“ผบ.ตร.” ตรวจเยี่ยม บำรุงขวัญกำลังใจตำรวจพลร่ม ณ ค่ายนเรศวร


.
เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2566 ที่กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน หรือ ค่ายนเรศวร อ.ชะอำ จว.เพชรบุรี พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ( ผบ.ตร. ) เดินทางตรวจเยี่ยม และบำรุงขวัญกำลังใจ ข้าราชการตำรวจในสังกัด กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ
.
สำหรับ กองกำกับการ 1 กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ “หน่วยตำรวจพลร่มรบพิเศษ” มีหน้าที่หลักในการปฏิบัติการสงครามพิเศษ การยุทธส่งทางอากาศ การยุทธเคลื่อนที่ทางอากาศ การยิงสนุนบสนุนด้วยอาวุธประจำหน่วย ปฏิบัติการจิตวิทยา สนับสนุนภารกิจการรักษาความสงบเรียบร้อย รักษาความมั่นคงภายในและการป้องกันประเทศ รวมไปถึงการรักษาผลประโยชน์ของชาติ
.
กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ มีศักยภาพในการปฏิบัติการสงครามพิเศษ การยุทธส่งทางอากาศ และการยุทธเคลื่อนที่ทางอากาศสูง สามารถปฏิบัติงานได้ทั่วปรเทศ โดยกำลังส่วนหน้าสามารถเคลื่อนย้ายได้ภายใน 30 นาที และกำลังส่วนใหญ่เคลื่อนที่ได้ภายใน 2 ชั่วโมง ตามขีดความสามารถของอากาศยานสนับสนุน

ภัยผู้หญิงสวมกระโปรง….สืบนครบาลรวบไตเติ้ล นักถ่ายใต้กระโปรง พบเหยื่อกว่า 430 ราย

“ไตเติ้ล แอบถ่ายใต้กระโปรง” ภัยสำหรับสาวชอบนุ่งกระโปรง แฝงตัวตามห้างสรรพสินค้า สะพานลอย ในพื้นที่กรุงเทพฯ คัดเหยื่อหญิงสาวหุ่นดีและนุ่งกระโปรง ก่อนเดินประกบแล้วแอบใช้โทรศัพท์ถ่ายภาพใต้กระโปรง พร้อมใบหน้า ล่าสุดถูกชุด “สืบนครบาล” และ “PCT5” จับกุมตัวได้ในบ้านพักและขยายผลในโทรศัพท์ทำให้ชุดจับกุมถึงกับอึ้ง พบคลิปแอบถ่ายใต้กระโปรงพร้อมใบหน้าเหยื่อกว่า 430 ราย!!! ตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา เจ้าตัวยอมจำนนต่อหลักฐานสารภาพกับ “ผู้การจ๋อ” ทำไปเพราะชอบความตื่นเต้น เมื่อทำสำเร็จรู้สึกได้ปลดปล่อย ยิ่งกว่าการมีเซ็กส์ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. สั่งเร่งขยายผลกู้ข้อมูลในคอมพิวเตอร์โดยเร็วที่สุด

เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2566 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.พัชรดนัย การินทร์ ผกก.กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.ธนากร อ่อนทองคำ ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.ปรีชากรณ์ เหมาอำพมาตร์ รอง ผกก.สส.สน.ปทุมวัน , พ.ต.ท.มาโนชย์ ทองแก้ว , พ.ต.ท.ปกป้อง ฟองเลา , พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ สืบนครบาล และชุด PCT5 ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว

นายทรรศน์ เสมอภาค หรือ ไตเติ้ล อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47/111 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ จ.กรุงเทพฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.902/2566 ลงวันที่ 15 ก.ย.2566

ในข้อหา “กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะไม่สามารถขัดขืนได้ โดยได้บันทึกภาพหรือเสียงการกระทำอนาจารนั้นไว้เพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบสำหรับตนเองหรือผู้อื่นและกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการรังแก หรือข่มเหงผู้อื่น หรือกระทำให้ผู้อื่นได้รับความอับอาย หรือเดือดร้อนรำคาญในที่สาธารณสถาน”

ตรวจยึดของกลาง 2 รายการ
1.โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง (กู้ข้อมูลพบคลิปแอบถ่ายใต้กระโปรงกว่า 873 ภาพ ใบหน้าเหยื่อ 430 ราย)
2.คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง (พบข้อมูลการฝึกแอบถ่ายใต้กระโปรง-รอกู้ข้อมูล)

