. 65 เวลา 13.30 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมด้านการรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกการจราจร การประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปค ที่จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 19-22 พ.ค. 65 ในช่วงที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคและการประชุมที่เกี่ยวข้อง ปี พ.ศ. 2565
ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ เเอท เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร โดยมีผู้แทนจากทุกหน่วยงาน
ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งประกอบด้วย ศูนย์รักษาความปลอดภัย, สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ,
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ, กรมการระหว่างประเทศกิจการเพื่อการพัฒนา กระทรวง
การต่างประเทศ, กรมพิธีการทูต กระทรวงการต่างประเทศ และคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมสำหรับเอเชียและแปซิฟิก (เอสเเคป) พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ในสังกัด ตร. ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุมฯ สำหรับในส่วนของ สท. พ.ต.อ.หญิง ศุภลักษณ์ ภวภูตานนท์ ณ มหาสารคาม รอง ผบก.สท. เป็นผู้เเทน เข้าร่วมการประชุมฯ
ณ ห้องประชุมรพีพัฒนศักดิ์ ชั้น 13 อาคาร 7 กองทะเบียนประวัติอาชญากร

สวนสัตว์สงขลา ประกวดตั้งชื่อลูกแมวน้ำตัวน้อยชิงเงินรางวัล 10,000 บาท ซึ่งเป็นลูกแมวน้ำเพศเมีย ขณะนี้อายุได้ 2 สัปดาห์ พ่อชื่อปีโป้ แม่ชื่อคอนเน่ แล้วลูกจะชื่ออะไร