พฤติการณ์ กล่าวคือ “ไตเติ้ล นักแอบถ่ายใต้กระโปรง” ภัยเมืองกรุงของเหล่าเด็กสาว เมื่อได้เกิดกลุ่มลับที่พวกชายสายหื่นที่ชื่นชอบเสพสื่อลามกประเภทของการ “แอบถ่ายใต้กระโปรง“ แล้วนำคลิปมาแชร์มาเสพกันในกลุ่ม โดยแผนประทุษกรรมจะหาเหยื่อตามห้างดัง และสะพานลอย ในพื้นที่ จ.กรุงเทพฯ จากนั้นจะคัดเลือกเหยื่อที่เป็นเด็กหญิงที่ ”สวมกระโปรง” จากนั้นจะเดินสะกดรอยติดตามเยี่ยงคนโรคจิต จากนั้นเมื่อสบโอกาสก็จะใช้โทรศัพท์ถ่ายคลิปวีดิโอใต้กระโปรงเหยื่อ โดยเหยื่อเกือบทุกรายจะ ”ไม่รู้ตัว“ หรือบางรายรู้ตัว คนร้ายก็จะเดินหลบหนีไป ล่าสุดโคตรนักมุดรายนี้ได้ลงมือก่อเหตุในห้างดังย่านสามย่าน โดยก่อเหตุอย่างอุกอาจชนิดที่ไม่เกรงกลัวกล้องวงจรปิด เพราะมั่นใจว่าเหยื่อไม่รู้ตัว แต่แล้วได้มีพลเมืองดีแจ้งให้กับเหยื่อทราบว่าถูกแอบถ่าย จึงพากันเข้าแจ้งความดำเนินคดี ชุดสืบสวนของ สืบนครบาลตรวจสอบแผนประทุษกรรมพบพยานหลักฐานว่าคนร้ายรายนี้ก่อเหตุมาอย่างโชกโชน ซึ่งต่อมาได้สืบทราบว่าคนร้ายรายนี้คือ นายทรรศน์ฯ หรือ ไตเติ้ล อายุ 29 ปี ซึ่งได้ถูกออกหมายจับในเวลาต่อมา เรื่องนี้ถึงหู พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. , พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ได้สั่งการ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ให้ส่งชุดสืบสวนนครบาลมือดีสืบสวนติดตามจับกุมตัว ซึ่งต่อมาได้ติดตามจับกุมตัวได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่ง ย่านงามวงศ์วาน เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 66 ซึ่งจากการขยายผลในบ้านพักดังกล่าวพบหลักฐาน โทรศัพท์ และ คอมพิวเตอร์ ของคนร้ายซึ่งมีคลิปที่แอบถ่ายใต้กระโปรงลักษณะนี้อีกกว่า 873 ภาพ!! พร้อมภาพใบหน้าเหยื่อกว่า 430 ราย ทำเอาทั้งชุดสืบสวนถึงกับอึ้ง ซึ่งเจ้าตัวยอมจำนนต่อหลักฐานและรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่อย่างหมดเปลือก
ในชั้นจับกุม นายทรรศน์ฯ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ตนเองเป็นคนที่มีฐานะทางครอบครัวดี จบชั้นปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านดินแดง โดยจบมาแล้วก็เริ่มก่อเหตุ โดยจุดเริ่มต้นเกิดจากที่ตนเองมีรสนิยมในการเสพหนังโป๊แนวพิสดาร เช่น แนวมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสูงวัย หรือแนวที่มีเพศสัมพันธ์พิเศษ และในช่วงที่ตนเองว่างงานรู้สึกเบื่อจึงอยากหาความท้าทาย จึงเริ่มเรียนรู้โดยศึกษาการแอบถ่ายใต้กระโปรงหญิงสาว หรือการแอบถ่ายหญิงสาวเข้าห้องน้ำจากทางอินเตอร์เน็ท จนเริ่มลงมือก่อเหตุจริง โดยตนเองทำมาต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่า 7 ปี โดยจะทำเป็นช่วงๆ พักเป็นช่วงๆ ทำมาเรื่อยๆเป็นร้อยๆราย โดยตนจะชอบหาเหยื่อในพื้นที่ห้างดังต่างๆ และตามสะพานลอยในเส้นทางที่ตนเองเดินทาง โดยจะคัดเหยื่อที่เป็นหญิงสาวที่สวมกระโปรงและหุ่นดี และการก่อเหตุจะดูสถานการแวดล้อมในจุดที่คนน้อยเช่น ร้านเครื่องเขียน ร้านค้าในห้าง และที่ถนัดที่สุดคือบริเวณบันไดเลื่อนจะสามารถก่อเหตุได้ง่ายที่สุด ซึ่งตนเองไม่กลัวกล้องวงจรปิด เพราะมั่นใจว่าฝีมือเก่งก่อเหตุได้แบบเหยื่อไม่รู้ตัวแน่นอน โดยเข้าใจว่าทำแค่ร้อยราย แต่พอมาดูผลงานจริงๆพบว่า 430 ราย ตกใจเหมือนกัน ขอโทษเหยื่อที่เคยก่อเหตุมา ต่อจากนี้จะให้เกียรติและเป็นลูกผู้ชายมากขึ้น” หลังจับกุมตัว ได้นำตัวพร้อมของกลางที่ตรวจยึดส่งพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. (ผู้การจ๋อ) กล่าวว่า “เรายังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา เพราะเราพบพยานหลักฐานที่ได้จากการกู้ข้อมูล พบคลิปการแอบถ่ายลักษณะนี้กว่า 873 คลิป ซึ่งปรากฏผู้เสียหายกว่า 430 ราย ซึ่งเป็นเด็กนักเรียนกว่า 160 คน และเชื่อว่ายังมีอีกไม่น้อย ซึ่ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ได้สั่งการให้กู้ข้อมูลในคอมพิวเตอร์โดยเร็วที่สุด เพราะว่าหากภาพเหล่านี้หลุดออกไปจะทำลายชีวิตของหญิงสาวหลายร้อยชีวิตให้ตายทั้งเป็น จึงขอประชาสัมพันธ์ถึงพ่อแม่ผู้ปกครองให้ระมัดระวังบุตรหลานของท่าน มิจฉาชีพเหล่านี้แฝงตัวตามห้างสรรพสินค้าและเลือกก่อเหตุในจุดที่ง่ายต่อการแอบถ่าย และผู้ที่เคยตกเป็นเหยื่อคนร้ายรายนี้ ให้แจ้งมาที่เฟสบุ๊คเพจ สืบสวนนครบาล IDMB เรามีเจ้าหน้าที่ประสานงานตลอด 24 ชั่วโมง เพราะเป็นคดีสร้างความเสียหายกับผู้หญิงเป็นอย่างมากตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.”

บางซื่อ2,2-2,2-0ปล่อยแถวกวาดล้างวินผี ภายในพื้นที่ บขส พร้อมด้วยชุดเคลื่อนที่เร็ว,สายตรวจ,จราจร รวมทั้งสิ้นจำนวน 20 นาย

วันนี้ 2 ตุลาคม 2566 เวลา 05:00

ตามนโยบายของท่าน
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.
พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร.
พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.
พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.น.
พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2
มีนโยบายกวาดล้างอาชญากรรมในช่วงเทศกาลสำคัญและวันหยุดยาว โดยเฉพาะสถานีขนส่งผู้โดยขนาดใหญ่ เช่น บขส.หมอชิต2 ,BTS หมอชิต,MRT จตุจักร ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของ สน.บางซื่อ
วันที่ 2 ต.ค.66 เวลา 05.00น.
ภายใต้การอำนวยการของ
พ.ต.อ.ภูวดล อุ่นโพธิ ผกก.สน.บางซื่อ
ได้สั่งการให้
พ.ต.ท.วรภัทร สุขไทย
รอง ผกก.ป.สน.บางซื่อ
พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ พริ้งสกุล
รอง.ผกก.สอบสวน.สน.บางซื่อ
พ.ต.ต.ปิยะราษฎร์ ปวิธธาตรี
สวป.สน.บางซื่อ
ร.ต.ต.สนธยา นาคบางเเก้ว
รอง สวป.สน.บางซื่อ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจ,ชุดเคลื่อนที่เร็ว,จราจร สน.บางซื่อ กวดขันจับกุมกรณี วินผี
ไม่มีใบขับขี่สาธารณะ/ใช้รถผิดประเภท(ป้ายขาว)/ ดังนี้
1. นาย จักรกฤษฎ์ วรรณโส
ข้อหา -พกพาอาวุธมีดไปในเมืองหมู่บ้านหรือที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
         -ใช้รถผิดประเภท (วินป้ายขาว)
2.นาย ณัทภวัต ปิยะประชากร
ข้อหา -ไม่มีใบขับขี่สาธารณะ
          -ใช้รถผิดประเภท (วินป้ายขาว)
3.นาย อนุวัฒน์ ชลสงคราม
ข้อหา -ไม่มีใบขับขี่สาธารณะ
          -ใช้รถผิดประเภท (วินป้ายขาว)
4.นาย อำนาจ ต่ายเพชร
ข้อหา -ไม่มีใบขับขี่สาธารณะ
          -ใช้รถผิดประเภท (วินป้ายขาว)
5.นาย วศิน สิงหโท
ข้อหา -ไม่มีใบขับขี่สาธารณะ
          -ใช้รถผิดประเภท (วินป้ายขาว)
6.นาย สมชาย บุญเพ็ญ
ข้อหา -ไม่มีใบขับขี่สาธารณะ
          -ใช้รถผิดประเภท (วินป้ายขาว)
7.นาย ประวิทย์ ภาคกลาง 
ข้อหา -ไม่มีใบขับขี่สาธารณะ
          -ใช้รถผิดประเภท (วินป้ายขาว)
8.นาย สิทธิโชค อุปถัมภ์
ข้อหา -ไม่มีใบขับขี่สาธารณะ
          -ใช้รถผิดประเภท (วินป้ายขาว)
9.นาย สหัสคุณ ทวีศักดิ์
ข้อหา -ไม่มีใบขับขี่สาธารณะ
          -ใช้รถผิดประเภท (วินป้ายขาว)
10.นาย วีระยุทธ เข็มอุทา
ข้อหา -ไม่มีใบขับขี่สาธารณะ
          -ใช้รถผิดประเภท (วินป้ายขาว)
11.นาย วิชาญ พงษ์พาณิช
ข้อหา -ใช้รถผิดประเภท (วินป้ายขาว)
12.นาย สันติ ทับทอง
ข้อหา -ใช้รถผิดประเภท (วินป้ายขาว)
13.นาย อ้น พงษ์เจริญ
ข้อหา -ใช้รถผิดประเภท (วินป้ายขาว)
14.นาย ธีรพงษ์ เเสนโท
ข้อหา -ใช้รถผิดประเภท (วินป้ายขาว)
15.นาย ธนายุต สุขเกษม
ข้อหา -ใช้รถผิดประเภท (วินป้ายขาว)
16.นาย มานัด กะชิรัมย์
ข้อหา -ใช้รถผิดประเภท (วินป้ายขาว)