ท่านที่สนใจสามารถส่งชื่อเข้าประกวดได้ตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2565และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 086-4981447 งานตลาดและลูกค้าสัมพันธ์ สวนสัตว์สงขลา
จากการที่แมวน้ำ เจ้าคอนเน่แมวน้ำสวนสัตว์สงขลา เกิดลูกแมวน้ำออกมาลืมตาดูโลกเป็นลูกแมวน้ำตัวแรกของสวนสัตว์สงขลา เมื่อวันพุธที่ 27 เมษายน 2565 เวลา 15.25 น.เป็นแมวน้ำเพศเมีย มีพ่อชื่อปีโป้ แม่ชื่อคอนเน่ ขณะนี้อายุได้ 2 สัปดาห์ กำลังน่ารักน่าเอ็นดู
สวนสัตว์สงขลา จัดให้มีการประกวดตั้งชื่อลูกแมวน้ำตัวน้อย ชิงเงินรางวัล 10,000 บาท โดยมีกติกาดังนี้
-ผู้ร่วมประกวด ส่งรายชื่อ พร้อมระบุความหมายสำหรับชื่อที่เสนอโดยสังเขป
-เขียนชื่อ-นามสกุล ตามบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ ในแบบฟอร์ม QR code
-สามารถเสนอชื่อได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
-ชื่อที่เสนอจะต้องคิดริเริ่มสร้างสรรค์ด้วยตนเอง สื่อความหมายที่ดีน่าสนใจ
-1 คนสามารถเสนอได้เพียง 1 ชื่อเท่านั้น
ชิงรางวัล 10,000 บาท ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2565
หลักเกณฑ์การตัดสิน
-เป็นชื่อที่มีความคิดสร้างสรรค์ไม่ใช้คำหยาบคายหรือส่อเสียดใดๆ (10 คะแนน)
-เป็นชื่อที่ฟังแล้วติดหู เข้าใจง่าย (5 คะแนน)
-เป็นชื่อที่มีความหมายดี (5 คะแนน)
เงื่อนไขเพิ่มเติม
-ชื่อที่ได้รับรางวัลถือเป็นกรรมสิทธิ์ของสวนสัตว์สงขลา
-รายชื่อทุกชื่อที่ผู้ร่วมกิจกรรมเสนอ สวนสัตว์สงขลาขอสงวนสิทธิ์ในการเผยแพร่ผลงานในเอกสาร สิ่งพิมพ์รวมถึงสื่อสารสนเทศ ทุกประเภท โดยไม่ต้องเสียค่าลิขสิทธิ์ให้แก่ผู้ร่วมกิจกรรมและไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
-คำตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นเด็ดขาดและสิ้นสุด และคณะกรรมการสามารถเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
-กรณีที่มีชื่อของแมวน้ำที่ได้รับการคัดเลือกได้ถูกส่งมาจากผู้ร่วมกิจกรรมมากกว่า 1 คน(ชื่อซ้ำ) คณะกรรมการจะคัดเลือกและให้รางวัลเฉพาะผู้ที่ส่งเข้ามาในระบบเป็นคนแรกเท่านั้น
-ประกาศรายชื่อในวันที่ 10 มิถุนายน 2565 เวลา 16.00 น. ทางเพจ facebook สวนสัตว์สงขลา songkhla zoo ทีมงานจะเป็นผู้ติดต่อผู้ที่ได้รับการคัดเลือกพร้อมทั้งแจ้งรายละเอียดการรับของรางวัลทางเบอร์โทรศัพท์ที่ผู้ที่ได้รับรางวัลระบุไว้ ภายในวันที่ 11 มิถุนายน 2565 หากไม่สามารถติดต่อได้จะถือว่าสละสิทธิ์
-ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกจะต้องมารับรางวัลที่สวนสัตว์สงขลา เลขที่ 189 หมู่ 5 ถนนสงขลา- นาทวี ตำบลเขารูปช้าง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา ตามวันและเวลาที่ทีมงานได้แจ้งรายละเอียดทางโทรศัพท์
-รางวัลทั้งหมดไม่สามารถโอนสิทธิ์ให้แก่บุคคลภายนอกหรือนิติบุคคลอื่นใดไม่ว่ากรณีใดๆ
-พนักงานและครอบครัวพนักงานขององค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมกิจกรรมนี้
-ผู้ส่งรายชื่อเข้าร่วมประกวดจะต้องรับผิดชอบต่อการละเมิดบทบัญญัติของกฎหมายหรือสิทธิใดๆในทรัพย์สินทางปัญญาของบุคคลภายนอก
-ท่านที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 086-4981447 งานตลาดและลูกค้าสัมพันธ์สวนสัตว์สงขลา
นายวันชัย ตันวัฒนะ ผู้อำนวยการสวนสัตว์สงขลา กล่าวว่า สวนสัตว์สงขลาขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมตั้งชื่อลูกแมวน้ำกับเรา ขณะนี้ลูกแมวน้ำอายุได้ 2 สัปดาห์แล้ว แม่ชื่อคอนเน่ จากการตรวจสอบลูกแมวน้ำพบว่า เป็นเพศเมีย กำลังน่ารักน่าเอ็นดูมาก จึงขอเชิญชวนทุกท่านร่วมกับครอบครัวแมวน้ำร่วมตั้งชื่อลูกแมวน้ำกับสวนสัตว์สงขลาตั้งแต่วันนี้จนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้

นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

ครู พร้อมรับ นร.เปิดเทอม On-Site 100%


วันนี้ 11 พ.ค..65 ที่ รร. บ้านใต้ หมู่ที่ 7 ตำบลคูเต่า อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นายอุทัย กาญจนะ ผอ.สพป.สงขลา เขต 2 พร้อมทีมนิเทศ ติดตามฯลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ ครู ผู้บริหารนักเรียน ในการเตรียมพร้อมทุกมิติเพื่อรับการเปิดเทอม ด้านภูมิทัศน์ ห้องเรียน ห้องปฏิบัติการ อาทิ ห้องตัดผม ห้องเรียนแปลงเกษตรพอเพียง ห้องพยาบาล ห้องประชาธิปไตย ห้องคอมพิวเตอร์ห้องวิทยาศาสตร์ โครงการอาหารกลางวัน อาหารเสริมนมโรงเรียน หนังสือเรียน บริเวณต่างๆพร้อมเปิดเรียนเต็มร้อย
โรงเรียนแห่งนี้ จัดการเรียนการสอน ระดับอนุบาล 2 – ขั้น ป.6 นร.ร่วม 300 คน ครู 18 คน โรงเรียนแบ่งพื้นที่ ให้กับศูนย์เด็กเล็กบ้านเหนือเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ เพื่อส่งต่อเด็กเหล่านี้ให้กับ รร.เป็นการรวมพลังพัฒนาการศึกษาร่วมกันของต่างหน่วยงาน
โดยการบริหารของนายธนา ทองคโชค ผอ.โรงเรียนใช้หลักการบริหาร สิ่งแวดล้อมดี ผู้เรียนเก่ง ดี มีสุข ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพียง ภายใต้วัฒธรรมไทย ซึ่งโรงเรียนได้ดำเนินการรับเปิดเทอมเป็นอย่างดีและน่าชื่นชม
อย่างไรก็ดี นายอุทัยฯ ย้ำ สพป.สงขลา เขต 2 ทั้ง 126 โรงพร้อมเต็มร้อยเปิดเทอมในวันที่ 17 นี้ ฝากผู้ปกครองมั่นใจ การพัฒนาคุณาพการศึกษานักเรียนทุกคนได้เรียนรู้อย่างทั่วถึง เท่าเทียม อย่างมีคุณภาพแลพประสิทธิภาพ มีความสุขและปลอดภัย สอดรับนโยบาย กระทรวงศึกษาธิการและ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และจุดเน้น เขตพื้นที่ฯ
ทางด้าน นายพรศักดิ์ จินา ศึกษาธิการ จ.สงขกล่าวว่าโรงเรียนใน จ.สงขลา 860 กว่าโรง พร้อมเปิดเรียนแบบออนไซน์ในภาคเรียนที่ 1 เนื่องจากนักเรียนกลุ่มอายุ 12-18 ปี รับวัคซีนแล้วร้อยละ 92 และกำลังรับวัคซีนเข็มที่ 2 ประมาณ ร้อยละ 50 จากนักเรียนทั้งหมด 120,000 คน และนักเรียนในกลุ่มอายุ 5-11 ปี ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 ไปแล้ว 76,000 คน และเหลือนักเรียนประมาณ 60,000 กว่าคน กำลังขอรับวัคซีนเข็มที่ 1
นายพรศักดิ์ฯ กล่าวว่านักเรียนที่ยังไม่ได้รับวัคซีนมาจากสาเหตุผู้ปกครอง ขณะนี้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและครูได้ทำความเข้าใจกับผู้ปกครอง เพื่อให้ผู้ปกครองยินยอมให้นักเรียนรับวัคซีนก่อนที่นักเรียนเรียนแบบออนไซน์ในช่วงเปิดภาคเรียนที่ 1 ในวันที่ 17 พ.ค.65 ก่อนที่นักเสี่ยงกับการติดเชื้อโควิดและมีอาการรุนแรง
รายงานจากสำนักงานสาธารณสุข จ.สงขลา กล่าวว่า ย่อมรับว่ามีเด็กนักเรียนที่ยังไม่ยอมรับวัคซีนป้องกันโควิดทุกกลุ่มประมาณ 180,000 กว่าคน นายแพทย์สงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุขได้ให้นโยบายแก่สารณสุขอำเภอและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลออกค้นหานักเรียนที่ยังไม่ได้รับวัคซีน และไปทำควาเข้าใจกับผู้ปกครองนักเรียนเพื่อให้ยอมรับการฉีดวัคซีนก่อนที่จะเปิดเรียน หากยังมีนักเรียนไม่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิดมากอันตราย

นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

“เฉลิมชัย”ผลักดันประจวบคีรีขันธ์ขึ้นชั้นเมืองหลวงสัปปะรดโลก เร่งตั้งศูนย์พัฒนาสัปปะรดภายในปีนี้