โดยผู้ต้องหาทั้ง 16 คน มีพฤติการณ์กล่าวคือ เป็นวินผี จยย.รับจ้าง ไม่มีใบขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ/ใช้รถผิดประเภท(ป้ายขาว) รับ-ส่ง ผู้โดยสารจากด้านหลัง บขส.หมอชิต(ฝั่งขาเข้า) มาส่งผู้โดยสารบริเวณหน้า BTS/MRT สวนจตุจักร เป็นประจำ สอบถามเบื้องต้น ผู้ต้องหารับสารภาพ จนท.ตำรวจชุดจับกุม จึงได้ตรวจหาสารเสพติดผู้ต้องหาทั้ง 16 คน โดยผู้ต้องหาคนที่1 พกพาอาวุธมีดไปในเมืองหมู่บ้านหรือที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร จึงแจ้งข้อหาและฐานความผิด ของผู้ต้องหาทั้ง 16 ทราบ และนำส่งพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ดำเนินคดีต่อไป

กรมศุลกากรส่งมอบตู้สินค้าประเภทซากสุกรของตกค้างและของกลางในคดีพิเศษ ที่ 59/2566 จำนวน 161 ตู้ ไปทำลาย

วันนี้ (29 กันยายน 2566) เวลา 13.00 น. นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร

พร้อมคณะให้การต้อนรับ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ น.สพ.สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ พร้อมคณะ เพื่อทำพิธีส่งมอบตู้สินค้าประเภทซากสุกรของกลางลักลอบนำเข้า 161 ตู้ คดีพิเศษ ที่ 59/2566 ไปทำลาย ร่วมด้วยผู้แทนจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ สมาคมผู้ประกอบการท่าเทียบเรือสินค้าและคอนเทนเนอร์และผู้ประกอบการสายเดินเรือ ณ ศูนย์เอกซเรย์และเทคโนโลยีศุลกากร สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า สืบเนื่องมาจากกรมศุลกากรได้ทำการสำรวจของค้างบัญชีเรือที่อยู่ในอารักขาของศุลกากรเกินกำหนดเวลา 30 วัน โดยไม่มีใบขนสินค้าอันได้รับรอง
และไม่ได้เสียอากรหรือวางเงินประกันค่าอากรที่พึงเรียกเก็บแก่ของนั้น รวมถึงไม่มีผู้ใดมาแสดงความเป็นเจ้าของ
จึงได้ทำการเปิดสำรวจและพบว่าเป็นสินค้าประเภทสุกรแช่แข็ง จำนวน 161 ตู้ ซึ่งต้องได้รับอนุญาตในการนำเข้าจากกรมปศุสัตว์ ต่อมากรมศุลกากรดำเนินการจัดทำหนังสือถึงกรมปศุสัตว์แจ้งการส่งมอบซากสุกรแช่แข็ง จำนวน 161 ตู้ เพื่อให้กรมปศุสัตว์ดำเนินการทำลายตามพระราชบัญญัติ โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 ระเบียบกรมปศุสัตว์ว่าด้วยการทำลายหรือจัดการโดยวิธีอื่นซึ่งสัตว์หรือซากสัตว์ที่ถูกยึดหรืออายัดไว้ กรณีนำเข้าหรือนำผ่านราชอาณาจักร พ.ศ. 2559 และข้อตกลงระหว่างกรมปศุสัตว์กับกรมศุลกากร เรื่อง การปฏิบัติเกี่ยวกับกรณีที่มีการจับกุมดำเนินคดีลักลอบนำสัตว์หรือซากสัตว์เข้ามาในราชอาณาจักร
นอกจากนี้ ในการดำเนินคดีอาญา กรมศุลกากรได้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ขอให้สืบสวนดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด ในความผิดฐานนำเข้าซึ่งสัตว์หรือซากสัตว์ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมปศุสัตว์ ตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 และพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 ต่อมา DSI รับกรณีขบวนการนำเข้าสินค้าประเภทซากสัตว์ (สุกร) เข้ามาในราชอาณาจักร เป็นคดีพิเศษ ที่ 59/2566 ซึ่งกรมศุลกากร กรมปศุสัตว์และ DSI ร่วมกันเปิดสำรวจตู้สินค้าตกค้างทั้งหมด 161 ตู้ แล้วเสร็จ และมีความเห็นร่วมกันในการนำของกลางสินค้าประเภทสุกรแช่แข็งทั้ง 161 ตู้ ไปทำลายตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดย DSI รับผิดชอบควบคุมการเคลื่อนย้ายตู้สินค้าไปทำลายตามสถานที่ที่กรมปศุสัตว์ได้จัดเตรียมไว้
อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวต่ออีกว่า ในวันนี้ ( 29 กันยายน 2566) กรมศุลกากรจึงส่งมอบตู้สินค้าประเภทซากสุกรของตกค้างและของกลาง จำนวน 161 ตู้ ให้กรมปศุสัตว์ เพื่อนำไปดำเนินการทำลายตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป และกรมศุลกากรจะเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจปล่อยตู้สินค้า ทั้งตู้สินค้าชนิดทั่วไปและตู้สินค้าควบคุมอุณหภูมิ (Reefer Container) โดยหากเป็นตู้สินค้าที่เป็นของควบคุมการนำเข้าตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 จะมีการตรวจร่วมกับเจ้าหน้าที่จากด่านกักกันสัตว์ กรมปศุสัตว์ในทุกกรณี รวมถึงได้กำชับพนักงานศุลกากรให้ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน ทั้งนี้ หากตรวจพบความผิดเกี่ยวกับสินค้าประเภทสุกรหรือเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ให้พนักงานศุลกากรดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดและร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน โดยไม่ยินยอมให้ทำความตกลงระงับคดีในชั้นศุลกากร และกรมศุลกากรพร้อมอำนวยความสะดวกและสนับสนุนพนักงานสอบสวน และบูรณาการตรวจสอบการลักลอบหรือหลีกเลี่ยงการนำเข้าเนื้อสุกรโดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมปศุสัตว์กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและเพื่อความปลอดภัย
ของประชาชน

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ผบ.ตร. เป็นประธานในพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำ ตร.

วันที่ 1 ต.ค.66 เวลา 09.09 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เป็นประธานในพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำ ตร. เพื่อเสริมสร้างสิริมงคล เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง ผบ.ตร. คนที่ 14 โดยมีคณะผู้บังคับบัญชาระดับสูงของ ตร. และสมาคมแม่บ้าน ตร. ร่วมพิธีฯ อย่างพร้อมเพรียงกัน

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดพิธีอำลาตำแหน่งแก่ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของ ตร.

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำหนดจัดพิธีอำลาตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และจเรตำรวจแห่งชาติ เนื่องในโอกาสที่เกษียณอายุราชการ ประจำปี 2566
ในวันศุกร์ ที่ 29 ก.ย.66 เวลา 15.00 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีตรวจแถวกองเกียรติยศ และพิธีสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 4
ณ บริเวณด้านหน้าอาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และพิธีถวายราชสักการะพระบรมรูปหล่อ รัชกาลที่ 9 ณ ห้องโถง ชั้น 1 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งนี้ เมื่อเสร็จสิ้นพิธีฯ ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้กำหนดให้จัดพิธีอำลาตำแหน่งแก่ผู้บังคับบัญชาระดับสูง ซึ่งประกอบด้วย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ๋
กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.อ.วิษณุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ โดยมีผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และข้าราชการตำรวจเข้าร่วมพิธีฯ อย่างพร้อมเพรียงกัน
สำหรับในช่วงท้ายของพิธีฯ ข้าราชการตำรวจจากหน่วยงานต่างๆ ในสังกัดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ตั้งแถวร่วมแสดงมุฑิตาจิต ในการส่งผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ที่เกษียณอายุราชการ ประจำปี พ.ศ. 2566 ณ บริเวณห้องโถง ชั้น 1 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ รอง ผบ ตร.(บร.) ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญ และประชุมรับฟังปัญหาอุปสรรค สภ.โพธิ์ทอง

ภ.จว.อ่างทอง
วันที่ 28 กันยายน พ.ศ.2566
เวลา 13.30 น.
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์ุเพ็ชร์ รอง ผบ ตร.(บร.) และคณะฯ ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญ และประชุมรับฟังปัญหาอุปสรรค สภ.โพธิ์ทอง และสภ.แสวงหา
โดยมี
พล.ต.ต.ไพศาล พฤกษจำรูญ ผบก.ภ.จว.อ่างทอง
พ.ต.อ.มงคล ภูวประภาชาติ รอง ผบก.ภ.จว.อ่างทอง
ผกก.สภ.โพธิ์ทอง และข้าราชการตำรวจในสังกัดฯ ร่วมรับการตรวจเยี่ยม
ณ ห้องประชุมชั้น 3 และบริเวณหน้า สภ.โพธิ์ทอง อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง

#ฝ่ายอำนวยการ5 #ตำรวจภูธรภาค1 #สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ รอง ผบ.ตร พร้อมด้วย พล.ต.ท.สำราญ ผู้ช่วยผบ.ตร. แถลงกรณีจับกุมผู้ต้องหาชาย4 ราย พร้อม ของกลางยาบ้า 15 ล้านเม็ด

วันนี้(พฤหัสที่ 28 ก.ย.66) เวลา 14.00 น.
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร พร้อมด้วย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผบ.ตร., พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผบก.สปพ. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวกรณี จับกุมผู้ต้องหาชาย4 ราย พร้อม ของกลางยาบ้า 15 ล้านเม็ด เฮโรฮีน 443 แท่ง ไอซ์ 420 กิโลกรัม และยาเสพติดประเภทแฮปปี้วอเตอร์และยาไฟว์ไฟว์ อีกจำนวนมาก ณ ห้องประชุม ฝอ. ชั้น 1 บก.สปพ./ทีมประชาสัมพันธ์ บช.น.

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ฯ ประธานพิธีปิดการฝึกอบรมหลักสูตร Local CAT


.
เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2566 เวลา 08.30 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. มอบหมายให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร.(ปป) เดินทางเป็นประธานพิธีปิดการฝึกอบรมหลักสูตรผู้ปฏิบัติหน้าที่ถวายความปลอดภัยในพื้นที่ ( Local CAT ) ทดแทน พื้นที่ไข่แดง ไข่ขาว และพื้นที่กระทะ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ณ ลานฝึกจิตอาสาภาค 1 ( ค่ายพระราม 6 ) อ.ชะอำ จว.เพชรบุรี
.
ทั้งนี้ผู้เข้ารับการฝึกประกอบด้วยข้าราชการตำรวจในสังกัด ภ.8, 9, บช.ก., บช.ส. รวมผู้เข้ารับการฝึกทั้งสิ้น 378 นาย ห้วงระยะการฝึกระหว่างวันที่ 29 สิงหาคม 2566 – 26 กันยนยน 2566
.
โดยมีผู้เข้าร่วมพิธีดังนี้
1.พล.ต.ต.ยงเกียรติ มนปราณีต รอง ผบช.ตชด.
2.พล.ต.ต.มณฑล บัวจีบ
รอง ผบช.ส.
4.พล.ต.ต.ถาวร แสงฤทธิ์ รอง ผบช. ภ.8
5.พล.ต.ต. วัลลพ จำนงค์อาษา
รอง ผบช.ภ 9

  1. พล.ต.ต.จิรเดช พระสว่าง
    ผบก.อก.บช.ก.
    7.พล.ต.ต.ธนพล โอบอ้อม ผบก.บก.กฝ.บช.ตชด.

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับ เครือเจริญโภคภัณฑ์และบมจ.ซีพี ออลล์ เตือนภัยออนไลน์


วันที่ 26 กันยายน 2566 เวลา 11.00 น. พล.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ที่ปรึกษาพิเศษ ตร.) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พล.ต.ต.ฐายุฏฐ์ จันทร์ถาวร รองผู้บัญชาการ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (รอง ผบช.สอท.) พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 (ผบก.น.5) และ พล.ต.ต.ชูศักดิ์ ขนาดนิด ผู้บังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบก.ตอท.บช.สอท.) พร้อมด้วย ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ ประธานคณะผู้บริหาร ยุทธศาสตร์ข้อมูลและการสื่อสาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ นายวรวิทย์ เจนธนากุล กรรมการบริหาร บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร นายวิชัย จันทร์จริยากุล กรรมการผู้จัดการ (ร่วม) บมจ.ซีพี ออลล์ นายสุชาติ วัฒนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.ซีพี ออลล์ นายศุภชัย ศรีทับทิม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.ซีพี ออลล์ ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และ เซเว่น เดลิเวอรี่ ร่วมเปิดโครงการรณรงค์สร้างความตระหนักรู้และป้องปรามภัยอาชญากรรมออนไลน์ ณ ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น (7-11) ชั้น 1 อาคารซีพี ทาวเวอร์ ถนนสีลม