“อลงกรณ์”ประกาศขับเคลื่อน
”5ยุทธศาสตร์-15นโยบายปฏิรูปภาคเกษตร”สู่เกษตรมูลค่าสูงจับมือสภาอุตสาหกรรมฯ.เดินหน้าโครงการจัดตั้งเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมเกษตรเพื่อยกระดับรายได้เกษตรกรทั่วประเทศ นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยี เพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ Field Day 2565 ณ แปลงสับปะรดของ นายสมชาย ทองประเสริฐ ม.10 ต.หนองหญ้าปล้อง อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี ในวันนี้โดยมี นางกุลฤดี พัฒนะอิ่ม ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายนวนิตย์ พลเคน รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร นายอาณัติ หุ่นหลา เกษตรจังหวัดเพชรบุรี ผู้อำนวยการสำรักการส่วเสริมแบะพัฒนาการเกษตรที่2 นายอำเภอหนองหญ้าปล้อง หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ และเกษตรกรกว่า 200 คน เข้าร่วมงาน


นายอลงกรณ์ กล่าวในระหว่างเปิดงานว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำโดย ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้วางนโยบาย “5 ยุทธศาสตร์เฉลิมชัย” ที่มุ่งกระตุ้นการสร้างเศรษฐกิจรากฐานให้กับประเทศ ตลอดจนมีความมุ่งมั่นที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคเกษตรกรรมจึงได้วางแนวทางการพัฒนาภาคเกษตรกรรม 5 ยุทธศาสตร์ เพื่อเป็นเครื่องมือสำคัญในการบริหารให้บรรลุเป้าหมาย ได้แก่ ยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิต , เทคโนโลยีเกษตร 4.0, “3’s” (Safety-Security-Sustainability- เกษตรปลอดภัย เกษตรมั่นคงและเกษตรยั่งยืน) , การบริหารเชิงรุกแบบบูรณาการกับทุกภาคส่วน และยุทธศาสตร์เกษตรกรรมยั่งยืนตามแนวทางศาสตร์พระราชา ภายใต้ 15 นโยบายหลัก เช่นนโยบายการส่งเสริมเกษตรพันธสัญญา (Contract Farming) เพื่อสร้างความไว้วางใจและความร่วมมือในการพัฒนาศักยภาพการผลิตอย่างยั่งยืน ระหว่างเกษตรกรกับ ผู้ประกอบการ โดยร่วมกันยกระดับคุณภาพผลผลิตมีราคาที่เป็นธรรมสำหรัยเกษตรกร และนโยบายแปลงใหญ่เป็นตัวขับเคลื่อนเดินหน้าเกษตรมูลค่าสูงมุ่งเน้นการแปรรูปผลผลิตเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ควบคู่กับการใช้องค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ โดยเน้นย้ำให้เกษตรกร และหน่วยงานราชการให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยี ทั้งจากศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม (AIC) รวมถึงภูมิปัญญาทัอวถิ่นและศาสตร์พระราชามาใช้ในกระบวนการผลิตทางการเกษตร เพื่อการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญ มุ่งหวังยกระดับรายได้เกษตรกรและสร้างความสามารถในการแข่งขันอย่างมั่นคง และยั่งยืน อีกทั้งให้หน่วยงานในพื้นที่ร่วมกันดำเนินงานใน 2 โครงการใหญ่ ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยร่วมกับขับเคลื่อน คือ โครงการพัฒนาเกษตรแม่นยำสู่ธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม 2 ล้านไร่ และโครงการ 1 กลุ่มจังหวัด 1 นิคมอุตสาหกรรมเกษตรอาหาร
“เรากำลังเร่งขับเคลื่อน5ยุทธศาสตร์15นโยบายปฏิรูปภาคเกษตรสู่เกษตรมูลค่าสูงโดยร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเดินหน้าโครงการเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมเกษตรใน18กลุ่มจังหวัดครอบคลุมทุกจังหวัดเพื่อยกระดับรายได้เกษตรกรทั่วประเทศ”

สำหรับการจัดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยี เพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ Field Day 2565 ในวันนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ความสำคัญกับพี่น้องเกษตรกรในการผลิตสินค้าเกษตรอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับความต้องการของตลาด และมีการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม โดยสร้างการรับรู้ให้กับเกษตรกรผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น งานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ ในพื้นที่ของเกษตรกร ซึ่งการถ่ายทอดความรู้ และเทคโนโลยี มีเป้าหมายสำคัญ 2 ระดับ คือ (1) การทำให้กลุ่มเป้าหมายรับรู้ถึงข้อมูลที่ต้องการเผยแพร่ และ (2) การทำให้กลุ่มเป้าหมายนำข้อมูลไปใช้และสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้สอดคล้องกับความรู้ที่ได้รับ ทั้งนี้ ด้วยสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวน ประกอบกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 และการแข่งขันในตลาดโลกที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ราคาสินค้าเกษตรมีความผันผวนเป็นอย่างมาก รวมถึงกลไกการค้า ที่มุ่งเน้นคุณภาพและการตรวจสอบคุณภาพสินค้าเกษตรตั้งแต่การผลิตที่ต้นทาง และการบริโภคปลายทาง พี่น้องเกษตรกรจึงจำเป็นต้องมีข้อมูล และความรู้ที่ครบถ้วนอย่างรอบด้าน เพื่อพร้อมรับมือ อาทิ การลดต้นทุนในกระบวนการผลิต เพื่อให้สามารถแข่งขันด้านราคาได้ดีขึ้น การเพาะปลูกตามความเหมาะสมของดินและการปรับปรุงบำรุงดิน เพื่อให้ผลผลิตมีคุณภาพสูง การเพิ่มมูลค่าให้กับที่ดินของตนและการลดการพึ่งพากลไกราคาด้วยการทำไร่นาสวนผสม เศรษฐกิจพอเพียง และเกษตรทฤษฎีใหม่ การเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรด้วยการแปรรูปผลผลิต การบริหารจัดการน้ำเพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ เป็นต้น โดยกิจกรรมถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ (Field Day) ในวันนี้ จะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยเตรียมความพร้อมของเกษตรกรก่อนเข้าสู่ฤดูกาลผลิตใหม่ ปี 2565 เพื่อให้เกษตรกรสามารถนำองค์ความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในการปลูกสับปะรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลผลิตเพิ่มขึ้นและมีคุณภาพ สร้างผลตอบแทนให้กับเกษตรกรได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้จังหวัดเพชรบุรีมีพื้นที่ปลูกสัปปะรดกว่า 67,000ไร่ได้ผลผลิตกว่า130,000ตันต่อปี ส่วนใหญ่เป็นสัปปะรดโรงงานป้อนให้กับโรงงานในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ซึ่งอยู่ติดกัน
นอกจากนี้จะมีการตั้งศูนย์สัปปะรดที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ตามข้อสั่งการของดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้แล้วเสร็จภายในปีนี้เพื่อเพิ่มศักยภาพจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เป็นเมืองหลวงสัปปะรดของโลก ในขณะที่กระทรวงเกษครและสหกรณ์โดยกรมวิชาการได้พัฒนาสัปปะรดโรงงาน”พันธ์ุเพชรบุรี2”สำเร็จแล้วเป็นพันธ์ุที่ให้ผลผลิตต่อไร่สูงและเริ่มเผยแพร่หน่อพันธ์ุไปยังเกษตรกรแล้ว

พร้อมกันนี้ที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ.และคณะได้มอบพันธ์ุปลาพันธ์ุพืชและสารชีวภัณฑ์ให้กับเกษตรกรเพชรบุรี และได้เยี่ยมชมนิทรรศการความรู้ต่างๆเช่น การวิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์จากต้นกล้วยฟางข้าวหญ้าเนเปีย ตลอดจนการให้บริการและความรู้กับเกษตรกรของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทั้ง 5 สถานี คือ สถานีการเพิ่มผลผลิต สถานีการลดต้นทุน สถานีพัฒนาคุณภาพผลผลิต สถานีเพิ่มมูลค่าสร้างทางเลือก และสถานีลดรายจ่ายเพิ่มรายได้รวมทั้งฟาร์มแพะ-โคต้นแบบและฟาร์มผึ้งซึ่งมีการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆตลอดจนข้าวเกรียบผำหรือไข่น้ำที่เป็นซูเปอร์ฟู้ดอีกด้วย.

Design a site like this with WordPress.com
Get started