พล.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จัดทำระบบรับแจ้งความ เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2565 เปิดดำเนินการรับแจ้งความออนไลน์และนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อหามาตรการในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้จัดทีมวิทยากรของคณะทำงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันต้านภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และครูไซเบอร์ทั้งครู ก. และครู ข. ออกบรรยายให้ความรู้ รวมทั้งได้มีการนำแบบทดสอบ วัคซีนไซเบอร์ จำนวน 40 ข้อ มาประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนได้ทำแบบทดสอบ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้มีภูมิคุ้มกันภัยออนไลน์ ขณะเดียวกันได้มีการขับเคลื่อนกิจกรรมโครงการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ ทั้งในช่องทางออนไลน์ (Online) และออนไซต์ (Onsite) อีกทั้งได้ผนึกกำลังร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในการรณรงค์ประชาสัมพันธ์เพื่อแจ้งเตือนให้ประชาชนทราบและมีภูมิคุ้มกันภัยไซเบอร์ในหลายวิธี หลายช่องทาง ถึงแม้การรับแจ้งความออนไลน์มีสถิติลดลง แต่ยังไม่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากยังมีประชาชนตกเป็นเหยื่อของคนร้ายอยู่ จึงต้องเร่งประชาสัมพันธ์ในช่องทางอื่นเพิ่มเติม และได้เล็งเห็นว่าร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น (7-11) มีการเปิดให้บริการอยู่ในชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศ มีผู้ใช้บริการในแต่ละวันจำนวนมาก จึงได้มีการประสานงานไปยัง บมจ.ซีพี ออลล์ เพื่อขอความอนุเคราะห์ติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์เตือนภัยออนไลน์บริเวณที่ประชาชนสามารถมองเห็นได้ง่าย เป็นการเพิ่มช่องทางให้ประชาชนได้รู้เท่าทันภัยออนไลน์เพิ่มมากขึ้น และวันนี้ได้รับความร่วมมือจาก เครือเจริญโภคภัณฑ์ และบมจ.ซีพี ออลล์ ให้การสนับสนุนการจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ในครั้งนี้เป็นอย่างดียิ่ง เชื่อว่าการประสานความร่วมมือในครั้งนี้จะขยายการรับรู้ถึงข้อมูลและข่าวสารของประชาชนในกลุ่มต่างๆ ที่เข้ามาใช้บริการร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น (7-11) ทั่วประเทศเป็นอย่างดี
พล.ต.อ.สมพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รู้เท่าทันภัยออนไลน์อย่างต่อเนื่อง จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ทำแบบทดสอบวัคซีนไซเบอร์ จำนวน 40 ข้อ โดยเริ่มทำแบบทดสอบได้ตั้งแต่วันที่ 11 กรกฎาคม 2566 จนถึง วันที่ 30 กันยายน 2566 หากทำแบบทดสอบครบ 40 ข้อแล้ว จะได้รับ Whoscall Premium Gift Code ฟรี ซึ่งสามารถใช้บริการ Whoscall Premium Feature ได้ฟรี เป็นระยะเวลา 1 ปี หากทำแบบทดสอบได้ถูกต้องตั้งแต่ 35 ข้อ ขึ้นไป จะมีสิทธิ์ลุ้นรางวัล iPhone 14 เดือนละ 20 รางวัล เป็นเวลา 3 เดือน รวม 60 รางวัล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จับรางวัลผู้โชคดีประจำเดือน กรกฎาคม และ สิงหาคม 2566 เดือนละ 20 รางวัล รวม 40 รางวัลไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับผู้โชคดีสามารถตรวจสอบรายชื่อได้ที่ช่องทาง http://www.เตือนภัยออนไลน์.com และขอให้พี่น้องประชาชนได้ช่วยกันประชาชนสัมพันธ์ ช่วยกันแชร์แบบทดสอบเพื่อให้พี่น้องประชาชนได้ทำแบบทดสอบและรู้เท่าทันกลโกงของคนร้ายบนโลกออนไลน์ และไม่ตกเป็นเหยื่อ รวมทั้งขอประชาสัมพันธ์ช่องทางการแจ้งความ แจ้งเบาะแส และให้คำปรึกษา ได้ที่ http://www.thaipoliceonline.com หมายเลขโทรศัพท์ 081-866-3000 หรือโทรผ่านสายด่วน 1441 สำหรับช่องทางประชาสัมพันธ์เตือนภัยออนไลน์ ประชาชนสามารถศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับภัยออนไลน์รูปแบบต่างๆ ผ่านทาง http://www.เตือนภัยออนไลน์.com และ Facebook https://www.facebook.com/เตือนภัยออนไลน์”
(QR CODE ข้อสอบ 40 ข้อ สำหรับประชาชน)

ด้าน ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ ประธานคณะผู้บริหาร ยุทธศาสตร์ข้อมูลและการสื่อสาร
เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า เรื่องของอาชญากรรมทางไซเบอร์ นอกจากบทบาทของภาครัฐแล้ว ในส่วนของภาคเอกชนมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างความตระหนักรู้ ซึ่งในตอนนี้การจ่ายเงินผ่านช่องทางออนไลน์เป็นที่นิยมมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็เป็นการเปิดช่องให้มิจฉาชีพใช้รูปแบบใหม่ๆ มาหลอกลวงประชาชน ดังนั้นสิ่งที่ประชาชนสามารถทำได้เลยคือ การแบ่งเงินที่จะใช้จ่ายมาไว้ในกระเป๋าเงินดิจิทัล ซึ่งเป็นการกระจายความเสี่ยงป้องกันการถูกหลอกจากมิจฉาชีพ เพราะวงเงินที่ถูกหลอกไปจะเป็นวงเงินที่จำกัดอยู่ในกระเป๋าเงินดิจิทัลเท่านั้น นอกจากนี้้ในแง่ของเทคโนโลยีควรจะใช้เทคโนโลยีที่มีการยืนยันตัวตนในหลายขั้นตอน เช่น การให้สแกนใบหน้า การยืนยันตัวตนผ่าน OTP ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของอาชญากรรมทางไซเบอร์ได้ โดยการแก้ปัญหาอาชญากรรมทางไซเบอร์ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการรณรงค์ เพื่อสร้างความตระหนักรู้ป้องกันภัยอาชญากรรมไซเบอร์ และขอขอบคุณทาง
บมจ.ซีพี ออลล์ บริษัทในเครือซีพีที่ให้ความร่วมมือในครั้งนี้

นายวิชัย จันทร์จริยากุล กรรมการผู้จัดการ (ร่วม) บมจ.ซีพี ออลล์ ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และ เซเว่นเดลิเวอรี่ กล่าวว่า “เป็นที่ทราบกันว่า ในปัจจุบันปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ อาชญากรรมทางไซเบอร์ เป็นเรื่องที่ใกล้ตัวทุกคนมากขึ้น เนื่องจากมีการนำเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนสำคัญในชีวิตประจำวัน ส่งผลให้จำนวนของผู้ที่ถูกหลอกลวงและรับผลกระทบจากอาชญากรรมดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ดังนั้นทุกภาคส่วนต้องช่วยกันป้องกันและชี้ให้เห็นอันตรายของภัยไซเบอร์ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน และตระหนักถึงกลโกงของเหล่ามิจฉาชีพ

เครือเจริญโภคภัณฑ์ และ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) จึงได้ดำเนินโครงการรณรงค์สร้างความตระหนักรู้และป้องปรามภัยอาชญากรรมออนไลน์ ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำสื่อโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์ในเรื่องที่เกี่ยวกับพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 และ บัญชีม้า เผยแพร่ภายในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น กว่า 14,000 สาขาทั่วประเทศ โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการฯนี้จะช่วยประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ประชาชนได้เข้าใจ ไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน รู้ทันกลโกง และตระหนักรู้เกี่ยวกับภัยออนไลน์ได้มากขึ้น”

ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเครือซีพี ได้ร่วมมือกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือ ว่าด้วยการประชาสัมพันธ์สื่อสร้างภูมิคุ้มกันต้านภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ โครงการ “ผนึกกำลังร่วมใจ ต้านภัยไซเบอร์ ไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน รู้ทันกลโกง” ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อสร้างเครือข่าย สร้างภูมิคุ้มกันแก่ประชาชนได้รู้เท่าทันกลโกงในรูปแบบต่างๆ ที่ผ่านมาได้ร่วมมือกับกลุ่มธุรกิจในเครือ อาทิ บริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) (แม็คโคร และ โลตัส) สถานีข่าว TNN รวมถึงมีการส่ง SMS เตือนภัยผ่านเครือข่ายทรูมูฟ เอช ซึ่งมีผู้ใช้บริการรวม 37 ล้านเลขหมาย เพื่อช่วยประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารการเตือนภัยออนไลน์ สอดคล้องกับค่านิยม 3 ประโยชน์ที่เครือฯ ยึดมั่นในการตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน สร้างประโยชน์ต่อประเทศชาติ และประชาชนเป็นสำคัญ

Design a site like this with WordPress.com
Get started